ไม่ว่าบัณฑิตาจะได้รับความคิดของใครมา ในขณะนี้เธอพูดสิ่งเหล่านี้ออกมาอย่างจริงใจ และทำให้กนกอรประทับใจด้วย
เธอหยุด มองบัณฑิตาแล้วพูดขึ้น “คุณน้า ขอบคุณนะคะ ได้รับคำอวยพรจากคุณ ฉันกับนฤเบศวร์จะต้องมีความสุขแน่ๆ ค่ะ”
“คุณน้า ฉันรู้ว่าตระกูลฉันเทียบไม่ได้กับตระกูลเดชอุปของพวกคุณ ได้โปรดเชื่อฉันนะคะ ฉันกับคนในครอบครัวฉันไม่ได้เข้าหาเงินของตระกูลเดชอุปของพวกคุณ ไม่ว่าจะเป็นก่อนแต่งงานหรือหลังแต่งงาน ครอบครัวเราจะไม่รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากนฤเบศวร์”
“ครอบครัวเราก็ไม่มีส่วนไหนที่จำเป็นต้องการความช่วยเหลือจากครอบครัวพวกคุณ พ่อกับพี่ชายฉันมีงานกันหมด รายได้พวกเขาเมื่อเทียบกับครอบครัวร่ำรวยอย่างพวกคุณอาจจะดูน้อยมาก แต่สำหรับครอบครัวธรรมดาเป็นเงินเดือนที่สูงแล้ว จ่ายค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวแล้วก็ยังมีเงินเหลือ”
“ตอนนี้ร้านฉันก็ได้รับกำไร ฉันจะขยายหน้าร้าน ขยายกิจการ ถ้าฉันตั้งใจบริหาร เชื่อว่ามันจะเจริญรุ่งเรืองขึ้น คนที่ฉันรักคือนฤเบศวร์คนคนนี้ ไม่ได้หวังชื่อหรือผลประโยชน์จากเขา ฉันก็เลี้ยงดูตัวเองได้ เงินที่ฉันหามาได้มากพอให้ฉันใช้จ่าย แถมเหลือเหลืออยู่บ้าง”
“บางทีในสายตาคุณฉันอาจจะไม่ได้โดดเด่น และไม่ใช่ตัวเลือกลูกสะใภ้ของคุณ แต่ได้โปรดให้โอกาสพวกเราสักครั้ง เราเคยอยู่ร่วมกันแล้ว ถ้าเข้ากันไม่ได้จริงๆ ฉันกับนฤเบศวร์ค่อยย้ายออกไปอยู่ รักษาระยะห่างเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่มากขึ้น”
กนกอรเชื่อว่า หากได้อยู่ร่วมกับเธอแล้ว เธอจะไม่ปฏิบัติกับบัณฑิตาโดยมีอคติอีกแล้ว แม่สามีลูกสะใภ้อย่างพวกเธอจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ
ด้วยคำพูดของบัณฑิตา พวกเธอรักผู้ชายคนเดียวกัน ไม่มีใครอยากให้ผู้ชายที่พวกเธอรักต้องลำบากใจ
มีปัญหา ก็ตั้งใจสื่อสารกันสักหน่อย
ตราบใดที่มันไม่ไร้เหตุผล ก็สามารถสื่อสารกันได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่กลัวที่สุดคือ ไม่ให้โอกาสกันและกันเลย แบบนั้นจะไม่สามารถเข้าใจอีกฝ่าย ไม่สามารถสื่อสารกันได้ ความขัดแย้งก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ความรักต้องมอบให้กันและกัน
งานแต่งและครอบครัวจำเป็นต้องให้ทุกคนวางแผนจัดการ
บัณฑิตารู้ว่าอนาคตของกนกอรไม่แย่ เธอเป็นเพื่อนสนิทของเทวิกาด้วย อนาคตของกนกอรนั้นหาที่สุดมิได้
กนกอรยอมให้โอกาสเธอ พวกเธออยู่ร่วมกัน เข้าใจกัน ไม่แน่ว่าแม่สามีลูกสะใภ้จะสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้
หากเข้ากันไม่ได้จริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็รักษาระยะห่าง
แค่กนกอรดูแลลูกชายเธอเป็นอย่างดี ทำให้ลูกชายเธอมีความสุขในทุกๆ วัน เธอจะมีอะไรไม่พึงพอใจอีก?
ในฐานะพ่อแม่ ก็ปรารถนาให้ลูกๆ มีความสุขไม่ใช่เหรอ?
“กนกอร ขอบคุณนะ”
กนกอรยิ้มนิดๆ “คุณน้า ขอบคุณเหมือนกันนะคะ”
ทั้งสองยิ้มให้กันและกัน
รอยยิ้มลบล้างความเกลียดชัง
……
ลินท์ท้องอยู่ ไม่สามารถออกไปฮันนีมูนไกลๆ ได้ กษิดิพาเธอไปพักชั่วคราวที่จุดชมวิวในเมืองนี้ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์และเพลิดเพลินกับโลกของทั้งสอง
ตอนเช้า หลังจากส่งสามีภรรยาหนุ่มสาวออกไปแล้ว เทวิกากับสามีเธอสองคนก็จะติดตามพ่อแม่แท้ๆ กลับไปยังเมืองซูเพร่า
สนามหญ้าขนาดใหญ่ใต้คฤหาสน์เมเปิล มีเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลสาระทาจอดอยู่หลายลำ
พิชญ์สินีจับมือลูกสาว แล้วกำชับอีกครั้ง
“แม่ ฉันจะกลับมาเยี่ยมแม่กับพ่อบ่อยๆ”
เทวิกายิ้ม ยิ้มไปยิ้มมา ดวงตาเธอก็แดง โอบกอดคุณแม่อย่างอดไม่ได้
นี่คือคุณแม่ที่มองเธอเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน พิชญ์สินีก็ยังเป็นแม่ของเธอ
“แม่ ฉันคือลูกสาวแม่ตลอดไป ตอนฉันไม่อยู่ข้างๆ แม่ แม่กับพ่อ รวมถึงปู่ย่าต้องดูแลสุขภาพให้ดี อย่าเหนื่อยเกินไป พวกคุณอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ควรพักผ่อนบ้าง ตอนนี้บริษัทพี่ชายฉันรุ่งเรืองขึ้น ไม่ต้องกังวลมากเกินไปนะคะ”
บริษัทชเนนทร์เจริญรุ่งเรืองขึ้น หัวใจก็มีที่พึ่งพิง
สิรภพและภรรยาไม่มีอะไรต้องกังวลใจแล้ว
เพียงแต่ลูกสาวที่เลี้ยงดูมาอยู่เคียงข้างตนตั้งแต่ครึ่งขวบ คราวนี้ต้องห่างกันไกลหลายพันไมล์ ถึงแม้ตระกูลสาระทาจะมีเครื่องบินส่วนตัว อยากกลับมาก็กลับมาได้ทุกเมื่อ แต่ในใจพิชญ์สินีก็ยังเกิดความรู้สึกไม่ยินยอมมากมาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน