หลังจากเทวิกาและลูกสาวขึ้นชั้นบนไป ก็หลับไม่ลง
เทวิกาออกจากบ้านมายี่สิบกว่าปี วันนี้เพิ่งกลับมา ออกจากบ้านมาตั้งแต่ครึ่งขวบ ไม่มีแนวคิดและความทรงจำใดๆ เกี่ยวกับบ้าน เมื่อกลับมาอีกครั้งก็แต่งงานแล้ว
เธอเกิดความรู้สึกตื่นเต้นมาก
ถึงแม้ตระกูลสาระทาจะซับซ้อน ทุกคนสวมหน้ากากเล่นละคร แต่ก็ขัดขวางความรู้สึกตื่นเต้นของเธอที่ได้กลับมายังครอบครัวผู้ให้กำเนิดไม่ได้
ญาณินพาลูกสาวเข้าไปในห้องตัวเอง ตั้งใจว่าสองแม่ลูกจะนอนพักกลางวันด้วยกัน
ห้องของเธอ ทุกอย่างรักษาไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และป้าอ้อยปัดกวาดมันอย่างสะอาดสะอ้าน
“วิกา นี่ห้องแม่”
ญาณินมองไปรอบๆ หนึ่งครั้ง เงียบสักพัก ก่อนจะพูดกับลูกสาวว่า “ลูกโดนคนอุ้มไปที่ห้องนี้แหละ จากนั้นแม่ก็อยู่ในห้องนี้ตลอด ไม่ยอมย้าย ยี่สิบกว่าปีที่เป็นบ้า แม่ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน ปกติพักอยู่ที่นี่”
ถึงแม้ตอนเธอเป็นบ้า แล้วอุ้มตุ๊กตาตัวหนึ่งเหมือนเป็นลูกสาว เพราะลูกสาวอยู่ที่นี่มาครึ่งปีในจิตใต้สำนึก
เธอคิดว่า ถ้าเธอไม่ออกไปจากห้องนี้ วิกาจะต้องกลับมาแน่นอน
หากออกไปแล้ว วิกากลับมาจะหาเธอไม่เจอ
เทวิกากอดคุณแม่ “แม่ มันผ่านไปหมดแล้ว ต่อไปฉันจะอยู่เคียงข้างแม่บ่อยๆ นะ”
ไม่แปลกใจเลยตอนที่เพิ่งเห็นหน้าคุณแม่ สีหน้าเธอซีดเซียว เพราะอยู่ในห้องนี้บ่อยๆ ไม่ค่อยได้เจอแสงแดดนี่เอง
ญาณินพาลูกสาวไปดูห้อง ใบหน้าก็ยิ้มแย้ม “อืม มันผ่านไปแล้ว ต่อไปลูกอยู่ที่ไหน แม่ก็อยู่ที่นั่น แต่ลูกไม่จำเป็นต้องอยู่กับแม่บ่อยๆ หรอกนะ ลูกยังสาว มีงานของลูก มีสังคมเพื่อนของลูก”
“แม่อายุมากแล้ว แค่ได้เห็นลูกบ่อยๆ รู้ว่าลูกมีความสุขดี แม่ก็สุขใจมากแล้ว แม่เตือนลูกไว้อย่างหนึ่ง ไม่ว่าลูกจะยุ่งแค่ไหน ก็ห้ามละเลยลูกเขยแม่นะ พัฒน์กลับมาพร้อมกับพวกเราขฌ ลูกอย่ารังแกเขา”
เทวิกา “……แม่ ฉันไม่เคยรังแกเขาเลยนะคะ ทุกครั้งที่ได้ยินแม่พูดแบบนี้ ฉันเอาแต่คิดว่าแม่รักเขามากกว่า เหมือนเขาเป็นลูกแท้ๆ ของแม่ ส่วนฉันเก็บมาเลี้ยง”
ญาณินหลุดขำ “ตอนลูกอยู่ที่ตระกูลอริยชัยกุล ครอบครัวสามีลูกก็ดีกับลูกมากกว่าไม่ใช่เหรอ? ที่แม่ดีกับพัฒน์ เพราะหวังว่าเขาจะดีกับลูกมากขึ้น ผู้ใหญ่ในครอบครัวพวกเขาก็คงคิดเหมือนกัน”
เทวิกาค่อยๆ เยี่ยมชมห้องที่คุณแม่อาศัยอยู่เป็นเวลายี่สิบกว่าปี เธอไม่พลาดทุกมุมด้านใน เมื่อเธอเปิดตู้เสื้อผ้า ก็พบว่ามีตุ๊กตาหนึ่งตู้วางอยู่ในตู้เสื้อผ้า ตุ๊กตาเหล่านี้เหมือนกันหมดเลย
เธอรู้สึกคุ้นตา
มันคือตุ๊กตาตัวนั้นที่แม่เธออุ้มไว้ไม่ยอมปล่อยมือก่อนจะหายบ้า
จำได้ว่าตอนเธอพบแม่แท้ๆ ครั้งแรก คุณแม่ก็อุ้มตุ๊กตาแล้วเรียกมันว่าวิกา
“เอ๋ ทำไมในนี้มีตุ๊กตาเยอะขนาดนี้ล่ะคะ เหมือนกันหมดเลยด้วย”
ญาณินคิดไม่ถึงว่าในตู้เธอมีตุ๊กตามากมายขนาดนี้
เธอหยิบตุ๊กตาตัวหนึ่งออกมาจากในตู้ ลูบขนตุ๊กตาอย่างอ่อนโยน “อาจจะเป็นตุ๊กตาที่พี่ชายลูกซื้อมา หรือไม่ก็พ่อของลูก เมื่อก่อนแม่มักจะอุ้มตุ๊กตา มองว่ามันเป็นลูก แต่บางคนก็เลวมาก จงใจทำลายตุ๊กตาของแม่ หรือไม่ก็แย่งมันเอาไปทิ้ง”
“บางครั้งก็เอากลับมาไม่ได้ เลยซื้อตัวใหม่มาแทนที่ แม่แค่มองหาตุ๊กตาลักษณะแบบนี้เท่านั้น”
ญาณินคาดเดาทั้งหมด แต่คาดเดาได้ใกล้เคียงมาก
เมื่อก่อนตุ๊กตาของเธอโดนแย่งไปบ่อยๆ ต่อมาหลังจากประยสย์โตขึ้นหน่อย รู้จักปกป้องคุณแม่ เธอก็อุ้มตุ๊กตาตัวนั้นได้นานขึ้น จนกระทั่งตามหาเทวิกาเจอ ก็ไม่เคยเปลี่ยนตัวเลย
เทวิกาหยิบตุ๊กตาตัวนั้นจากมือคุณแม่มาวางไว้ข้างๆ จากนั้นก็กอดคุณแม่อีกครั้ง
ญาณินกอดตอบเธอ มือก็ลูบแผ่นหลังเทวิกาเบาๆ
ผ่านไปนานสักพัก ญาณินก็ผลักลูกสาวออกเบาๆ แล้วถามเสียงอ่อนโยน “วิกา เหนื่อยแล้วสิ นอนสักพักก่อนนะ วันนี้ตื่นเช้ามากเลย”
“ฉันนอนไม่หลับค่ะ”
เทวิกาควงแขนคุณแม่อย่างสนิทสนมไม่ปล่อยมือ “ฉันแค่อยากอยู่กับแม่ อยากคุยกับแม่ค่ะ”
ญาณินยิ้ม พาลูกสาวเดินมานั่งหน้าโซฟา เธอให้เทวิกานอนลง ศีรษะหนุนตักเธอ คุยกันแบบนี้ บางทีลูกสาวอาจจะหลับได้
โน้มศีรษะลงมา เห็นใบหน้าสวยหยาดเยิ้มของลูกสาว รอยยิ้มญาณินก็เกิดความรักใคร่เอ็นดูมากขึ้นดท ราวกับสิ่งที่โผล่ออกมาตรงหน้าคือกลุ่มก้อนขนาดเล็ก เธอเหมือนฝันไป พอตื่นขึ้นมาลูกสาวก็เติบโต แต่งงานแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน