รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน นิยาย บท 511

สรุปบท บทที่ 511 ประยสย์ชอบรีดเลือดกับปู: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน

บทที่ 511 ประยสย์ชอบรีดเลือดกับปู – ตอนที่ต้องอ่านของ รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน

ตอนนี้ของ รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน โดย เฟยเฟย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 511 ประยสย์ชอบรีดเลือดกับปู จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

กิติยางานยุ่งมาตลอดทั้งวัน แล้วก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว พออาบน้ำอุ่นสบายเสร็จแล้ว ก็ได้รับข้อความจากชเนนทร์ พอรู้ว่าเขากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว ก็เดินไปดูที่ห้องน้องสาวสักหน่อย พอเห็นว่าน้องสาวไปเฝ้าพระอินทร์แล้ว เธอก็กลับไปที่ห้องตัวเอง

ไม่นาน กิติยาก็ไปเฝ้าพระอินทร์ด้วยเหมือนกัน

สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ พอไฟในห้องเธอดับลงไปครึ่งชั่วโมง น้องสาวที่ดูอ่อนโยน เหมือนลมพัดมาระลอกหนึ่งก็จะถูกพัดล้มไปคนนั้นของเธอ ได้แอบลุกขึ้นมาเงียบ ๆ มาเปิดคอมพิวเตอร์ออก แล้วอ่านอีเมลที่กัญจ์ส่งมาให้เธอ

ตอนที่อ่านข้อกำหนดในใบจ้างงานของประยสย์จบแล้ว กัญณิศาก็แทบจะควบคุมตัวเองไม่ไหว จนเกือบจะตบโต๊ะและลุกขึ้นมาด่าคนแล้ว

ประยสย์ขอให้เธอช่วยสืบหาความจริงเรื่องที่วิกาถูกลักพาตัวไปเมื่อยี่สิบสามปีก่อน และให้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดด้วย

“ประยสย์นะประยสย์ นี่นายรีดเลือดกับปูชัด ๆ!”

กัญณิศาถูกความไร้ยางอายของประยสย์ทำให้โมโหจนเดินวนไปทั่วห้อง

“พวกนายสองคนพ่อลูกเป็นคนใหญ่คนโตมากแค่ไหน สืบหามานานขนาดนี้ยังไม่สามารถรวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาได้ แล้วยศพัฒน์คือใคร ผู้ช่วยพิเศษของเขาก็ยังได้ขอให้คนของตระกูลกิจวณิชกุลมาช่วยแล้ว ซึ่งตระกูลกิจวณิชกุลนั้นเป็นผู้อาวุโสของผู้อาวุโสในสายงานที่เราทำแล้ว แต่ก็ยังสามารถสืบหาเบาะแสที่มีประโยชน์มาได้แค่นิดเดียว แล้วฉันจะไปสืบหาอะไรมาได้ล่ะ?”

“ประยสย์ นี่คุณให้เกียรติฉัน หรือตั้งใจมาหาเรื่องฉันกันแน่?”

กัญณิศาหันกลับไปนั่งลงตรงหน้าคอมพิวเตอร์ แล้วก็ตรวจดูบัญชีสำนักงานนักสืบอีกครั้ง มีเงินก้อนใหญ่โอนเข้าบัญชีมาแล้วจริง ๆ เมื่อเทียบกับเงินมัดจำเมื่อคราวที่แล้ว ครั้งนี้ประยสย์จ่ายเงินมัดจำมาหลายล้านเลย

พอก่นด่าประยสย์ไปพักหนึ่ง กัญณิศาก็ส่งข้อความไปให้กัญจ์ ให้กัญจ์ไปปฏิเสธประยสย์ ถึงแม้ว่าสำนักงานของพวกเขาจะฝ่าฟันจนมีชื่อเสียงขึ้นมาที่เมืองแอคเซสซ์ แต่ก็ไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน คดีที่ไม่มีที่มาที่ไปของตระกูลสาระทาเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เธอไม่มีปัญญาไปตรวจสอบให้ชัดเจนได้หรอก

คิดว่าเธอเป็นเปาปุ้นจิ้นกลับชาติมาเกิดเหรอ?

เปาปุ้นจิ้นกลับชาติมาเกิดก็คงจะไม่สามารถสืบหาความจริงได้หรอก ระยะเวลาผ่านมานานมากแล้ว ตั้งยี่สิบกว่าปี คุณวรันธรคนที่ลักพาตัววิกาไปคนนั้นก็ตายไปตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว ยศพัฒน์เป็นคนขุดตัวหลานสาวของเธอออกมา ซึ่งก็สามารถยืนยันได้แค่ว่าลูกหลานของคุณวรันธรมาแก้แค้นเท่านั้น

และที่สำคัญคดีที่ไร้ที่มาที่ไปนี้ก็ยังไปเกี่ยวข้องกับภายในตระกูลสาระทาอีก ในตอนแรกเธอไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง อยากจะไปตรวจสอบตระกูลสาระทา แต่เกือบจะถูกจับตัวได้ และเธอก็พบว่าตระกูลสาระทาถูกเฝ้าดูแลราวกับมีกำแพงเหล็ก สิ่งที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ก็มีแค่เรื่องที่สามารถให้คนอื่นรู้ได้เท่านั้น

เรื่องที่ให้คนอื่นรู้ไม่ได้ ถ้าคนภายนอกอย่างพวกเขาอยากตรวจสอบ อยากรวบรวมหลักฐานทุกอย่างนั้น มันก็ยากมาก นอกจากคนในของตระกูลสาระทาเป็นคนเปิดเผยออกมาเท่านั้น

ไม่นานกัญจ์ก็โทรเข้ามาอย่างรวดเร็ว

กัญณิศากดรับสาย เปิดปากมาก็ก่นด่าขึ้นในโทรศัพท์เลย “เวลาดึกขนาดนี้แล้ว นายส่งข้อความมาก็พอแล้ว จะโทรมาอีกทำไม งานใหญ่ขนาดนี้ นายยังจะรับมาอีก ไม่รู้จักปฏิเสธบ้างเหรอ”

ครั้งที่แล้วประยสย์จ่ายตังค์มาให้เธอสืบเรื่องของตัวเอง ทำให้รู้สึกปวดหัวมาก จนต้องวิ่งกลับไปเมืองซูเพร่าชั่วข้ามคืน ต้องใช้ฝีมือทั้งหมดที่มีถึงจะเข้าไปในห้องของประยสย์ได้ แล้วให้เขายุติข้อตกลงไป และคืนเงินมัดจำกลับไป

และรักษาชื่อเสียงสำนักงานนักสืบของเธอเอาไว้ได้

พอมาอีกครั้ง หรือว่าจะต้องให้เธอวิ่งไปเมืองซูเพร่าเป็นพันลี้อีกครั้ง แล้วไปหาประยสย์อีกครั้งเหรอ?

แล้วครั้งนี้เธอควรไปหาประยสย์ด้วยหัวข้อเรื่องอะไรล่ะ?

กัญณิศากล้าพูดได้เลย ถ้าเธอไปเมืองซูเพร่า ประยสย์ก็จะต้องรู้แน่ ๆ ว่าเธอคือเจ้านายผู้อยู่เบื้องหลังสำนักนักสืบXX

“บอส พิมพ์ข้อความมันช้าเกินไป พูดเอาเร็วกว่า คุณชายประยสย์ไม่ให้โอกาสพวกเราปฏิเสธด้วยซ้ำ และที่สำคัญเขายังทิ้งท้ายคำพูดไว้ด้วยว่า ถ้าเราปฏิเสธงานของเขา เขาก็จะทำลายสำนักงานของเราซะ”

“บอส คนที่โหดเหี้ยมและเย็นชาอย่างคุณชายประยสย์ จะต้องเป็นคนที่พูดจริงทำจริงแน่”

กัญจ์รู้สึกว่าตัวเองก็แค่อยากรักษาสำนักงานไว้ไม่อยากให้ถูกทำลายไป

ใครใช้ให้พวกเขาถูกเรื่องยุ่งยากจดจ้องเข้าให้ล่ะ?

กัญจ์รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าบอสของตัวเองน่าจะไปขัดใจคุณชายประยสย์เข้า ดังนั้นคุณชายประยสย์ถึงได้มาหาเรื่องยุ่งยากกับพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า

ไม่งั้นด้วยพละกำลังของคุณชายประยสย์ ทำไมต้องมาใช้สำนักนักสืบเล็ก ๆ อย่างพวกเขาด้วย

ไม่ว่าจะเทียบยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางเทียบกับตระกูลสาระทาได้หรอก

“เอาล่ะ ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันคิดหาวิธีเอง”

กัญณิศาอารมณ์ไม่ดี ทีแรกอยากวางสายแล้ว แต่พอครุ่นคิดดุแล้ว ก็ยังพูดขึ้นอีกว่า “กัญจ์ ทีแรกคืนนี้ฉันจะออกไปปฏิบัติงานนะ แต่ตอนนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีมาก นายออกไปปฏิบัติงานแทนฉันเลยละกัน จะต้องจัดการให้เรียบร้อย แล้วรีบจัดเก็บหลักฐานให้เสร็จเร็ว ๆ แล้วมอบให้กับผู้ว่าจ้าง พวกเราจะได้เก็บเงินได้เร็ว ๆ”

“ได้ ครับ”

กัญจ์รู้ว่าบอสจะต้องถูกคุณชายประยสย์ทำให้โมโหไปไม่น้อย

ยศพัฒน์พลิกตัวลงจากเตียงไป ไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วช่วยหยิบเสื้อผ้าที่จะใส่ในวันนี้มาให้เธอ

“คุณจะไปวิ่งตอนเช้าอีกเหรอคะ?”

เทวิกาถามออกไปประโยคหนึ่ง

ได้เห็นเขาทำเรื่องเดิมซ้ำทุกวัน ในใจก็รู้สึกอบอุ่นมาก

“ออกไปเดินเล่นหน่อย ไปสูดอากาศสดชื่นของยามเช้าสักหน่อย ถ้าคุณรู้สึกหนาว งั้นผมก็จะไปคนเดียวก็ได้ พ่อกับพี่ก็น่าจะตื่นแล้วนะ”

สองพ่อลูกตระกูลสาระทามีงานทำจำนวนเยอะมาก

ไม่มีทางปล่อยงานทิ้งไว้ แล้วมาอยู่เป็นเพื่อนวิกาที่บ้านอย่างเขาหรอก

“เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนคุณค่ะ”

เทวิกานั้นกลัวหนาว แต่สุดท้ายก็ยังลุกขึ้นมาอยู่ดี

พอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก็ใส่เสื้อกันหนาวตัวหนาเข้าไปอีก เธอก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมากทันที

“ที่รัก คุณว่าเมื่อไหร่เมืองซูเพร่าจะหิมะตกคะ?”

“อาจจะอีกสักเดือนหนึ่งก็คงจะหิมะตกแล้วมั้ง ฤดูหนาวของเมืองซูเพร่ามักจะมีหิมะตก เวลาหิมะตกก็ยิ่งหนาว พอถึงตอนนั้นคุณคงจะเอาแต่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มไม่อยากออกไปไหนแล้ว”

ในบ้านมีเครื่องทำความร้อน

ข้างนอกไม่มีเครื่องทำความร้อน คนอย่างเทวิกาที่คุ้นชินกับอากาศแบบเมืองแอคเซสซ์ ต้องไม่มีทางทนความหนาวจัดได้แน่

เทวิกาครุ่นคิดดูเล็กน้อย เมื่อก่อนเคยได้ยินเพื่อนนักเรียนต่างถิ่นที่มาเรียนในเมืองแอคเซสซ์บอกว่า ตอนหิมะตกไม่หนาว ตอนหิมะละลายต่างหากถึงจะหนาว

ยศพัฒน์ประคองภรรยารักที่กลัวหนาวออกจากห้องไป พอออกจากห้องมาแล้วยังพูดต่ออีกว่า “หรือไม่ คุณรออยู่ในห้องดีกว่า อย่าออกไปเป็นเพื่อนผมเลย หนาว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน