“นี่ ตกลงคุณเป็นใครกันแน่ ฉันไม่สนหรอกนะว่าคุณเป็นใคร แต่พี่พัฒน์เป็นของฉัน คุณห้ามมาแย่งพี่พัฒน์ของฉันนะ……”
กชนิภาอายุยังน้อยฮอร์โมนพลุ่งพล่าน พอเธอชอบยศพัฒน์แล้ว ไม่ว่ายศพัฒน์จะมีท่าทีกับเธอยังไง เธอก็คิดว่ายศพัฒน์เป็นผู้ชายของตัวเองแล้ว
ป้ามะนาวปิดปากของกชนิภาไปเลย ทั้งลากทั้งอุ้มเธอ จนออกไปจากบ้านใหญ่
กชนิภากลับขัดขืนอย่างรุนแรง
แต่ก็สู้แขนและฝ่ามือที่ใหญ่และหยาบกระด้างของป้ามะนาวไม่ได้
พอถูกฝ่ามือที่อวบอ้วนของป้ามะนาวปิดปากไว้ กชนิภาจึงทำได้แค่เปล่งเสียง“อู้อี้……”ออกมา
“เทวิกา……”
ยศพัฒน์รีบร้อนหันไปอธิบายกับเทวิกา แต่ก็เห็นเธอเหมือนกับมีท่าทางเหมือนได้ดูละครสนุกของ ยศพัฒน์จึงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย
เขาเป็นผู้ชายของเธอ เป็นสามีของเธอ พอเห็นคนมาเกาะแกะเขา เขาไม่ได้หวังว่าเธอที่เป็นภรรยาคนนี้จะมาช่วยจัดการให้เขา แต่เธอกลับมีท่าทางเหมือนได้ดูละครที่สนุกแบบนี้
ยศพัฒน์รู้สึกว่าเหมือนโดนโจมตีอย่างแรง
พอคิดอีกแง่มุมหนึ่ง เทวิกายังไม่ได้เกิดความรู้สึกรักต่อเขา เขาก็อย่าไปคาดหวังว่าเทวิกาจะหึงหวงเลย
“พี่พัฒน์……คุณกชนิภานี่เรียกซะหวานมากเลยนะคะ หวานจนเลี่ยนเลย ฉันได้ยินแล้ว กระดูกยังรู้สึกชา รู้สึกจี๊ดไปหมดด้วยเลยค่ะ”
เทวิกาหัวเราะเหอะ ๆ ออกมา คำพูดนี้ ฟังยังไง ก็รู้สึกเหมือนมีความหึงหวงอยู่เล็กน้อย
เธอดึงถาดมา แล้วยกซุปบำรุงถ้วยนั้นขึ้นมา อีกมือหนึ่งก็ใช้ช้อนคนน้ำซุปในถ้วยไป จากนั้นก็ดื่มไปคำหนึ่ง แล้วพึมพำขึ้นมาว่า “รสชาติดีจริง ๆ! ดูท่า คุณกชนิภาจะใส่ใจในการตุ๋นน้ำซุปไปไม่น้อยเลยนะคะ ไม่งั้นก็คงจะไม่มีทางตุ๋นน้ำซุปที่อร่อยขนาดนี้ออกมาได้หรอก”
“เทวิกา”
ยศพัฒน์ยื่นแขนยาวออกไป ก็แย่งซุปถ้วยนั้นไป แล้ววางถ้วยลงบนโต๊ะไปอย่างแรง
น้ำซุปในถ้วยกระฉอกออกมาไม่น้อย
ยศพัฒน์ไม่ได้สนใจเลยสักนิด เขารีบอธิบายอย่างร้อนรนและขึ้นว่า “วิกา ผมกับกชนิภาไม่ได้มีอะไรกันเลยนะ เธอเป็นเพื่อนบ้านของบ้านเรา เป็นคุณหนูของตระกูลธวัชพลังกร อายุน้อยกว่าผมตั้งเก้าปีแน่ะ ผมจะไปเป็นโคแก่กินหญ้าอ่อนได้ยังไง ไม่ซิ ผมชอบกินหญ้าอ่อนอย่างคุณต่างหาก”
“วิกา ถ้าคุณไม่อยากได้ยินคนอื่นเรียกผมว่าพี่พัฒน์ ผมก็จะไม่ให้คนอื่นเรียกผมว่าพี่พัฒน์อีก”
“เชื่อผมนะ ผมไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกชนิภาจริง ๆ เหมือนที่ผมรู้สึกกับเปรมา ถึงผมกับเธอจะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วก็ถือว่าเติบโตมาด้วยกัน แต่ไม่ได้รักเปรมาจริง ๆ นะ”
พอเทวิกาเห็นเขามีท่าทางร้อนรน ก็หัวเราะพรืดออกทันที
มุมปากของยศพัฒน์กระตุกขึ้นเล็กน้อย
เขาร้อนใจแทบแย่แล้ว กลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด แต่เธอกลับหัวเราะออกมา
“คนเขาอายุน้อยกว่าคุณเก้าปี เรียกคุณว่าพี่มันก็สมควรแล้ว ก็แค่คำสรรพนามอันเดียวเท่านั้น ฉันไม่ได้ขี้เหนียวจนห้ามคนอื่นมาเรียกคุณว่าพี่หรอกค่ะ”
เทวิกาหัวเราะไปด้วยแล้วก็ลุกขึ้นไป กดตัวยศพัฒน์ให้นั่งลง “เอาล่ะ ฉันไม่เข้าใจคุณผิดหรอกค่ะ ก็แค่ เสน่ห์ของคุณรุนแรงมากจริง ๆ แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคุณจะไม่มีใครมาหลงเสน่ห์ ฉันยังจะเป็นกังวลซะอีกว่าคุณจะไหวหรือเปล่า”
“ผมไหวหรือไม่ไหว คุณรู้ดีที่สุด”
เทวิกาหน้าแดงขึ้นมา แล้วถลึงตาใส่เขาสองที “เรามาพูดเรื่องปกติดีกว่า”
ยศพัฒน์จับมือข้างหนึ่งของเธอไว้ แล้วสำรวจท่าทีของเธอให้ละเอียด พอเห็นว่าเธอไม่ได้เข้าใจเขาผิดจริง ๆ แต่เชื่อว่าเขากับกชนิภานั้นไม่มีอะไรกันจริง ๆ เขาถึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
อีกเดี๋ยวจะให้ป้ามะนาวไปบอกกับตระกูลธวัชพลังกร ว่าต่อไปนี้ ถ้าไม่ได้รับการอนุญาตจากเขา ก็ห้ามกชนิภาเหยียบเข้ามาในบ้านเขาแม้แต่ครึ่งก้าว
ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันอยู่ ตระกูลธวัชพลังกรก็ต้องอยู่ที่กชนิภาแล้ว
ตอนนี้เขาเป็นผู้ชายที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว!
“พัฒน์ ในเมื่อคุณไม่คิดที่จะหย่ากับฉัน งั้นเราก็มาคุยกันให้ดีหน่อยแล้ว คุณบอกฉันมาตามตรงดีกว่า ตกลงฉันมีคู่แข่งมากแค่ไหน? ในใจฉันจะได้มีการคาดคะเนไว้บ้าง จะได้ไม่เป็นอย่างเมื่อกี้ จู่ ๆ ก็มีใครโผล่ออกมาไม่รู้ แล้วก็มาหาว่าฉันเป็นมือที่สามแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอีก”
ใช้เวลารักเธอไปสิบปี รอเธอเติบโตขึ้นมา แล้วก็ปูทางไปไม่น้อย ขุดหลุมพรางให้เธอเป็นฝ่ายเข้ามาตกหลุมของเขา
ผู้ชายที่ความรู้สึกลึกซึ้งอย่างนี้ จะไม่ให้เทวิกาทะนุถนอม และไม่หวั่นไหวได้ยังไง?
ในเมื่อกะว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับเขาดี ๆ แล้ว งั้นเธอก็จะทำให้แน่ใจว่าตกลงตัวเองมีคู่แข่งมากเท่าไหร่ ยังไงก็ต้องระมัดระวังตัวไว้บ้าง
“นอกจากคุณแล้ว ผมไม่มีผู้หญิงคนอื่น! คุณไม่มีคู่แข่งหรอก!”
“ไม่ใช่คนที่มีความรู้สึกเกี่ยวพันกับคุณถึงจะเป็นคู่แข่งฉัน ขอแค่เป็นคนที่แอบรักคุณ ก็เป็นคู่แข่งฉันทั้งนั้น”
ยศพัฒน์พูดด้วยหน้าตาเคร่งขรึมขึ้นว่า “ผมไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน