ทุกคนต่างหันไปมองคุณหญิงย่ากับลินน์
สำหรับเรื่องที่เจนสันชอบกัญณิศานั้น เทวิกาไม่รู้สึกแปลกใจเลย
ความสวยงามของณิศาโชว์ให้เห็นอยู่ตรงหน้า มีผู้ชายไม่กี่คนที่จะไม่ถูกความงามนั้นดึงดูด เหมือนพี่ชายของเธอหรอก?
เธอสงสัยว่าพี่ชายของเธอได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษจากพ่อในช่วงเวลาเจริญเติบโต คือไม่ให้หลงใหลในความงาม
คุณหญิงย่ายิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า: “ไม่ใช่ว่าย่าบอกให้พี่ชายแกแต่งงานเขาก็จะยอมแต่งด้วย เมื่อกี้แกก็ได้ยินแล้วหนิ่ พี่สาวแกพูดแล้ว พี่สาวของณิศาไม่ยอมให้เธอแต่งงานไปไกลจากบ้านหรอก ย่าก็แค่เสนอแนะ พวกเขาจะแต่งงานกับใคร ย่าตัดสินใจแทนไม่ได้หรอก เดี๋ยวคนอื่นจะไม่ชอบเอาได้”
“แม่ แม่พูดอะไรอ่ะ ใครกล้าไม่ชอบแม่?ผมก็แค่พูดตามความจริง คุณหนูรองของตระกูลนนท์สัจทัศน์ไม่เหมาะสมกับประยสย์หรอก”
ไซม่อนพูดโต้แย้งคำพูดของคุณแม่ออกมา ไม่ชอบคำพูดประชดประชันของคุณแม่
ลินน์พูดขึ้นว่า: “ถ้าคุณย่าไม่มีปัญหา ก็ให้พี่ชายหนูไปจีบพี่ณิศาสิคะ”
“มันเป็นสิทธของพี่ชายเธอที่จะไปจีบ ย่าเคยไปขัดขวางตอนไหน?”
ถึงแม้คุณหญิงย่าจะมีปัญหาเรื่องลูกสะใภ้ เวลาที่ลูกชายตามหารักของตัวเองอยู่นั้น ก็มีข้อเสนอแนะหรือคัดค้าน แต่ก็ยังไม่เคยแข็งกร้าวถึงขนาดไม่ให้ลูกชายแต่งงานกับใคร
มิฉะนั้นไซม่อนคงไม่ได้แต่งงานกับญาณิน
ลินน์มองเทวิกาที่อยู่ตรงข้าม เห็นเทวิกาไม่พูดอะไร เธอจึงพูดขึ้นว่า: “พี่ใหญ่ พี่ชายหนูจีบพี่ณิศาได้ไหมคะ?หนูเองก็ชอบพี่ณิศามากเหมือนกัน”
เสียงพูดอ่อนหวาน อ่อนโยนเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะเป็นเพื่อนของพี่สาวคนโต ก็ไม่สนใจเด็กกะโปโลอย่างเธอ
มีแต่แม่ของเธอที่รู้สึกว่าพี่ณิศาอ่อนโยนเกินไป ไม่มีประโยชน์
ความจริงแล้วที่ลินน์ถามแบบนี้ออกมา หลักๆ คือต้องการประกาศความเป็นศัตรูกับบ้านคุณลุงใหญ่
เทวิกายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่ชายเธอ พี่กับณิศาเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่เรื่องใหญ่ของชีวิตเธอพี่ตัดสินใจเองไม่ได้หรอก”
ลินน์อยากพูดอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ดังนั้นจึงพูดอะไรไม่ออกในทันที
เทวิกาตำหนิ่ในใจว่า:เด็กน้อยอายุแค่สิบกว่าปีก็มีอุบายเช่นนี้แล้ว สามารถมองออกได้เลยว่าสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของตระกูลสาระทาเลวร้ายแค่ไหน
มองดูเด็กน้อยที่เก็บกลับมา เทวิกาคิดในใจถ้าทางตำรวจแจ้งข่าวกลับมา แน่ใจว่าแล้วว่าหาคนในครอบครัวของพิรัตน์ไม่เจอ หรือว่าเขาไม่เหลือใครแล้ว และในอนาคตเด็กน้อยใช้ชีวิตอยู่กับเธอ เธอจะส่งพิรัตน์กลับไปเมืองแอคเซสซ์ ให้เขาใช้ชีวิตที่ตระกูลอริยชัยกุล และเติบโตที่นั่น
วัฒนธรรมประเพณีของตระกูลอริยชัยกุลดีมาก และดีต่อการศึกษาเจริญเติบโตของเด็ก ในเมื่อเธอเก็บพิรัตน์ได้ ก็แสดงว่าพวกเธอสองคนมีวาสนาต่อกัน ด้านการศึกษาของเขา เธอจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ถึงแม้ในอนาคตเธอจะมีลูกเป็นของตัวเอง ก็จะไม่ทอดทิ้งพิรัตน์ ทำเหมือนกันกับที่บ้านตระกูลวาชัยยุงทำดีกับเธอ
“วิกา เดี๋ยวแม่ดูเด็กเอง หนูกับยศพัฒน์ไปกินข้าวก่อน เรื่องแต่งงานของพี่ชายเธอ ให้เขาตัดสินใจเอง จากนี้ไปเขาเป็นคนใช้ชีวิตเอง ไม่ใช้พวกเรา”
ญาณินพูดออกมาอย่างอ่อนโยน แล้ววางพิรัตน์ลงพื้น จากนั้นจูงมือพิรัตน์แล้วเดินออกไปข้างนอก
ไซม่อนมองตามร่างของเธอที่ค่อยๆ หายลับตาไปจากสายตาเขา เขานั่งอยู่ต่ออีกสักพัพ แล้วพูดกับแม่แม่: “แม่ ความคิดของญาณินก็คือความคิดผม ผมไม่เห็นด้วยก็จริง แต่ผมก็ไม่ได้จะขัดขวาง ถ้าแม่อยากให้พวกเขาแต่งงานกัน แม่ไปพูดกับไซม่อนเอง ผมไม่มีทางไปพูดเด็ดขาด ผมกับเขาสองคนยิ่งกว่าคนแปลกหน้ากันเสียอีก ถ้าไปพูด มีแต่จะทะเลาะกัน”
พูดจบ เขาก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกไปข้างนอก
ทุกคนรู้ดีว่าเขาวิ่งไล่ตามญาณินไป
เทวิกาและสามีรู้สึกดีใจมาก แต่ใบหน้าของคุณหญิงย่าไม่น่าดูเลย แม้แต่ลินน์เด็กน้อยคนนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ชอบที่ลุงใหญ่ตัวเองวิ่งไล่ตามป้าสะใภ้ใหญ่ไป
ลินน์อายุแค่สิบขวบ แต่เธอก็จำสถานการณ์ตอนญาณินเสียสติได้และรวมถึงตำแหน่งของเธอที่อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้อีกด้วย
ป้าสะใภ้ใหญ่หายดีแล้ว พี่สาวลูกพี่ลูกน้องก็หาเจอและกลับมาแล้ว เธอสัมผัสได้ว่าตำแหน่งในคฤหาสน์ของแม่เธอเริ่มลดลงไปแม้แต่เธอก็ไม่ใช่หลานสาวที่คุณย่าชอบที่สุดอีกต่อไปเช่นเดียวกัน
หลานสาวสายเลือดโดยตรงของคุณหญิงย่า จริงๆ แล้วมีแค่สามคน บ้านละคนเท่านั้นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน