“วิกา ลูกท้องแล้วจริงเหรอ?”
ญาณิณที่ได้ยินว่าลูกสาวตัวเองท้องแล้ว รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“เพิ่งรู้เมื่อสักครู่เลยค่ะ หนูเลยมาบอกข่าวดีนี้กับพ่อไงคะ พ่อจะได้ดีใจ แล้วรีบๆ ฟื้นขึ้นมา”
ญาณิณนั่งลงข้างเตียงเช่นกัน เธอมองไซม่อนที่ยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง แล้วพูดว่า: “พ่อของลูกคงจะได้ยินแล้ว เขาต้องมีความสุขมากแน่ๆ เขาชอบเด็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม่กับพ่อมีลูกกับพี่ชายแค่สองคน แล้วยังเกิดเรื่องพวกนั้นขึ้นอีก ทำให้แม่กับพ่อไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นของการมีลูกชายและลูกสาวเลย”
“ตอนนี้ลูกท้องแล้ว พ่อต้องดีใจมากแน่ๆ หวังเพียงให้เขาฟื้นขึ้นมาเร็วๆ”
ญาณิณเก็บสายตาที่มองสามีอยู่ จับมือของลูกสาวเอาไว้ แล้วพูดปลอบว่า: “วิกา ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ตอนนี้ลูกท้องแล้ว ต้องดูแลตัวเองให้ดีล่ะ ตอนนี้พ่อกับแม่ยังไม่สามารถที่จะดูแลลูกได้”
“พี่ชายลูกไม่ได้อาการหนักมาก น่าจะออกจากโรงพยาบาลเร็วๆ นี้ ลูกกับพัฒน์เฝ้าอยู่ในโรงพยาบาลนานขนาดนี้ น่าจะเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวแม่เฝ้าพ่อต่อเอง พวกลูกไม่ต้องเป็นห่วง แม่จะดูแลพ่ออย่างดี ลูกกับพัฒน์กลับไปพักผ่อนเถอะ”
“ไม่ต้องกลับคฤหัสน์สาระทาแล้ว ไม่รู้ว่ายัยแก่นั่นจะทำอะไรพวกลูกหรือเปล่า ยังไงแล้วตรงนั้นก็เป็นสถานที่ที่ยัยแก่นั่นอยู่มาหลายสิบปีแล้ว คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นถิ่นของแก่นั่น”
“แม่ฉีกหน้าแกไปแล้ว แกไม่น่าจะเสแสร้งต่อได้อีก พฤติกรรมต่อลูกอาจจะเปลี่ยนไป ลูกไม่ต้องสนใจมากหรอกนะ หลังจากที่ลูกกลับมา แกทำตัวเสแสร้ง แล้วก็หวังผลประโยชน์จากลูก”
เทวิกาพยักหน้า “ค่ะแม่ หนูรู้ค่ะ หนูรู้ว่าท่านแสดงละครตบตามาโดยตลอด แกล้งทำดีกับหนู ถ้าเมื่อก่อนท่านทำแบบนั้นกับแม่ ท่านจะมาจริงใจกับหนูได้ยังไง”
เธอใช้ประโยชน์มากมายจากย่าแท้ๆ ของเธอเช่นกัน
“แม่คะ หนูไม่เหนื่อยเลย หนูขออยู่กับพ่ออีกสักพักนะคะ”
“ตอนนี้พ่อของลูกยังนอนไม่ได้สติ เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ลูกพูดหรอก กลับไปพักผ่อนให้เต็มที่ดีกว่า ต้องดูแลสุขภาพตัวเอง เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ รู้ไหม ถ้าลูกอยู่ในสภาพที่เหนื่อย พอพ่อฟื้นขึ้นมา เดี๋ยวก็ไปโทษพัฒน์อีกนะ โทษพัฒน์ที่ดูแลลูกได้ไม่ดี ลูกไม่ได้โดนพ่อโทษเหมือนพัฒน์เขานะ รีบกลับบ้านไปพักผ่อนกับพัฒน์นะ”
“เลิศธนโยธาก็ถูกจับเข้าตารางไปแล้ว พวกเราอยู่ในโรงพยาบาลก็ถือว่าปลอดภัยแล้ว อีกอย่างคนของพ่อกับพี่ชายลูกก็อยู่คุ้มครองพวกเรา คงไม่เกิดเรื่องอะไรหรอก ลูกไม่ต้องเป็นห่วง”
“ลูกเพิ่งจะท้อง ช่วงสามเดือนแรกต้องระวังเป็นพิเศษนะ ห้ามทำอะไรที่มันเหนื่อยเด็ดขาด มันจะ......”
ญาณิณบ่นไม่หยุด เพียงเพราะต้องการให้ลูกสาวกลับไปพักผ่อนที่บ้าน
เพราะตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว แล้วเป็นช่วงเริ่มตั้งครรภ์ด้วย สามเดือนแรกเป็นช่วงที่ง่ายต่อการแท้งมากที่สุด ญาณิณเป็นกังวลว่าถ้าลูกสาวเหนื่อยอาจจะแท้งได้
หลังจากที่ฟังแม่เกลี้ยกล่อมมาได้สักพัก เทวิกาจึงพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า: “แม่คะ หนูกลับก็ได้ค่ะ หนูจะกลับไปพักผ่อน แม่อยู่ที่นี่ก็ต้องพักผ่อนเหมือนกันนะคะ พ่อต้องฟื้นขึ้นมาแน่ๆ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงมากนะคะ”
ญาณิณพยักหน้า แล้วเป่าหูลูกสาวให้กลับบ้าน แล้วเรียกลูกเขยเข้ามา เธอพูดกับพัฒน์ว่า: “พัฒน์ ตอนนี้วิกาท้องแล้ว ลูกพาเธอกลับไปพักผ่อนที่บ้านนะ ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไรก็ไม่ต้องมาโรงพยาบาลแล้ว พ่อกับพี่ชายมีแม่ดูแลอยู่ทั้งคน”
ยศพัฒน์มองไปที่ภรรยาที่รักของเขา แล้วตอบรับว่า: “แม่ครับ เดี๋ยวผมพาวิกากลับไปพักผ่อนครับ”
“ไม่ต้องเดี๋ยวแล้ว พาวิกากลับไปตอนนี้เลย เรื่องที่วิกาท้อง ลูกอย่าลืมบอกผู้ใหญ่ฝ่ายลูกด้วยล่ะ วิกา อย่าลืมบอกคุณแม่พิชญ์สินีของลูกด้วยนะ บอกพวกเขาว่า เรื่องทั้งหมดจบไปแล้ว พวกเขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงอีก”
คุฯย่าโบว์และพิชญ์สินีแม่สามีและลูกสะใภ้คู่นี้ จะจุดธูปสามดอกทั้งเช้าและเย็นทุกวัน พวกเธอคอยอธิษฐานให้เทวิกาปลอดภัย
ความรักที่พวกเธอมีให้เทวิกานั้น ธรรมดาแต่ยิ่งใหญ่มาก เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก
“ก็ได้ค่ะ แม่ หนูจะกลับบ้านไปพักเดี๋ยวนี้เลย ถ้าพ่อฟื้นขึ้นมา แม่ต้องบอกหนูทันทีเลยนะคะ”
เทวิกาไม่มีทางเลือกอื่น ทำได้เพียงออกจากโรงพยาบาลพร้อมกับสามี และไปพักผ่อนที่บ้านของตระกูลสาระทา
หลังจากที่ไล่ลูกสาวและลูกเขยกลับไปได้ ญาณิณก็ได้ไปห้องพักผู้ป่วยของลูกชายเพื่อดูอาการบาดเจ็บของเขา แล้วกลับมาที่ห้องพักของไซม่อนอีกครั้ง เธอนั่งลงข้างเตียง แล้วมองไซม่อน เธอยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของเขาเบาๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า: “ไอ้แก่บ้า ฟื้นได้แล้ว”
“คุณยากคืนดีกับฉัน แล้วกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันมากนักไม่ใช่หรือไง? คุณไม่ฟื้นขึ้นมา จะใช้ชีวิตกับฉันอีกครั้งได้ยังไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน