หลังจากนั้นไม่นาน ไซม่อนก็ถามขึ้นว่า: “วิกาท้องจริงใช่ไหม?”
ถึงไม่มีโอกาสจะได้เป็นพ่อคนแล้ว เป็นคุณตตาก็ได้ เป็นเรื่องที่น่าดีใจเหมือนกัน
ไซม่อนรู้สึกว่าอย่างน้อยก็ยังมีเรื่องน่ายินดีอีกเรื่อง
ถึงภรรยาของเขาจะไม่ได้ท้อง แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังให้เธอต้องท้องอีกครั้ง เพราะอายุของพวกเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ใช่ว่าพวกเขาไม่มีลูกเสียหน่อย ลูกฝาแฝดชายหญิงของเขาอายุเกือบจะยี่สิบห้าปีแล้ว พวกเขาต่างก็ยอดเยี่ยมอีกด้วย
แต่ถ้าท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง
พอญาณิณเห็นเขาปรับอารมณ์ได้อย่างรวดเร็ว จึงหัวเราะพร้อมกับพูดว่า: “เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วงเลย เราจะได้เป็นคุณตาคุณยายสมใจแน่ คืนที่ลูกชายเกิดเรื่อง มีเด็กสาวคนหนึ่งชื่อชุติภามาช่วยไว้ ได้ยินว่าเธอเป็นศิษย์เอกของหมออัจฉริยะด้วย เธอไม่ได้มีเพียงทักษะการต่อสู้ที่น่าประทับใจ แต่เธอยังมีทักษะทางการแพทย์ที่น่าประทับใจอีกด้วย”
“เธอจับชีพจรวิกาเองกับมือ เธอเป็นคนบอกเองด้วยว่าวิกาท้อง จากนั้นวิกาก็ลองตรวจที่โรงพยาบาลดู ลูกท้องจริงๆ ตอนนี้หกสัปดาห์แล้ว ลูกเริ่มมีอาการแพ้ท้องด้วย ทุกเช้าที่ตื่นมาก็จะอ้วกตลอด โชคดที่อ้วกแค่ตอนเช้าไม่กี่ครั้ง ก็เลยไม่ได้มีผลต่อการกินของเธอ”
“หมอแนะนำให้ลูกมาอัลตราซาวนด์อาทิตย์หน้า”
ได้ยินเช่นนั้น ไซม่อนก็แกยิ้มอีกครั้ง แล้วรีบถามว่า: “วิกาไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ลูกต้องพักผ่อนเยอะๆ ดูแลครรภ์ดีๆ ลูกเพิ่งท้อง ต้องระวังเป็นพิเศษ ต้องบอกพัฒน์ด้วย ว่าให้เขาช่วยดูแลเป็นพิเศษหน่อย มีของหลายอย่างที่คนท้องกินไม่ได้”
ตอนนั้น ที่ณิณท้อง เขาอ่านหนังสือเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ทุกวัน เขาถึงกับจ้างนักโภชนาการเพื่อจัดอาหารวันละสามมื้อให้กับณิณอีกด้วย พูดได้ว่า เขาเลี้ยงลูกในท้องตามตาราที่อ่านหมดเลย
ทุกครั้งที่ณิณอยากจะกินอะไร เขาก็จะโทรหาหมอประจำตระกูล ว่าคนท้องกินอาหารพวกนั้นได้หรือไม่ ต้องให้หมอตอบว่ากินได้ เขาถึงจะให้ณิณกิน ถ้าหมอบอกว่ากินไม่ได้ หรือให้กินในปริมาณที่น้อย เขาก็จะไม่ให้ณิณแตะเลย
เห็นไหมล่ะ ลูกทั้งสองของเขาเกิดมา ทั้งน่ารักและฉลาด
ตอนนี้ถึงพวกเขาจะโตแล้วก็ยังคงแพรวพราวท่ามกลางผู้คน
ไซม่อนคิดว่าทั้งหมดเป็นเพราะเขาเลี้ยงครรภ์ได้ดี
“วิการ่างกายแข็งแรงมาก ตอนนี้ลูกแค่ชอบนอนมากๆ ลูกรู้สึกว่านอนไม่อิ่มอยู่ตลอด แล้วก็พฤติกรรมการกินก็เปลี่ยนไป ของที่เมื่อก่อนไม่ชอบกิน ตอนนี้ชอบกินหมดเลย ของที่ชอบกินก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับไม่ชอบแล้วเสียงั้น ลูกกินเผ็ดเก่งมากด้วย”
แม้ว่าญาณิณจะดูแลไซม่อนอยู่ในโรงพยาบาลทุกวัน เธออัปเดตเรื่องลูกสาวอยู่ตลอด และเธอรู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี
“ถ้าได้ลูกชายจะชอบกินเปรี้ยวลูกสาวจะชอบกินเผ็ด วิกาได้ลูกสาวงั้นเหรอ?”
ไซม่อนยิ้มตาหยีแล้วพูดว่า: “เด็กรุ่นพัฒน์ไม่มีผู้หญิงเลย พ่อแม่ลูกเขยผมต้องรอคอยที่จะได้หลานสาวแน่วิกาโชคดีจริงๆ ท้องแรกก็ได้ลูกสาวเลย ต้องได้ความรักมหาศาลไปตลอดชีวิตแน่ๆ”
ส่วนทางด้านตระกูลสาระทาของพวกเขานั้น ก็มีเพียงวิกาที่แต่งงานแล้ว ลูกของเธอจึงเป็นหลานคนแรกของตระกูลสาระทา และเป็นหลานคนแรกของตระกูลอริยชัยกุลเช่นกัน ก็หมายความว่าจะได้รับแต่ความรักมากมายมหาศาลไปตลอดชีวิตไม่ใช่หรือไง
ญาณิณพูดพร้อมกับหลุดหัวเราะ: “คำพูดพวกนั้นไม่แม่นหรอก จะให้ชัวร์ที่สุดก้รอตอนคลอดออกมา ตอนที่แม่ของธนัทท้องก็ชอบกินแต่ของเผ็ด แต่ท้ายสุดก็คลอดออกมาเป็นลูกชาย อย่าไปเชื่อคำพูดพวกนี้เยอะ”
“ไม่ว่าวิกาจะคลอดลูกชายหรือลูกสาว ลูกคนแรก ยังไงก็ถูกรักมากกว่า”
ไซม่อนตอบรับ “ตอนนี้ผมฟื้นแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว เรียกคนไปถามหมอให้หน่อย ผมออกโรงพยาบาลเย้นนี้เลยได้ไหม? พอออกจากโรงพยาบาล เราไปสั่งทำจี้ทองสักสองสามอันกัน พอหลานคลอดออกมาแล้ว ผมจะให้หลานเป็นของขวัญ เจอกันครั้งแรก ก็ต้องมีของขวัญสิ”
ญาณิณหัวเราะอย่างอดไม่ได้แล้วพูดว่า: “แล้วใครเคยเจอเด็กที่เพิ่งคลอดแล้วบ้าง? ไม่ต้องสั่งทำพิเศษหรอก ฉันกับวิกาเปิดร้านขายเครื่องประดับอยู่แล้ว ที่ร้านมีจี้ทองให้เลือกเยอะเลย แต่ถ้าคุณอยากได้แบบใหม่ๆ คุณก็ลองออกแบบมา เดี๋ยวฉันให้คนที่ร้านทำให้”
“ร้านเครื่องประดับเป็นของคุณกับวิกา ถึงให้ก็นับว่าเป็นของขวัญจากคุณยาย คุณตาอย่างผมก็ต้องคิดต่างหากสิ ก็ได้ เดี๋ยวผมคิดออกแล้วจะร่างแบบให้ ยังไงก็ยังเหลือเวลาอีกนานกว่าหลานจะคลอด คงต้องรอถึงฤดูร้อนปีหน้าสินะถึงจะได้เจอหน้าหลาน”
จู่ๆไซม่อนก็รู้สึกว่าเวลานั้นยาวนานมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน