รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน นิยาย บท 696

“โอเค พ่อ นอนโรงพยาบาลต่ออีกหนึ่งวันนะ ผมจะจัดการเรื่องของอาสามเอง และผมจะไม่ปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้อย่างแน่นอน”

ประยสน์รู้สึกว่า แม้ว่าพ่อของเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ทว่า การตื่นขึ้นมาหลังจากอาการโคม่ามาหนึ่งสัปดาห์นั้น ยังคงต้องการพักผ่อน

หลัก ๆ คืออยากให้พ่อแม่อยู่ตามลำพัง

ไซม่อนพูดขึ้น "ครั้งนี้พ่อพักผ่อนนานพอแล้ว"

การนอนหนึ่งครั้ง ก็นอนไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

แทบจะหลับเป็นตายแล้ว

ตอนนี้ ไซม่อนตื่นแล้ว เขาไม่อยากนอนอีกต่อไปแล้วจริง ๆ

“โอเค ลูกไปทำธุระเถอะ พ่อจะคุยกับแม่ของลูก”

หลังจากจัดธุระเสร็จ ไซม่อนก็เริ่มไล่ผู้คนออกไปแล้ว จะขับไล่คนก้างขวางคอเหล่านี้ออกไป

พ่อตื่นขึ้นมา และพ่อแม่คืนดีกัน ประยสน์สองพี่น้องก็โล่งใจแล้ว แม้จะถูกพ่อขับไล่ แต่ก็จากไปอย่างมีความสุข

เมืองแอคเซสซ์

คฤหัสน์เมเปิล

ภายใต้คำเชิญซ้ำ ๆ ของเซทท์ ชุติภาตกลงที่จะไปเหยียบคฤหัสน์เมเปิล และเยี่ยมชมคฤหัสน์เมเปิลซึ่งเป็นสถานที่ลึกลับในสายตาของผู้คนใน เมืองแอคเซสซ์

ตอนที่ออกจากเมืองซูเพร่า เซทท์และณภัทรเป็นคนส่งเธอและณิศาไปที่สนามบิน ระหว่างทาง เซทท์และชุติภาคุยกันอย่างสนุกสนาน ตอนที่เซทท์ขอช่องทางการติดต่อ เธอก็ให้เบอร์โทรศัพท์ไป

หลังจากที่คุณชายทั้งสองคนของตระกูลอริยชัยกุลกลับมาที่เมืองแอคเซสซ์แล้ว เซทท์รู้ว่าชุติภายังคงอยู่ในเมืองแอคเซสซ์ ดังนั้นเธอจึงเชิญ ชุติภามาเที่ยวและเยี่ยมชมเมเปิล

หลังจากที่ชุติภาตกลงตามคำเชิญของเซทท์แล้ว กัญณิศาก็พูดกับเธอเป็นการส่วนตัวว่า "ชุติภา พ่อของลูกน้อยในท้องของเธอคือคุณณภัทร ทำไมเธอถึงใกล้ชิดกับคุณเซทท์ขนาดนั้นล่ะ คงไม่ใช่ว่าเธอตกหลุมรักคุณเซทท์อีกนะ?"

ผู้ชายในตระกูลอริยชัยกุลนั้นหล่อทุกคน และพวกเขาล้วนเป็นจุดสูงสุดในหมู่ผู้ชาย เธออย่าโลภเกินไปล่ะ”

หลังจากได้ยินคำพูดของกัญณิศาแล้ว ชุติภาก็หัวเราะและพูดว่า "ณิศา เธอคิดมากไปเอง เซทท์ไม่ได้คิดอะไรกับฉัน สายตาที่เขามองมายังฉันนั้น เป็นความชื่นชม ไม่ใช่ความชื่นชอบ เขาแค่ได้ยินเกี่ยวกับการกระทำของฉัน และมองว่าฉันเป็นผู้ไร้เทียมทาน สร้างมิตรภาพที่ดีไว้กับฉัน และมีความคิดที่อยากจะไหว้ฉันเป็นอาจารย์”

เธอได้ตั้งท้องแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้ชายอีก แล้วเธอจะมีความคิดแบบนั้นกับเซทท์อีกได้อย่างไร?

ความกระตือรือร้นของเซทท์ที่มีต่อเธอ เธอสัมผัสได้ถึงความชื่นชมของเขา และคาดว่าในไม่ช้า เซทท์อาจขอให้เธอชี้แนะบางอย่างแก่เขา

“แม้ว่าฉันจะเป็นเพื่อนกับเซทท์ ก็ไม่เป็นไร ฉันไม่คิดที่จะบอกณภัทรอยู่แล้ว”

หลังจากที่ณภัทรกลับมาจากเมืองซูเพร่า ได้รู้ว่าตระกูลกิจวณิชกุลก็ได้แทรกแซงเรื่องของเมืองซูเพร่า ดังนั้น หลายวันมานี้ เขาจึงเข้าไปพัวพันกับหัวหน้าตระกูลกิจวณิชกุล และต้องการขอให้หัวหน้าตระกูลกิจวณิชกุลช่วยเขาหาผู้หญิงที่เคยนอนกับเขา

หัวหน้าตระกูลกิจวณิชกุลรู้สึกรำคาญเขามาก จึงใช้ข้ออ้างว่า เขากำลังจะเดินทางไปทำงานที่ต่างเมือง และพาภรรยาของเขาหนีไป ไม่รู้ว่าไปซ่อนตัวใช้ชีวิตคู่ของพวกเขาอยู่ที่ไหน

ตอนนี้มีเพียงเจ้าหญิงน้อยของตระกูลกิจวณิชกุลที่อยู่ในในคฤหาสน์ตระกูลกิจวณิชกุล ซึ่งเป็นแฟนสาวของอินทัช คงดูไม่ดีถ้าหากให้ณภัทรไปรบกวนคุณนลินี ซึ่งคุณหนูของตระกูลกิจวณิชกุ ดังนั้นเขาจึงต้องขอให้อินทัชไปรับหน้าแทน แต่คุณนลินีบอกว่า เธอไม่ได้เป็นหัวหน้าครอบครัว ไม่สามารถตัดสินได้ พ่อของเธอไม่รับปากที่จะช่วยคุณณภัทร เธอก็ไม่มีทางเลือก

คำพูดของเธอ ณภัทรพูดไม่ออกเป็นเวลานาน

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่าตระกูลกิจวณิชกุลอาจรู้ว่าผู้หญิงที่นอนกับเขาเป็นใคร

ผู้หญิงคนนั้นมีภูมิหลังใหญ่โตเหรอ?

หัวหน้าครอบครัวตระกูลกิจวณิชกุลถึงกับหลบหน้า ไม่ยอมช่วยเรื่องนี้ หากภูมิหลังไม่ใหญ่ คนระดับคุณณภัทรอย่างเขา เป็นไปไม่ได้ที่ใช้เวลานานขนาดนี้ ก็หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอ

กัญณิศา：……

เรื่องของชุติภา กัญณิศาก็ไม่สามารถบังคับได้ เธอแค่เตือนชุติภาในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง

ในขณะนี้ มอเตอร์ไซค์ที่ชุติภากำลังขี่มาถึงคฤหัสน์เมเปิลแล้ว และเซทท์รอเธออยู่ที่เชิงเขานานแล้ว

เมื่อเห็นว่าเธอยังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ เซทท์ยิ้มและพูดว่า "คุณชุติภายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความกล้าหาญเลยนะครับ"

“คุณเซทท์ก็ยังคงดูสง่าผ่าเผยเหมือนเดิมเลยนะคะ”

ชุติภาจอดรถ ถอดหมวกกันน็อคออก และตอบเซทท์ด้วยรอยยิ้ม

เซทท์หลังตรงและยืดอกขึ้น แล้วพูดอย่างมั่นใจว่า "ผมก็รู้สึกเหมือนกันว่า ผมน่ะ สง่าผ่าเผย"

ชุติภาหัวเราะออกมา

เธอมองไปที่ทิวทัศน์ที่เชิงเขาและพูดกับเซทท์ "คุณเซทท์อยากนั่งรถของฉันไหน ฉันจะพาคุณไปวงหนึ่งรอบ คฤหัสน์เมเปิลของพวกคุณนั้นใหญ่เกินไป ถ้าเดิน กว่าจะชมครบ ฉันเกรงว่าต้องเดินจนขาลากแน่ ๆ  ขี่รถสะดวกกว่า”

เซทท์ยิ้มและพูดว่า "ผมจะให้คนส่งมอเตอร์ไซค์ลงมาให้ผม ผมก็จะลองสัมผัสความรู้สึกสบายของการขี่มอเตอร์ไซค์รับลมด้วย"

รถมอเตอร์ไซค์ของชุติภานั้น เป็นประเภทที่มีราคาแพงมาก และเซทท์คิดว่า ท่าทางที่เธอและผู้หญิงที่มีกระตรงหน้าขี่มอเตอร์ไซค์นั้น เท่และน่าดึงดูดมาก

ดังนั้น เขาจึงซื้อสินค้าประเภทเดียวกันให้ตัวเองด้วย

“คุณชุติภา คุณจะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะเรียกน้องชายของผมมาด้วย? คุณก็เคยเจอเขาเหมือนกัน นั่นคือณภัทร วันนี้เขาก็อยู่ที่บ้านด้วย ผมคิดว่า พวกคุณก็เคยเจอกันมาก่อน เรียกเขามา จะได้สนุกขึ้น”

ชุติภาพูดอย่างเฉยเมย"แล้วแต่คุณเซทท์เลยค่ะ"

เธอไม่มีปัญหา

ถ้าณภัทรรู้ว่าผู้หญิงที่นอนกับเขาคือชุติภา และชุติภายังตั้งท้องลูกของเขาอีก แต่ตอนนี้จะขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อเยี่ยมชมเมเปิล เกรงว่าจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จนระเบิดออกมา

และเซทท์ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาบอดี้การ์ดคนหนึ่งของเขา และให้บอดี้การ์ดขี่มอเตอร์ไซค์ของเขาที่เพิ่งซื้อลงมาให้เขา จากนั้นก็โทรหาณภัทรเพื่อถามว่าเขาอยากไปขี่รถชมวิวด้วยกันไหม

ตอนนี้อากาศเย็นเล็กน้อย

การขี่รถรับลมนั้นน่าจะเย็นสบาย

หลังจากได้ยินคำพูดของพี่เซทท์ ณภัทรก็พูดกับพี่เซทท์ว่า "พี่ไปเที่ยวกับสาว แล้วยังมาชวนผมอีก อยากให้ผมไปเป็นก้างขวางคอเหรอ? ถ้าอยากให้ไปเป็นก้างขวางคอจริง ๆ เดี๋ยวผมจะเรียกน้อง ๆ ไปด้วย จะได้มีคนมาก้างขวางคอสมใจ”

เซทท์ "...…เจ้าภัทร นายเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า พี่แค่ชื่นชมในความสามารถของคุณชุติภา ไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นเลย พี่คิดไว้ว่า ถ้าสนิทกว่านี้หน่อย จะหน้าด้านขอให้เขาชี้แนะให้หน่อย"

ตอนที่พูดคำเหล่านี้ เซทท์กดเสียงของเขาไว้ต่ำมาก กลัวว่าชุติภาจะได้ยิน

หูของชุติภานั้นเฉียบคมมาก เธอได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับณภัทรนานแล้ว

ต้องบอกว่าเธอนั้นแม่นจริง ๆ

เซทท์อยากจะไหว้เธอเป็นครูเพื่อฝึกวิชา

แน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะรับเซทท์เป็นศิษย์ เพราะเธอรู้สึกว่าเซทท์แก่เกินไป แม้ว่าเซทท์ต้องการพัฒนาทักษะของเขา แต่เขาก็พลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเลื่อนขั้นแล้ว

ลูกศิษย์ที่เข้าตาเธอคือพิรัตน์

“พี่อายุเท่าไหร่แล้ว? แม้ว่าคุณชุติภาจะสอนเคล็ดลับบางอย่างให้พี่ พี่คิดว่าพี่จะเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ได้เหรอ? พี่เซทท์ พี่ใช้เวลาในการทำอาหารดีกว่าไหม พี่ทำอาหารอร่อยที่สุดเลย ในเมื่อคุณชุติภามาแล้ว เธอเป็นแขกพิเศษ พี่ลองเข้าครัวทำอาหารที่พี่ถนัดสักสองสามอย่างด้วยตัวเอง ก็ไม่เพียงพอสำหรับการมาเยือนด้วยตัวเองของคุณชุติภา"

เมื่อพี่เซทท์ทำอาหารด้วยตัวเอง เขาก็สามารถกินได้ด้วย

เซทท์ ".…..ตกลงนายจะไปหรือไม่ไป?"

“ผมไม่มีมอเตอร์ไซค์”

เมื่อรู้ว่าพี่เซทท์ไม่ได้จีบชุติภา ณภัทรก็ไม่รังเกียจที่จะตามเขาไป แต่เขาไม่มีมอเตอร์ไซค์

“ตอนนี้อากาศเป็นยังไง แค่ตากลม ก็หนาวจนร่างกายหดแล้วหดอีก พวกพี่กลับจะไปขี่มอเตอร์ไซค์รับลมชมวิว พี่เซทท์ คุณชุติภานั้นเป็นคนที่มีการฝึกฝนร่างกายระดับสูง เธอดูแลร่างกายของเธอมานาน จนแข็งแรงราวกับกำแพง ไม่กลัวลมหนาว พี่อย่าตากลมจนเป็นหวัดล่ะ”