เมืองซูเพร่า
เมื่อไซม่อนตื่นขึ้นมา บางคนมีความสุขและบางคนกลัว แต่สำหรับลูก ๆ ของเขา มันเป็นวันฟ้าหลังฝน
แม้ว่าเธอจะถูกพ่อของเธอเห็นเป็นก้างขวางคอแล้วขับไล่ออกไป แต่เทวิกาก็มีความสุขเช่นกัน
หลังจากเดินออกจากตึกแผนกผู้ป่วยใน เธอพูดกับพัฒน์ว่า "เราไปอัลตราซาวนด์B ตอนนี้กันไหม?"
ยศพัฒน์นับวันในใจของเขา และห่างจากวันที่หมอพูดเกือบสิบวัน แล้วขานตอบ "งั้นผมไปอัลตราซาวนด์ B เป็นเพื่อนคุณ"
ประยสน์จะไปพาลุงสามของพวกเขากลับมา แต่เขาก็บอกกับน้องเขยของเขาไว้ด้วยว่า "หลังจากวิกาทำการตรวจแล้ว ผลเป็นยังไง มาบอกผมด้วย”
“ได้”
ยศพัฒน์รู้ว่าลูกของเทวิกานี้ ไม่ว่าจะตระกูลอริยชัยกุลหรือตระกูลสาระทา ก็ให้ความสำคัญมาก
เขารู้สึกว่าประยสน์ผู้เป็นลุง มีความสุขมากกว่าเขาผู้เป็นพ่อเสียอีก เขานั้นดีใจและคลั่งไคล้มากแล้ว ทว่า ประยสน์นั้นมีความคลั่งไคล้ในคลั่งไคล้อีกที
เมื่อคิดว่าหลังจากเรื่องตระกูลสาระทาจบลง เขาจะรีบพาภรรยาของเขากลับไปที่เมืองแอคเซสซ์เพื่อจัดงานแต่งงาน จากนั้นก็รอคอยการลืมตาดูโลกของเด็ก
ผู้อาวุโสในบ้านของเขา ก็กำลังเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงาน อันที่จริง ไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรมากมายเลย เพราะไม่ว่ายังไง เขาและเทวิกาได้จดทะเบียนมานานกว่าครึ่งปีแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมการก็ได้เตรียมไว้นานแล้ว แค่เป็นเรื่องของการเลือกวันฤกษ์งามยามดี และจัดงานให้มีความสุข
เมื่อพูดถึงงานแต่งงาน ยศพัฒน์เตือนภรรยาที่รักของเขาว่า "งานแต่งงานของนฤเบศวร์กับคุณกนกอรจะจัดขึ้นในอีกสามวัน ตอนนี้พ่อก็ดีขึ้นแล้ว พรุ่งนี้เช้าเรากลับไปที่เมืองแอคเซสซ์กันเถอะ"
กนกอรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเทวิกา และก่อนหน้านั้นที่เธอมีความสัมพันธ์กับนฤเบศวร์ ก็เพราะเทวิกา งานแต่งงานของเธอทั้งที เทวิกาต้องกลับไปอย่างแน่นอน
แม้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ และเดือนยังเล็ก และเธอก็มีสุขภาพที่ดี ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการกลับไปร่วมงานแต่งงานของกนกอร
เทวิกาขานตอบ "พรุ่งนี้เช้าเรากลับกันเถอะ โชคดีที่ฉันเตรียมของขวัญแต่งงานให้กนกอรไว้ล่วงหน้าแล้ว"
ตามแผนก่อนหน้านี้ เธอจะกลับไปหนึ่งสัปดาห์ก่อนงานแต่งงานของกนกอร เนื่องจากพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุและหมดสติ เธอจึงเปลี่ยนแผน เธอไม่สามารถทิ้งพ่อของเธอที่หมดสติไว้ในโรงพยาบาล แล้วไปร่วมงานแต่งงานของเพื่อนได้หรอก?
ตอนนี้พ่อของเธอตื่นแล้ว เขาสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันพรุ่งนี้ แม้ว่ายังต้องจัดการเรื่องภายในของตระกูลสาระทา มีพ่อของเธออยู่ เรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นสำหรับเขา เธอสามารถกลับไปที่เมืองแอคเซสซ์เพื่อเข้าร่วมงานแต่งงานของกนกอรด้วยความสบายใจ
เพียงแต่ประยสน์อาจไม่สามารถไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของนฤเบศวร์ได้ เขายังต้องช่วยพ่อของเขาจัดการเรื่องภายในของตระกูลสาระทา
ยศพัฒน์วางพิรัตน์ลง เด็กคนนี้เหมือนน้ำตาลทรายแดง เหนียวติดมือมาก
เขาจับมือเล็ก ๆ ของพิรัตน์ด้วยมือข้างหนึ่ง และกอดไหล่ของเทวิกาด้วยแขนอีกข้าง และเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน โดยที่เธออยู่ในอ้อมแขนของเขา พรางเดินพรางพูดว่า "งานแต่งงานของเราจัดขึ้นก่อนปีใหม่ ก่อนวันปีใหม่สี่ห้าวัน"
เทวิกายิ้มและพูดว่า "คุณและฉันแต่งงานกันแล้ว งานแต่งงานเป็นเพียงพิธีการ ฉันไม่คัดค้านว่าจะจัดขึ้นเมื่อใด"
“คุณคือคนที่ผมอยากจะปกป้องไปตลอดชีวิต ผมยอมทำผิดต่อตัวเอง ดีกว่าทำผิดต่อคุณ สิ่งที่คนอื่นมี ผมจะมอบให้คุณ สิ่งที่คนอื่นไม่มี ผมก็จะมอบให้คุณ”
ยศพัฒน์รอไม่ไหวที่จะให้ทุกอย่างแก่เทวิกา
“เรื่องนี้ รอพ่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว เราไปบอกกับคุณพ่อคุณแม่สักหน่อย”
พ่อแม่ของเขากำหนดวันแต่งงานเพียงฝ่ายเดียว แต่พวกเขาได้หารือกับตระกูลวาชัยยุงแล้ว แต่ตระกูลสาระทาเป็นครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวที่แท้จริง ดังนั้น พวกเขาจึงต้องหารือกับตระกูลสาระทา หากตระกูลสาระทามีข้อโต้แย้งใด ๆ พวกเขาสามารถเลือกวันอื่นได้
“โอเค”
เทวิกาตอบอย่างสุภาพอ่อนโยน
ยศพัฒน์หอมไปที่แก้มเธออย่างรวดเร็ว ทำให้เทวิกาเบิกตาโตมองเขา "พิรัตน์ก็อยู่นะ"
คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองผู้ใหญ่ทั้งสอง
หลังจากเห็นลุงพัฒน์หอมแก้มแม่เทวิกาแล้ว พิรัตน์ก็ขอให้เทวิกาอุ้มเขา
ยศพัฒน์ไม่ให้เทวิกาอุ้ม เขาอุ้มพิรัตน์ขึ้นมาแล้วพูดว่า "เด็กคนนี้ตัวหนักไปหน่อย ช่วงนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการอุ้มนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน