เริ่มมืดแล้ว นฤเบศวร์พากนกอรออกไปจากคฤหัสน์เมเปิล
ชุติภาก็ปฏิเสธความพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมให้เธออยู่ต่อซ้ำแล้วซ้ำเล่าของคุณย่า และขี่มอเตอร์ไซค์ของเธอออกไปแล้ว
เธอพักอยู่ที่โรงแรมเมเปิล ค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเธอในโรงแรมถูกคิดในบัญชีชื่อของเซทท์ และเซทท์ช่วยเธอจ่ายทั้งหมด
ว่าตามคำพูดของเซทท์ก็คือ ถ้าอยากจะได้คำแนะนำสั่งสอนจากปรมาจารย์ก็ต้องรู้จักประจบประแจง
เห็นได้ชัดว่าชุติภาไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของเซทท์ แต่เธอเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วว่าเมื่อเธอจะออกจากเมืองแอคเซสซ์ เธอจะคืนค่าใช้จ่ายทั้งหมดในโรงแรมให้กับเซทท์
แม้ว่าเซทท์จะขอให้เธอชี้แนะบ้างก็ไม่จำเป็นต้องเก็บค่าเล่าเรียนจากเขา
ถ้าเธออยากจะแต่งงาน ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะต้องแต่งงานกับพ่อของลูก ซึ่งก็คือณภัทร เพราะเธอค่อนข้างพอใจณภัทรอยู่มากไม่น้อย และทันทีที่แต่งงานกับณภัทรแล้ว เซทท์ก็จะกลายเป็นพี่สามีของเธอ แนะนำพี่ชายสามีสักสองสามกลยุทธ์ไม่จำเป็นต้องเก็บค่าเล่าเรียน
ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น
แน่นอนว่าตอนนี้เธอคงไม่คิดเรื่องแต่งงานแน่นอน
อันที่จริง ถ้าไม่ใช่เพราะเซทท์กับผู้อาวุโสตระกูลอริยชัยกุลพยายามเกลี้ยกล่อมเธอให้อยู่ต่อ บวกกับกัญณิศาขอร้องให้เธออยู่เที่ยวต่ออีกสักสามสี่วัน เธอคงจะกลับนานแล้ว
ในช่วงที่เธอไม่อยู่บ้านนี้ไม่รู้ว่าตาเฒ่าได้ทำลายสมุนไพรที่เธอพยายามเพื่อเลี้ยงดูมันมาอย่างหนักบ้างหรือเปล่า
หลังจากได้รู้จักกับกนกอรผ่านทางกัญณิศาแล้วชุติภาก็ตัดสินใจว่าจะอยู่ร่วมงานแต่งงานของกรกอรเสร็จก่อนแล้วค่อยกลับไปก็ยังไม่สาย
สรุปคือเธอจะออกจากเมืองแอคเซสซ์ก่อนที่ท้องของเธอจะนูนออกมา เพื่อไม่ให้ณภัทรเกิดสงสัย
ด้านเทวิกาก็ต้องระวังด้วยเหมือนกัน ได้ยินว่าเมื่อก่อนเทวิกาเขียนนิยาย คนที่เขียนนิยายมักจะมีจินตนการล้ำเลิศ
กัญณิศาเคยบอกว่าที่ตัวตนของเธอจะถูกประยสย์สงสัยและเปิดโปง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฝีมือของเทวิกา
หลังจากกลับถึงโรงแรมชุติภาโทรหากัญณิศา และหลังจากที่กัญณิศารับสาย เธอก็พูดว่า “ออกมาหน่อยได้ไหม มาดื่มกันสักแก้วสองแก้ว”
“เธอกำลังท้องนะยังจะดื่มอะไรอีก ตัวเองก็เป็นหมอ เรื่องแค่นี้ยังต้องให้เตือนอีกเหรอ”
กัญณิศาrพูดต่อ “ฉันเพิ่งกินข้าวเสร็จ งานแต่งงานของพี่สาวฉันกับพี่ชเนนทร์ก็ใกล้เข้ามาแล้ว ฉันต้องช่วยเตรียมงานแต่งงาน”
หลังจากแต่งงานแล้วกิติยาก็จะยังอยู่ที่ตระกูลนนท์สัจทัศน์ เพราะตอนนี้ตระกูลนนท์สัจทัศน์เหลือแค่พวกเธอสองพี่น้อง ในสายตาของกิติยาน้องสาวของเธอเป็นคนอ่อนโยนบอบบาง แถมยังได้รับการปกป้องดูแลอย่างดี เป็นผู้นำตระกูลไม่ได้ ดังนั้นหลังจากแต่งงานแล้วเธอจึงยังจะอาศัยอยู่ที่ตระกูลนนท์สัจทัศน์และยังคงเป็นผู้นำต่อไป
ถ้าแม่กับพ่อสามียินดีย้ายมาอยู่ด้วยกันได้ยิ่งดีเลย ถ้าไม่ยอมมา เธอกับชเนนทร์ก็จะกลับไปเยี่ยมผู้ใหญ่ที่บ้านอาทิตย์เว้นอาทิตย์ไปเรื่อย ๆ
“ฉันดื่มน้ำผลไม้ เธอดื่มเหล้าก็ได้”
ณิศาหัวเราะ “เธอมีเรื่องอะไรทำให้อารมณ์ไม่ดีใช่ไหม อารมณ์ไม่ดีก็ไปหาเรื่องเถียงกับพ่อของลูกเธอไป”
“ก็แค่เบื่อ ๆ ช่างมันเถอะ ฉันไปหาเธอแล้วกัน เธอเองก็ไม่ค่อนสะดวกออกมา แถมยังต้องแต่งหน้าอะไรอีก เป็นแบบฉันดีจะตายไปตรงไปตรงมาแบบไหนแบบนั้น”
ยังไงซะตอนนี้ทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนกันแล้ว ณิศาบอกว่าเจอเธอที่ร้านกาแฟ กิติยาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
“โอเค เธอมาได้เลยฉันจะรอเธอที่บ้าน”
หลังกัญณิศาพูดจบชุติภาก็วางสายไป
สองสาวจะคุยอะไรกัน เทวิกาไม่รู้ สองสามีภรรยาจากเมืองแอคเซสซ์ไปนาน ตอนนี้กลับมาแล้วก็พูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวจนกระทั่งสี่ทุ่มกว่าถึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน
และเทวิกาก็โทรศัพท์ไปหาพ่อกับแม่อีก ก่อนจะพาพิรัตน์นอนหลับปุ๋ยไป
เธอกลัวว่าจะทำให้ยศพัฒน์ไม่สบายตัว ตอนนี้เธอเลยให้พิรัตน์มานอนคั่นกลางระหว่างพวกเขาสามีภรรยา ไม่ได้นอนติดกับยศพัฒน์ เพื่อให้ยศพัฒน์รู้สึกดีขึ้น
แต่ว่าทุกครั้งที่เธอตื่นขึ้นมา พิรัตน์ก็จะไปนอนอยู่ที่ขอบเตียง มีอยู่ครั้งหนึ่งเด็กน้อยถึงกับกลิ้งตกลงไปจากเตียงนอนเลย
เทวิกาได้ยินเสียงโครมคราม ตามด้วยเสียงร้องไห้ขอพิรัตน์ เธอถึงรู้ว่าพิรัตน์กลิ้งตกเตียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน