กัญณิศามาถึงบ้านตระกูลวาชัยยุงพร้อมพี่สาวและพี่เขยในอนาคต
การกลับมาของเทวิกา ทำให้คนในบ้านของตระกูลวาชัยยุงดีใจมาก ส่วนชเนนทร์ก็พาคู่หมั้นมาด้วย ทุกคนในครอบครัวอยู่พร้อมหน้ากัน พิชญ์สินีดีใจจนฆ่าไก่ ฆ่าเป็ด แถมเร่งรัดให้สามีรีบไปซื้ออาหารทะเลในตัวเมืองกลับมา
และเผือกตุ๋นสามชั้นที่เมื่อก่อนเทวิกาชอบ
เทวิศีรษะกลับมาถึงตระกูลวาชัยยุง ถึงจะมีความรู้สึกว่ากลับมาถึงบ้านที่แท้จริง เธอเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ ช่วยพ่อแม่ทำกับข้าวด้วย “วิกา ลูกไปพูดคุยเป็นเพื่อนกับกิติยาและณิศา ลูกไม่ต้องมาช่วยทำกับข้าวหรอก”
พิชญ์สินีไล่เทวิกาออกไปจากห้องครัว
ลูกสาวสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย เธอก็ดีใจมากแล้ว
เรื่องของตระกูลสาระทาจบสิ้นลงแล้ว ต่อไป ลูกสาวของเธอก็จะปลอดภัย ไปกลับก็อิสระ ไม่ต้องกังวลว่าจะดึงพวกเขาติดร่างแหไปด้วยจนไม่กล้ากลับมา
เทวิกายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “เป็นคนในครอบครัวเดียวกันหมด ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนหรอก แม่ ไม่ต้องให้หนูช่วยจริงๆ เหรอ?”
พิชญ์สินีมือหนึ่งถือตะหลิวอยู่ อีกมือหนึ่งก็ไล่ให้เธอออกไป “ไม่ต้องแล้ว ลูกรอกินอย่างเดียวก็พอ”
เมื่อเห็นคุณแม่ไม่ต้องการให้เธอช่วยจริงๆ เทวิกาจนต้องออกไปแต่โดยดี
ใครจะไปรู้เธอเพิ่งเดินไปถึงห้องรับแขก ก็ได้ยินเสียงคุณแม่กรีดร้องเสียงดังขึ้นมา แล้วร้องตะโกนออกมาว่า: “ชเนนทร์ แกให้ฉันเข้ามาเดี๋ยวนี้!ไปเล้าไก่จับไก่มาฆ่าตัวหนึ่ง น้ำเดือดแล้ว”
ชเนนทร์หันหน้าไปมองน้องสาว น้องสาวก็หันหน้ามามองเธอเช่นกัน
เทวิกายิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “หนูอยากช่วยจริงๆ แต่แม่บอกหนูว่าไม่ต้องช่วย”
ชเนนทร์ลุกขึ้น ในขณะที่เดินไปนั้นก็ได้บ่นพึมพำตามออกมาด้วย: “แม่นี่รักผู้หญิงมากกว่าผู้ชายจริงๆ ถ้ามีงานอะไร โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้แรงหนักๆ เรียกให้พี่ทำทั้งนั้น ส่วนงานสบายถึงจะให้เธอทำ”
ทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน
ตระกูลวาชัยยุงรักผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิงจริงๆ แต่ความหมายก็เหมือนกับที่ชเนนทร์พูดแบบนั้น งานมากให้ผู้ชายทำ ส่วนงานน้อยก็ให้ผู้หญิงทำ นี่ก็คือการรักผู้ชายมากกว่าผู้หญิงในอีกแบบหนึ่งนั่นเอง
ชเนนทศีรษะไปช่วยงานแล้ว ยศพัฒน์คิดดูแล้ว ก็เดินเข้าไปช่วยงานด้วยอีกคน แม่ยายแสร้งทำเป็นไล่ของออกไป แต่เขายืนยันที่ช่วย แม่ยายจึงใช้งานเขาออกมาอย่างไม่เกรงใจ
เทวิศีรษะที่ไม่ต้องทำงานอะไร กำลังรับรองสองสาวพี่น้องของตระกูลนนท์สัจทัศน์
สนิทกันขนาดนี้แล้ว และใกล้จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่ต้องรับรองอะไรหรอก ส่วนกิติยาก็เหมือนกลายเป็นคนในครอบครัวเดียวของตระกูลนนท์สัจทัศน์ไปแล้ว ของในบ้านวางไว้ไหน เธอรู้หมด
“วิกา”
กัญณิศายื่นมือถือไปให้เพื่อนสนิทดู
ดวงตาสวยงามของเทวิกากะพริบ จากนั้นพูดกับกิติยาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า: “พี่กิติยา ฉันกับณิศาออกไปเดินเล่นหน่อยนะคะ”
กิติยาตอบอืมออกมา แล้วเตือนสองคนให้ใส่เสื้อกันหนาวออกไปด้วย
เทวิกากับกัญณิศาคล้องแขนกันออกไป หลังจากออกมาข้างนอกแล้ว กัญณิศาได้พูดขึ้นว่า: “เธอดูคำพูดของประยสย์สิ ถูก
บังคับให้แต่งงาน ยังจะมาดีใจขนาดนี้อีก”
“เป้าหมายคู่รักคือเธอ พี่ชายของฉันถึงรู้สึกดีใจ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นสิ มีหวังเขาระเบิดแน่ แถมถ่วงเวลากับคุณย่าจนถึงที่สุดแน่นอน เขาอายุยังน้อย ส่วนคุณย่าฉันแก่แล้ว ถ่วงเวลาไปอีกสักสามสี่ปี ก็ไม่มีคนบังคับเรื่องแต่งงานของเขาได้แล้ว เขาอยากแต่งงานกับใครก็แต่งงานกับคนนั้น”
“เขายังไม่ได้สารภาพรักฉันเลย ฉันไม่แต่งงานกับเขาหรอก เขาเคยพูดไว้ ว่าจะมาจีบฉันก่อน”
เทวิกตกใจ “พี่ชายฉันเป็นคนทำอะไรรวดเร็วมากไม่ใช่เหรอ?นี่ยังไม่ได้สารภาพรักกับเธอเลยเหรอ”
กัญณิศาเงียบไปสักพัก แล้วอธิบายออกมาว่า: “ฉันใส่หน้ากากอยู่ และปรากฏตัวต่อหน้าเขาในฐานะหน้ากากสาว เขาเคยสารภาพรักกับฉัน แต่ไม่ใช่สารภาพกับกัญณิศา ถึงแม้หน้ากากสาวจะเป็นฉัน แต่ฉันรู้สึกว่าคนที่เขารักไม่ใช่ฉัน”
เป็นเธอที่สวมหน้ากากอยู่
เทวิกา: “……นี่เธอกำลังหึงตัวเองอยู่เหรอ?แล้วจะทำยังไงดี หน้ากากสาวก็คือเธอ กัญณิศาก็คือเธอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน