“ภา”
เทวิกาเรียกชุติภาด้วยรอยยิ้ม “ฉันคิดว่าเธอจะไม่กล้าโทรมาหาฉันอีกแล้ว”
ชุติภาที่อยู่ปลายสายก็ยิ้ม: “เพื่อลูกศิษย์ตัวน้อยของฉัน ต่อให้ไม่กล้าก็ต้องกล้า วันนี้เป็นวันแต่งงานของพี่ชายเธอ งั้นขออวยพรให้พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ของเธอมีความสุข มีลูกเร็วๆก่อนแล้วกัน”
“ฉันขอบคุณสำหรับคำอวยพรของเธอแทนพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ของฉันด้วย ภา เบอร์ที่เธอใช้ตอนนี้เป็นเบอร์ของเธอหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่หรอก วันนี้ฉันต้องช่วยผ่าตัดให้คนไข้สองคน นี่เป็นมือถือของญาติคนไข้ที่ฉันยืมมาโทรหาเธอ”
ชุติภาพูดตามความจริง เธอพูดต่อ: “ถ้าฉันอยู่บ้านแทบไม่พกมือถือติดตัวเลย ออกไปข้างนอก โดยปกติมักจะยืมมือถือคนอื่นใช้น่ะ” อย่างนี้จะทำให้คนอื่นหมดหนทางหาตำแหน่งของเธอเจอ
ต่อให้เป็นตำแหน่งในช่วงระยะเวลาสั้นๆ รอให้คนๆนั้นตามมาถึงขจ เธอก็ออกไปจากตรงนั้นแล้ว ทำให้คนๆนั้นหมดหนทางหาเธอเจอ
แน่นอนว่า ต่อให้ไม่มีณภัทร ชุติภาก็ทำอย่างนี้เช่นกัน เธอกับอาจารย์คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตเช่นนี้ไปแล้ว
ดูเหมือนไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง ไปไหนมาไหนโดยไม่ทิ้งร่องรอย
คนไข้ที่อยากติดต่อให้ชุติภาช่วยผ่าตัดรักษาโรคหญ ต่างก็ติดต่อผ่านเบอร์ของผู้ช่วยเธอ ผ่านการตรวจสอบของผู้ช่วย เมื่อยืนยันแล้วว่าคนไข้ป่วยหนัก และสามารถจ่ายเงินได้ พวกผู้ช่วยถึงจะให้ผ่านการตรวจสอบ จากนั้นผู้ช่วยจะช่วยชุติภาจัดการตารางงานให้
ชุติภาคิดค่ารักษาอาการป่วยแพงทีเดียว คนธรรมดาเชิญเธอไปทำการรักษาผ่าตัดให้ไม่ได้หรอก
ดังนั้นเบอร์มือถือส่วนตัวของชุติภาน่ะ ไม่ว่าจะเป็นคนที่สนิทกับเธอเป็นพิเศษ หรือคนที่เธอเชื่อใจก็ตาม ต่างไม่มีใครรู้ทั้งนั้น เพราะปกติเธอให้ผู้ช่วยเป็นคนติดต่อ
“หลังจากที่เธอรู้ภูมิหลังของลูกศิษย์น้อยของฉันแล้ว วางแผนจะทำยังไงต่อไป?”
ที่ชุติภาโทรมาคราวนี้ เพราะอยากรู้ว่าเทวิกากับสามีของเธอจะวางแผนดูแลลูกศิษย์น้อยของเธอยังไง
เธอมีลางสังหรณ์ รู้สึกว่าเทวิกาจะขอให้เธอพาตัวลูกศิษย์น้อยไป
ช่วงนี้อาจารย์ก็เอาแต่จดจ้องท้องของเธอ ทำทุกวิถีทางเพื่อจับชีพจรของเธอ ทำให้เธออยู่ในบ้านอย่างไม่สงบ เธอจึงตัดสินใจว่าวันนี้หลังจากช่วยผ่าตัดให้คนไข้สองคนเสร็จ ก็จะออกไปเดินเตร่สักพักแล้วค่อยว่ากัน
สำหรับคนไข้คิวหลังที่กำลังรอให้เธอทำการผ่าตัด เธอจะมอบให้พวกผู้ช่วยของเธอ ติดต่ออาจารย์ของเธอแทน
ถึงยังไงเงินที่เธอหามาได้ก็ต้องมอบให้อาจารย์อยู่แล้ว อาจารย์ยังหนุ่มอยู่เลย เพื่อชีวิตในวันข้างหน้าของศิษย์กับอาจารย์ อาจารย์ก็ควรจะแสดงพลังที่ยังเหลืออยู่ในวัยปลดเกษียณออกมาอย่างต่อเนื่องสิ
ฝีมือการรักษาของอาจารย์ดีกว่าเธอเยอะเลย
ไม่งั้นคงไม่โดนเรียกว่าหมอเทวดาหรอก
เธอเป็นผู้สืบทอดวิชาของอาจารย์ แต่ยังไม่ถึงขั้นเก่งกว่าอาจารย์ อาจารย์บอกว่าถ้าเธออยากเหนือกว่าก็ต้องไปถึงระดับสูงสุดที่ปลุกคนตายให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ นี่ทำเอาชุติภาโมโหจะแย่
หมอเทวดา ก็เป็นคนนะ
ไม่ใช่เทวดา
คนที่ยมทูตต้องการตัว เทวดาก็ช่วยให้กลับมาไม่ได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเธอซึ่งเป็นแค่หมอเท้าเปล่าที่ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับเข้าทำงานหรอก ทักษะการรักษาจะไปถึงระดับสูงสุดที่ปลุกคนตายให้ฟื้นคืนชีพได้ที่ไหน?
“ฉันกับพิรัตน์มีวาสนาต่อกัน คอยเลี้ยงดูอยู่ข้างๆฉันมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ต้องพูดถึงที่เขาเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งหรอก ต่อให้เขาเป็นสัตว์ตัวหนึ่ง เลี้ยงมานานขนาดนี้ ก็ต้องผูกพันกันแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะทิ้งเขาไปเพราะภูมิหลังของเขา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน