หลังจากที่นิ่งไปครู่หนึ่ง พิชญ์สินีก็พูดอีกว่า: “หากตั้งท้องจริงๆ สามารถเลือกที่จะทำเอาเด็กออกได้ ถ้าทำไม่ลงคอ ก็คลอดออกมา พ่อกับแม่ช่วยลูกเลี้ยง ไม่มีทางกระทบกับการแต่งงานครั้งที่สองของลูก”
“แม่ค่ะ”
“วิกา ลูกก็อย่าโทษว่าแม่ใจร้าย แม่ก็แค่หวังดีต่อลูก”
เทวิกาพูดอย่างช่วยไม่ได้: “แม่ค่ะ แม่ก็ต้องให้โอกาสหนูได้พูดบ้างนะคะ”
“อ๋อ ลูกพูดสิ”
พิชญ์สินีก็ให้โอกาสลูกสาวได้พูด
“พี่พัฒน์ไม่ยอมหย่ากับหนู”
เรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้ เทวิกาบอกเรื่องราวของสาเหตุที่ผ่านมาอย่างตรงไปตรงมาให้แม่
หลังจากที่พิชญ์สินีได้ยินลูกสาวสารภาพอย่างตรงไปตรงมา ก็ทั้งโมโหทั้งเป็นห่วงทั้งตำหนิตัวเองจริงๆ
เธอยื่นมือไปจิ้มหน้าผากของเทวิกา และด่าว่า: “แม่เร่งรัดให้แต่งงาน ก็กลัวว่าลูกถูกตาณทำให้เจ็บปวด ลูกไม่ยอม แม่นอกจากแค่ปากบ่นว่าลูกไม่กี่ประโยค เคยบีบบังคับลูกเหรอ? ลูกกลับดีจริงๆ เบื่อที่แม่พร่ำบ่น ก็คิดที่จะเช่าแฟนมาหลอกแม่ได้”
“เช่าก็เช่า ลูกยังไม่ซื่อบื้อไปจดทะเบียนสมรสกับเขา ลูกคิดว่าพวกลูกเซ็นข้อตกลงบ้าๆนั้น ก็มีประโยชน์เหรอ? คำพูดของผู้ชาย สิบคำ อย่างมากสุดเชื่อได้แค่สามคำ”
“ทันทีที่จดทะเบียนสมรส พวกลูกก็เป็นสามีภรรยาที่ถูกกฎหมาย ขึ้นเรือง่าย แต่ลงจากเรือยาก”
พิชญ์สินีด่าไปด่ามา ก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล และพูดอย่างสงสัย: “พัฒน์เกลี้ยกล่อมให้ลูกไปจดทะเบียนสมรสได้อย่างไร? ทำไมแม่รู้สึกว่าเหมือนเขาจะมีความรู้สึก…….ต่อลูก แล้วฉวยโอกาสนี้พาลูกเข้าไปที่สำนักเขตเหรอ?”
ไม่สามารถตำหนิเธอที่คิดแบบนั้น
แม้ว่าเธอเพิ่งจะรู้ฐานะที่แท้จริงของยศพัฒน์ในคืนนี้ แต่ยศพัฒน์เป็นเพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัยของลูกชาย เธอก็เคยได้ยินเรื่องราวของยศพัฒน์มาจากปากลูกชายมากมาย
ผู้ชายที่เพอร์เฟกต์แบบนี้ ไม่ขาดผู้หญิงด้วยซ้ำ
ตกลงกับลูกสาวอย่างง่ายดาย ยังเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวไปจดทะเบียนสมรสด้วย พิชญ์สินีรู้สึกว่ายศพัฒน์วางกับดักมานานแล้ว ก็แค่รอให้ลูกสาวกระโดดลงไป
เทวิกาหน้าแดงเล็กน้อย หลุบตาลง และพูดเบาๆ: “พี่พัฒน์บอกว่า เขาชอบหนูมาตั้งนานแล้ว”
พิชญ์สินี: “…….”
ปริมาณข้อมูลในคืนนี้ล้นหลาม จนกระทบเธอ และระทมทุกข์
ผ่านไปครู่ใหญ่ เธอก็พูดอีกครั้ง ยังคงยืนกรานว่า: “หย่ากัน!”
“แม่ค่ะ หนูไม่อยากหย่า หนูคิดว่าพี่พัฒน์ดีมาก อยู่กับเขา สบายใจมากๆ หนูชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ”
“ลูก…….ความเจ็บปวดที่ตาณมอบให้กับลูก ลูกลืมไปแล้วเหรอ”
“แม่ค่ะ ตาณจะเปรียบเทียบกับพี่พัฒน์ได้อย่างไร? ตาณตีสนิทกับคนรวย แต่พี่พัฒน์เป็นคนรวย ไม่มีทางเหมือนอย่างตาณหรอกค่ะ”
พิชญ์สินีพูดอย่างโหดร้าย: “พัฒน์มีผู้หลงรักมากมาย คุณเปรมาในคืนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นใช่มั้ย ลูกไม่ได้ฟังคุณเปรมาบอกว่าตระกูลของหล่อนและตระกูลอริยชัยกุลคบกันมาหลายชั่วคน เธอและพัฒน์รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจนโตเหรอ? คนรู้ใจวัยเด็กอย่างหล่อน จะมากมาย ลูกจะรับมือได้เหรอ?”
เทวิกาเงียบ
ถอนหายใจ พิชญ์สินีกอดลูกสาวไว้“แม่ก็ไม่บีบคั้นลูก ลูกคิดไตร่ตรองให้ดี ช่องว่างระหว่างลูกและพัฒน์นั้นใหญ่เกินไป เวลานานเข้า อารมณ์ที่พลุ่งพล่านลดลง ความรู้สึกจืดจาง เขาจะเริ่มไม่ชอบลูก เพราะว่าระดับของพวกลูกแตกต่างกัน นอกจากว่า ลูกศึกษาต่อ พยายามที่จะไล่ตามให้ทันเขา”
แบบนั้น เหนื่อยมาก
พิชญ์สินีปล่อยลูกสาว
“พวกเรากลับไปกันเถอะ”
เทวิกาพยักหน้าเงียบๆ
พิชญ์สินีไม่ได้อยู่ในเขตเมืองอีกต่อไป
ให้ลูกชายส่งเธอกลับบ้านเกิดในชั่วข้ามคืน
เทวิกาปฏิเสธที่จะให้ยศพัฒน์เข้าห้องในคืนนั้น ทำให้เขาไม่มีที่นอนจริงๆ เธออยากที่จะอยู่เงียบๆ และคิดถึงอนาคตของเธอกับยศพัฒน์
ในใจยศพัฒน์เข้าใจว่าแม่ยายต่อต้านให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน
เหตุผลก็คือเขาเป็นลูกชายของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุด
น่าตลกมาก ครอบครัวของพวกเขาก็ไม่ได้ต่อต้านที่เขาจะอยู่กับเทวิกา คนในบ้านตระกูลวาชัยยุงหลังจากที่รู้จักฐานะของเขา ก็มีท่าทีต่อต้านเป็นอย่างมาก
ตระกูลอริยชัยกุล น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน