ถ้าจะให้วิเคราะห์จากความฝันของเทวิกาแล้วนั้น เธอคงจะไม่ใช่เด็กที่ถูกทอดทิ้งหรอก
อินทัชพูดว่า “ลักพาตัวงั้นเหรอ? บ้านตระกูลวาชัยยุงเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่มีทางลักพาตัวใครหรอก”
ยศพัฒน์ส่งสายตาที่คมกริบมา “ฉันสงสัยว่าวิกาจะโดนลักพาตัวมา แล้วคนทำก็หนีไป หลังจากนั้นบ้านตระกูลวาชัยยุงก็เลยเก็บมาเลี้ยงแทน”
ไม่ฉลาดเลย!
แน่นอนว่าบ้านตระกูลวาชัยยุงไม่มีทางลักพาตัวใครอยู่แล้ว
“แล้วถ้าเกิดว่าภรรยาของคุณคือคนที่บ้านตระกูลวาชัยยุงเก็บมาเลี้ยงจริงๆ คุณจะทำยังไง?”
อินทัชถามด้วยความสงสัย
ยศพัฒน์ถามเขากลับ “แล้วนายคิดว่าฉันควรทำยังไง? วิกาเป็นภรรยาของฉัน ไม่ว่าเธอจะเป็นลูกสาวแท้ๆ ของบ้านตระกูลวาชัยยุงหรือไม่ แต่เธอก็เป็นภรรยาของฉันอยู่ดี เรื่องนี้มันไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว ฉันแต่งงานกับเธอ ไม่ได้แคร์เรื่องภูมิหลังอะไรของเธอสักหน่อย”
ตระกูลอริยชัยกุลของพวกเขาคือตระกูลร่ำรวยอันดับหนึ่งของเมืองแอคเซสซ์ ไม่ได้จำเป็นต้องแต่งงานเพื่อเพิ่มพลังอำนาจของตัวเองหรอกนะ
พวกผู้ใหญ่เคยบอกว่า รุ่นก่อนพวกเขาต้องแต่งงานเพื่อความปรองดอง แต่ว่ารุ่นพวกเขามีสิทธิที่จะแต่งงานได้อย่างเสรี
ขอแค่พวกเขาชอบ และผู้หญิงคนนั้นมีภูมิหลังทางครอบครัวที่ใสสะอาด พวกผู้ใหญ่ก็จะไม่มีทางขัดอย่างแน่นอน
และแน่นอน ว่าถ้าได้แต่งงานกับคนที่วงศ์ตระกูลฐานะเท่าเทียมกัน พวกผู้ใหญ่ก็จะชอบกว่าอยู่แล้ว
เมื่ออยู่ในระดับเดียวกันก็จะสื่อสารกันง่ายหน่อย
“แต่ว่าคุณเป็นถึงคุณชายใหญ่ของตระกูลอริยชัยกุล และเป็นประธานของบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ป ถ้าเกิดว่าภรรยาของคุณไม่ได้มีภูมิหลังอะไรทางครอบครัวเลย แล้วจะยืนในสังคมชั้นสูงของเมืองแอคเซสซ์ยังไง? คุณคิดว่าคุณมอบตัวตนคุณนายใหญ่ของตระกูลอริยชัยกุลให้เธอแล้ว เธอจะสามารถยืนหยัดได้งั้นเหรอ? เว้นแต่ว่าเธอจะไม่ยุ่งกับคนอื่นเลย แต่มันเป็นไปได้เหรอครับ?”
ผู้หญิงของตระกูลอริยชัยกุล จำเป็นต้องไปงานเลี้ยงต่างๆ เป็นเพื่อนสามีอยู่แล้ว
งานเลี้ยงของสังคมชั้นสูง ถึงแม้ว่าทุกคนจะดูสวยงามและสดใส แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้มีการต่อสู้กัน ที่ไหนมีมนุษย์ ที่นั่นย่อมมีการขัดแย้งกันอยู่แล้ว
คนที่ชื่นชอบยศพัฒน์ก็มีเยอะมากอยู่แล้ว แถมภรรยาของเขายังไม่มีภูมิหลังอะไรอีก ต่อไปถ้าเกิดว่าเธอไปร่วมงานเป็นเพื่อนยศพัฒน์ ต้องถูกรังแกอย่างแน่นอน
พอนึกถึงตอนที่เทวิกาไปปรากฏตัวที่งานเลี้ยงกับเขาครั้งแรกนั้น ยศพัฒน์ก็พูดออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “ต่อให้วิกาของฉันจะไม่ได้มีภูมิหลังอะไร แต่ว่าเธอก็สามารถไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนฉันได้อยู่แล้ว เพราะว่าเธอสวยโดยธรรมชาติ ถึงไปงานเลี้ยงก็สามารถรับมือได้สบายๆ เหมือนกับว่าเธอเกิดมาเพื่ออยู่ในแวดวงสังคมชั้นสูงอยู่แล้ว”
“ตอนที่เธอไม่ต้องไปออกงานกับฉัน อยากทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น ฉันไม่จำกัดอิสรภาพของเธอหรอก ครอบครัวของฉันก็ไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรมากมายที่จะห้ามเธอหรอก”
แม่และป้าๆ ของเขา มีคนไหนบ้างที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ?
บางครั้งแม่ของเขาก็นั่งคุยซุบซิบกับพนักงานทำความสะอาดอยู่เลย
อินทัชเงียบไปครู่หนึ่ง และพูดว่า “ชาติที่แล้วเทวิกาคงทำบุญไว้เยอะมาก ชาตินี้ถึงได้แต่งงานกับคุณ”
เจ้านายเขารักภรรยามากจริงๆ
อินทัชกล้าพูดได้เลยว่า อีกไม่นาน เมืองแอคเซสซ์จะมีข่าวรั่วออกมาว่าคุณชายใหญ่ของตระกูลอริยชัยกุลเป็นคนกลัวเมีย
เจ้านายของเขาเนี่ยนะ ได้เริ่มเหยียบเข้าไปในเส้นทางกลัวเมียแล้ว และเริ่มเดินไปไกลเรื่อยๆ แล้วด้วย
“ฉันไม่เคยกังวลเรื่องนี้เลย แต่ว่าเรื่องที่ฉันกังวลก็คือ แม่ยายไม่ชอบที่ฉันรวยเกินไป และจะเกลี้ยกล่อมให้วิกาไปจากฉัน”
ยศพัฒน์พูดอย่างอารมณ์เสีย
เทวิกาไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าเขาก็พอจะเดาออก
ตอนแรกแม่ยายก็ชอบเขาอยู่หรอก แต่สุดท้ายก็มาไม่ชอบที่เขารวยเกินไป และสูงส่งเกินไป รู้สึกว่าเขากับวิกาไม่ได้เหมาะสมอะไรกันเลย ก็เลยเกลี้ยกล่อมให้วิกาหย่ากับเขา
อินทัช:“ฮ่าๆๆๆ เจ้านาย คุณก็มีตอนที่ถูกไม่ชอบเหมือนกันสินะ”
“หุบปากไปเลยนะ ถ้าเกิดว่ากล้าหัวเราะอีก ฉันจะส่งนายไปแอฟริกาซะ”
อินทัชหยุดยิ้มทันที
คนบริสุทธิ์อย่างเขา ไม่อยากไปแอฟริกาหรอกนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน