ปัง—
เฉียวป่าวเอ๋อร์กระแทกบานประตูอย่างแรง และขับไล่ทั้งคู่ออกไปจากห้อง
น้ำตาคลอเบ้าตา พยายามข่มกลั้นอารมณ์ไว้ ความเจ็บปวดที่อัดแน่นอยู่ในใจ ต้องยอมรับว่ามันเจ็บปวดมาก
เธอเคยทุ่มเทความรักทั้งหมดเพื่อผู้ชายคนนี้ เธอไม่เคยมารู้สึกเสียใจทีหลัง แต่เธอเกลียด เกลียดที่ตัวเองตาบอดรักคนผิด
เฉียวป่าวเอ๋อร์มองไปทางอพาร์ทเมนต์ที่ทรุดโทรมด้วยแววตาที่สับสน เธอหลับตาลง พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเอง
เธอเดินไปที่เก้าอี้ไม้ยาวตรงด้านซ้าย จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้า
เฉียวป่าวเอ๋อร์ขมวดคิ้ว เธอเดินไปที่เก้าอี้ แล้วนั่งลง
เมื่อกี้เธอเหวี่ยงยี่ซือเฉินลงพื้น เพราะใช้แรงเยอะเกินไปทำให้ข้อเท้าของเธอแพลง
เธอก้มลง กำลังจะม้วนกางเกงขึ้นมาเพื่อดูข้อเท้า
แต่ในเวลานั้นเอง เสียงฝีเท้าที่รีบร้อนก็ดังมาจากทางประตู
ความคิดแรกในใจของเฉียวป่าวเอ๋อร์คือยี่ซือเฉินไม่กลัวความตายกล้ากลับมายั่วโมโหเธออีกรอบ แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะด้วยคาราเต้สายดำของเธอ ตอนนี้เขาคงอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
บางทีอาจะจะเป็นคนขับรถของตระกูลจูนมาหาเธอ พอคิดได้แบบนี้ สีหน้าของเธอก็อ่อนลง เธอพยายามมองไปที่ประตูด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
แต่ทันทีที่เธอเงยหน้าขึ้น รอยยิ้มของเธอก็ชะงักไป
ดวงตาของเฉียวป่าวเอ๋อร์เบิกกว้าง มองไปที่ชายหนุ่มที่ปรากฏตัวตรงหน้า
เขา……
เขาไม่ใช่ว่าออกไปทำธุระและจะกลับมาถึงพรุ่งนี้เหรอ ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
จู่ๆ จูนจือมู่ก็ปรากฏตัวขึ้นในอพาร์ตเมนต์เล็กแคบและทรุดโทรมแห่งนี้ สายตาของเขามองไปรอบๆ
สีหน้าของเขาเย็นชาไม่พูดอะไรสักคำ เขาเดินตรงมาหาเธอ
เฉียวป่าวเอ๋อร์มองไปที่ท่าทีไม่เป็นมิตรของเขา ราวกับว่าเขามาเพื่อแก้แค้น
ทั้งที่ฉันไม่ได้ทำให้เขาขุ่นเคือง
“คุณ คุณมาหาฉันเหรอคะ” คำพูดของเธอค่อนข้างไม่แน่ใจ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
จูนจือมู่ไม่ตอบ แต่ถามกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เฉียวป่าวเอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอะไร เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ยาว ในขณะที่จูนจือมู่กำลังยืนอยู่ เขาสูงหนึ่งร้อนแปดสิบห้าเซนติเมตร หน้าตาหล่อเหลา แต่เขากลับมองลงมาที่เธออย่างสุภาพ จนเธอประหม่าเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนี้ หัวใจรอคอย