รักที่เจ็บปวดของฉัน
ตอนที่19 การพบกันในห้องคนไข้
ตอนที่19 การพบกันในห้องคนไข้
สุพจน์พากรรณารามาเยี่ยมชวนี ถูกศุภกิจรั้งไว้ให้หยุดที่ประตูทางเข้า ศุภกิจเห็นกรรณารา จึงยิ้มทักทาย“ยินดีกับพวกเธอด้วยที่จะแต่งงานกัน”
“ขอบคุณค่ะ”กรรณารายิ้มเขินอาย อีกทั้งมองกลับมายังสุพจน์อย่างอ่อนโยน
“นายไม่ให้พวกเราเข้าไป คือไม่ต้อนรับพวกเราที่มาเยี่ยมเภรรยานายงั้นหรือ?”สุพจน์จ้องมองศุภกิจอย่างเย็นชา ยืนเฝ้าประตูแล้วก็ยังรั้งพวกเขาไว้อีก
“ฉันกลัวว่าพวกธํอจะเสียใจถ้าเข้าไป ภรรยาฉันคลอดได้ลูกสาว ฉันขอบใจสำหรับการมาอวยพรของพวกเธอ”ศุภกิจยังคิดเผื่อพวกเขา ตามนิสัยของชวนีแล้ว พวกเขาเข้าไปจะต้องโดนด่าแน่ คิดเผื่อภรรยา แล้วก็ยังคิดเผื่อไปถึงสุพจน์ ไม่เข้าไปจะดีมาก
สุพจน์ก็ไม่ยอม“เข้าไปเยี่ยมดูสักหน่อยจะเสียใจอะไรกัน”
ศุภกิจเลิกคิ้วพวกเขายังคงยืนยันเลยเปิดประตูเข้าไป สุพจน์เลื่อนสายตามองเห็นจันทรัตร์ สะดุ้งประหลาดใจทั่วทั้งร่าง ราวกับถูกอะไรยึดไว้อยู่กับที่ เขาไม่ได้เห็นจันทรัตร์มานานมาก เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอกำลังตั้งครรภ์แต่ยังผอมกว่าแต่ก่อน
จันทรัตร์ใส่หมวก สวมกระโปรงตัวใหญ่ๆรูปร่างยังเพรียวบางกว่าแต่ก่อน ดูไม่ออกเลยว่าเป็นคนท้อง
กรรณาราฝืนยิ้ม ต่อหน้าจันทรัตร์ก็ยังต้องรักษากิริยาท่าทางที่เหมาะสม กล่าวอย่างสนิทชิดเชื้อ“ชวนี ฉันกับพี่สุพจน์มาเยี่ยม ไม่รู้ว่าเธอชอบทานอะไร ก็เลยเลือกของใช้สำหรับสตรีเพิ่งคลอดบางส่วนมาให้”
ชวนีเข้าข้างจันทรัตร์ ไม่ได้รู้สึกยินดีไปกับกรรณาราเลยแม้แต่น้อย เธอกลอกตาไปรอบ“ไม่ต้องการพวกเธอมากังวลฉันเกรงว่าถ้ากินไปแล้วจะอายุสั้นเปล่าๆ”
ประโยคที่พูดออกมา ทำให้กรรณารารู้สึกเก้อเขิน แสร้งทำเป็นผ่อนคลาย“เธอนี่ตลกจัง”
กรรณาราวางข้าวของต่างๆลงอย่างเรียบร้อยแล้วก็กลับไปยังข้างกายสุพจน์ เธอบอกแต่แรกแล้วว่าไม่ต้องมา มาแล้วก็ต้องมารองรับอารมณ์ แต่สุพจน์อยากจะมาให้ได้ เธอก็เลยได้แต่ตามมากับเขา
“ภรรยาฉันเพิ่งคลอดลูก เวลาโมโหค่อนข้างรุนแรง พวกเธออย่าถือสาเลยนะ”ศุภกิจรีบประนีประนอม
“อะไร ฉันไม่ได้โมโห ฉันแค่ไม่ชินกับการเป็นคนเสแสร้ง คิดว่าคนทั้งโลกติดค้างเขา แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองนั่นล่ะที่ชั่วร้ายสุดๆ”ชวนีพูดอย่างร้ายกาจพาดพิงถึงสุพจน์
สุพจน์มองท้องโตหกเดือนของจันทรัตร์ ดูเหมือนท้องยังจะใหญ่มากกว่าตัวคนซะอีก สุพจน์คิ้วขมวด ไม่ขยับอยู่เป็นเวลานาน
“ฉันกลับก่อนนะ พวกเธอก็คุยกันไปแล้วกัน”จันทรัตร์ไม่มองสุพจน์ ราวกับเขาเป็นอากาศ
“เธอไปทำไม พวกเขาต่างหากที่ควรไป”ชวนีรั้งแขนของจันทรัตร์ไว้
จันทรัตร์รู้สึกลำบากใจฉากที่น่าเก้อเขินเชื่อว่าใครๆก็สับสนจนทำอะไรไม่ถูก“งั้นฉันไปห้องน้ำสักครู่”
สุพจน์ถอนสายตา ไม่ได้นำเรื่องอารมณ์ร้ายของชวนีมาใส่ใจ“ศุภกิจ ภรรยานายฟื้นตัวได้ไม่เลว เพิ่งคลอดเด็กก็มีแรงโมโหได้ขนาดนี้ แสดงว่าร่างกายจะต้องแข็งแรงมากแน่ๆ”
“หลังคลอดฟื้นตัวได้ดีจริงครับ”ศุภกิจตอบสนอง
ทุกก้าวเดินของจันทรัตร์ก็เป็นก้าวที่ห่างไปจากสุพจร์ เมื่อเธอเดินถึงด้านข้างกายสุพจน์ จังหวะหายใจของเธอกลับถี่กระชั้น ไม่รู้ว่าใครขัดขา ร่างจันทรัตร์เสียหลักพุ่งล้มลง ยังดีที่สุพจน์ตาไวคว้าจันทรัตร์ไว้ได้อย่างรวดเร็ว มือที่เคยคุ้น กลิ่นที่คุ้นเคย จันทรัตร์กำปั้นแน่นและผลักมือของสุพจน์ออก
“ขอบคุณ”จันทรัตร์หลบออกไป
สุพจน์หันไปมองเงาด้านหลังของจันทรัตร์ รู้สึกว่าแปลกฟ
“พี่สุพจน์”
กรรณาราเรียกกระทั่งเรียกอยู่หลายครั้ง ก็ยังฉุดสุพจน์กลับจากภวังค์ไม่ได้ จึงฉุดแขนเสื้อของเขา
สุพจน์ตอบกลับมา“หืม?”
“ศุภกิจเพิ่งบอกว่าอยากจะเลี้ยงข้าว”กรรณาราพูดเสียงเบา
“อ๋อ ได้สิ”
จองร้านอาหารแห่งนึ่งได้ ศุภกิจและชวนีก็เป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวพวกเขา จันทรัตร์นั่งข้างชวนีหยอกล้ออยู่กับทารกน้อย
หลังอาหารขึ้นโต๊ะ จันทรัตร์ทานเพียงโจ๊กรสจืดชืด อาหารบนโต๊ะหลากหลายกลับไม่ทาน สภาพนี้สุพจน์มองเข้าตาไปหมดตอนนี้จันทรัตร์กำลังท้องไส้ ควรทานเยอะๆเพื่อบำรุงไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงตั้งใจทานแค่โจ๊ก อีกทั้งอาหารจานโปรดที่ตรงหน้าเธอแม้กระทั่งแตะต้องสักนิดก็ยังไม่
ยิ่งมองสุพจน์ก็ยิ่งรู้สึกแปลกใจ จันทรัตร์เปลี่ยนไปมาก เธอไม่ชอบสวมหมวก และไม่มีภูมิคุ้มกันต่ออาหารทีนี้สิ่งที่เธอชอบกับไม่ชอบนั้นสลับตรงข้ามกันหมดเลย
“จันทรัตร์ ลูกของเธอก็ใกล้จะคลอดแล้ว ถ้าหากเป็นเด็กผู้ชาย พวกเราก็ให้หมั้นกัน เป็นไง?” ชวนีจงใจยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด
จันทรัตร์หัวเราะตอบ“ถ้าหากเป็นเด็กผู้หญิงจะทำอย่างไรล่ะ?”
“ไม่เห็นเป็นไร ก็เป็นพี่สาวน้องสาวสิสุพจน์ นายว่าไง? ชวนีตั้งใจหาเรื่องจงใจกล่าวลอยๆต่อหน้ากรรณารา
ใบหน้ากรรณาราแข็งทื่อ ทุกคนก็รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของสุพจน์ แถมยังเป็นตัวสร้างความยุ่งยากใจให้กับเธอ เดิมทีกรรณาราก็มีความสุขที่เฝ้ารอการแต่งงาน แต่เพราะเด็กนั่นถึงมีสีหน้าดูแย่
“เธอถามแค่จันทรัตร์ก็พอ” สุพจน์ตอบกลับอย่างนิ่งๆสงบ