ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 15

เช้าวันรุ่งขึ้น สองสามีภรรยาก็ออกไปตามหานับหนึ่งตามหอพัก ตามมหาลัยต่างๆ

ในขณะนั้นเอง อยู่ๆก็มีผู้ปกครองของเพื่อนนับหนึ่งคนหนึ่งทักถามเข้ามาในกลุ่มด้วยความเป็นห่วง

" คุณแม่ น้องนับหนึ่งกลับมาถึงบ้านหรือยังคะ "

รานีเปิดอ่านข้อความปุ๊บก็ตกใจ นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานตัวเองไม่ได้ตอบกลับในกลุ่ม

" อุ๊ย ตายละ เกือบทำให้คนสงสัยแล้วมั้ยล่ะ นังนับหนึ่งนะนังนับหนึ่ง หาเรื่องเดือดร้อนให้ฉันจนได้ อย่าให้เจอตัวแล้วกันนะ "

รานีบ่นงึมงำคนเดียวด้วยความโกรธจัด จากนั้นแกก็พิมพ์ตอบกลับในกลุ่มว่า

( ค่ะ น้องกลับมาแล้ว ขอบคุณผู้ปกครองทุกท่านที่ให้ความร่วมมือนะคะ )

( ด้วยความยินดีค่ะ เข้าใจหัวอกของคนเป็นผู้ปกครองด้วยกันค่ะ )

แล้วรานีก็ส่งรูปอีโมจิขอบคุณไปเป็นการจบสนทนาในกลุ่ม จากนั้นแกก็ขับรถออกตามหานับหนึ่งต่อ

เมืองที่เป็นเขตปกครองพิเศษมันไม่ได้ทำให้ตามหาคนง่ายขนาดนั้น

บางมหาลัยก็บางหอพักก็เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยของนักศึกษา ไม่ง่ายเลยที่ธำรงกับรานีจะตามหานับหนึ่งเจอ

สองอาทิตย์ต่อมา........

นับหนึ่งหอบเงินในกระเป๋านั่งรถไปยังมหาลัยเพื่อไปขอจ่ายค่าเทอมล่วงหน้า

พอไปถึงมหาลัย เธอก็แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ของมหาลัย แล้วทำเรื่องจ่ายค่าเทอมรวดทั้งสี่ปี

แต่ด้วยค่าเทอมของมหาลัยที่เธอเรียนอยู่ค่อนข้างแพง เธอเลยเหลือเงินติดตัวมาแค่แสนเดียว

พอกลับมาถึงหอก็รีบไปจ่ายค่าหออีกสามหมื่นหกพันบาท(ครบปี) เธอมองดูเงินในมือของตัวเองแล้วบ่นพึมพำกับตัวเองในใจ

[ เฮ้อ เงินแสนเงินล้านหมดไปในพริบตาเดียว แล้วจะพอใช้มั้ยเนี่ย ]

แล้วเธอก็ถอนหายใจออกมา

[ ช่างเหอะ แค่มีที่เรียน ที่พักอาศัยก็พอแล้ว เดี๋ยวค่อยไปหางานทำระหว่างเรียน

อดมื้อกินมื้อบ้าง จะเป็นไรไป ที่ผ่านมาลำบากกว่านี้ยังผ่านมาได้เลยหนิเรา ]

เธอเดินมาเข้ามาในห้อง แล้วไปอาบน้ำเสร็จก็มานั่งทานข้าวในห้องคนเดียวอย่างเงียบๆ

พอตกดึกเธอก็นอนคุยกับรูปของแม่พร้อมกับเอ่ยพึมพำกับแม่ด้วยความคณึงหา

" คุณแม่คะ หนูคิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ วันนี้หนูอยากจะบอกแม่ว่า

ไม่ต้องเป็นห่วงหนูแล้วนะคะ หนูโตแล้วสามารถดูแลตัวเองและเอาตัวรอดได้แล้ว

ตอนนี้ หนูก็ออกมาใช้ชีวิตคนเดียวอย่างมีความสุขแล้ว คุณแม่หลับให้สบายเลยนะคะ รักแม่ค่ะ "

เอ่ยจบเธอก็จุ๊บรูปแม่เบาๆแล้ววางลงใต้หมอนแล้วเธอก็หลับไป

เช้าวันรุ่งขึ้น นับหนึ่งก็เดินทางไปเปิดบัญชีที่ธนาคาร เสร็จแล้วก็ไปซื้อโทรศัพท์แบบปุ่มกดธรรมดา ในราคาเครื่องละหนึ่งพันบาท เพื่อเอาไว้ใช้ในการติดต่อเพื่อนกับอาจารย์ระหว่างเรียน

หลังจากนั้น เธอก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยความมัธยัสถ์ อยู่ในสถานที่พักอาศัยแห่งใหม่โดยไม่ต้องเป็นทาสรับใช้หรือก้มหัวให้ใครอีก

ทางด้านรานีกับธำรงก็วุ่นกับการตามหานับหนึ่งด้วยความเครียดจัด จนมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง

เมื่อถึงวันที่ต้องส่งตัวนับหนึ่งไปให้เจ้านายที่โรงแรม พวกเขาทั้งสองต่างก็นั่งหน้าเครียดกุมขมับอยู่ในห้องรับแขกทั้งวัน

สุดท้ายธำรงก็เงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยกับภรรยาอย่างอับจนหนทางที่จะแก้ไขปัญหาด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา

" คุณ...ผมว่า...นับหนึ่งคงไม่กลับมาแล้ว เรายกเลิกเรื่องที่จะส่งผู้หญิงไปให้เจ้านายผมเถอะนะ ผมจะลาออกแล้วค่อยไปหางานใหม่ก็ได้ "

รานีเงยหน้ามองสามีอย่างไม่พอใจแล้วเอ่ยเสียงแข็งด้วยความโมโห

" สมองคุณคิดได้แค่นี้เหรอ ลาออกแล้วคุณจะไปสมัครงานที่ไหน จะมีบริษัทไหนกล้ารับคุณเข้าทำงาน คุณคิดบ้างมั้ย

แล้วคุณคิดว่าเจ้านายคุณจะยอมปล่อยพวกเราไปง่ายๆเหรอ

มันหลงหลงลูกสาวสุดที่รักของคุณอย่างกับอะไรดี อยู่ๆไปบอกขอยกเลิก นั่นไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรือไง "

" แล้วคุณจะแก้ปัญหายังไง ในเมื่อนับหนึ่งก็หนีหายไปแล้ว เราจะส่งใครไปแทนนับหนึ่งล่ะ "

ธำรงขึ้นเสียงใส่ภรรยาเล็กน้อยอย่างหมดความอดทน

ในขณะนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของรานีก็ดังขึ้น แกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เห็นรูปลูกโชว์ขึ้นมาบนหน้าจอ

เหมือนแกจะคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงกดรับสายแล้วเอ่ยเสียงหวาน

" ฮัลโหล ลูก "

อิงฟ้าที่อยู่ปลายสายพอได้ยินเสียงผู้เป็นแม่ เธอก็เอ่ยสั่งทันที

" คุณแม่คะ วันนี้หนูจะกลับไปนอนบ้านนะคะ ให้นังนับหนึ่งไปทำความสะอาดห้องให้หนูด้วย อย่าให้มีไรฝุ่นหลงเหลือล่ะ "

อิงฟ้าเอ่ยเสียงห้วนอย่างทะนงตนทำราวกับนับหนึ่งเป็นคนใช้อย่างเคยชิน

รานียิ้มด้วยความดีใจพร้อมกับเอ่ยตอบลูกสาวด้วยน้ำเสียงหวานอย่างเอาใจ

" ได้ซิคะลูก นานๆทีลูกสาวแม่กลับมา เดี๋ยวแม่จะไปทำความสะอาดห้องให้จนสะอาดใสวิ้งค์เลยจ้ะ "

ตอนนี้รานีมีแผนในใจแล้วว่าจะให้ใครไปแทนนับหนึ่ง

อิงฟ้าได้ยินแม่พูดว่าจะไปทำความสะอาดให้ด้วยตนเองแบบนั้น เธอก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

" คุณแม่จะไปทำความสะอาดเองทำไมคะ ทำไมไม่ใช้นังนับหนึ่งทำ

" สรุปแล้วเขาก็ไม่ได้หลงนับหนึ่งแบบรักใคร่เลย แต่มองนับหนึ่งเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่ง แบบนั้นก็สมควรแล้วที่นับหนึ่งจะหนีไป "

" นี่คุณกล้าพูดว่าดีแล้วได้ยังไง ห๊ะ เรากำลังจะเดือดร้อนตายเพราะลูกสาวคุณนะ คุณยังจะเข้าข้างมันอีกเหรอ "

รานี้รู้สึกโกรธแค้นมากที่นับหนึ่งหนีไป

ธำรงรู้สึกผิดหวังในตัวรานีมาก ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เห็นธาตุแท้ของภรรยาที่เขารักมาตลอดจนมองข้ามรรินทร์ไป

" ผมเป็นพ่อก็ต้องเข้าข้างลูกสิ ถึงจะถูก ที่ผ่านมาคุณกับอิงฟ้า มีเงิน มีรถ ใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบายได้ ก็เพราะนับหนึ่งนะ

แม้กระทั่งผมที่เป็นพ่อที่มีหน้าที่การงานที่ดีได้ ก็เพราะการเสียสละของเธอเช่นกัน แล้วพวกเราล่ะ เคยตอบแทนอะไรเธอบ้างมั้ย "

" เราก็เลี้ยงดูมันไง เลี้ยงจนมันโตเป็นสาว มันก็สมควรที่จะตอบแทนเรามั้ย มีอะไรให้น่ารู้สึกผิดกัน "

คำพูดของรานีทำให้ผู้เป็นสามีโกรธมาก

" คุณไม่รู้สึกผิด เพราะคุณไม่ใช่แม่ของเธอไง แต่ผมเป็นพ่อของเธอ ผมรู้สึกผิดที่ต้องส่งลูกไปขายตัวแบบนั้น

ต่อไปคุณจะทำยังไงก็เชิญ ผมไม่สนใจแล้ว แม้ผมต้องตกงาน ต้องอดตาย หรือต้องหนีจนไร้ที่ซุกหัวนอนผมก็ยอม

ในเมื่อนับหนึ่งไม่อยู่แล้วผมก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้อีก หากคุณแก้ปัญหาไม่ได้ ก็บอกความจริงไป มันจะได้จบๆ "

ธำรงเอ่ยอย่างหมดความอดทนด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวอย่างเด็ดขาด รานีโกรธจนร้องให้แล้วเอ่ยถามขึ้น

" หากบอกความจริงไป แล้วเรื่องนี้เจ้านายคุณจะให้มันจบลงยังไง หากเกิดอะไรขึ้น คุณไม่สงสารฉันกับลูกเหรอ! "

" จบยังไงผมไม่สน ผมรู้แค่ว่าเราต้องยอมรับความจริง เพราะที่ผ่านมาเราละโมภเอง จะไปโทษใครได้ ก็ต้องโทษตัวเองสิ! "

ธำรงตวาดเสียงใส่ภรรยาด้วยความเดือดดาลแล้วลุกขึ้นเดินกลับไปที่ห้อง

หย่อนกายลงนั่งบนเตียง ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา

ตอนที่ยังหนุ่ม เขาได้เจอกับรานีที่เป็นพนักงานธนาคาร

ในตอนนั้นรานีรู้ว่าเขามีภรรยาแล้วแต่ก็ยังรับได้และอ่อยเขาไม่เลิก

จนทำให้เขานอกใจรรินทร์แม่ของนับหนึ่งจนรานีตั้งท้องแล้วมีอิงฟ้าก่อน

ตอนนี้เขาเพิ่งตาสว่าง เห็นธาตุแท้ เห็นด้านไม่ดีของรานี นึกเสียดายรรินทร์ที่จากไปและรู้สึกผิดกับเธอมาก

การหนีไปของนับหนึ่งทำให้เขารู้ว่า นับหนึ่งไม่เคยมีความสุขเลย ที่ผ่านมาเธอแค่ไม่พูดเท่านั้นเอง

นึกถึงวันที่ลูกสาวเอาเอกสารมาให้เขาเซ็นแล้ว ทำให้รู้ว่า นับหนึ่งวางแผนที่จะหนีอย่างรอบคอบโดยไม่คิดจะกลับมาหาเขาอีกเลย

[ นี่ลูกคงเฝ้ารอวันที่ลูกบรรลุนิติภาวะมานานแล้วใช่มั้ย พ่อขอโทษนะนับหนึ่ง ขอโทษที่ละเลยลูกมาตลอด พ่อทำผิดต่อลูกไว้มากจริงๆ พ่อขอโทษ ]

แกนั่งก้มหน้าร้องให้ออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจคิดถึงคนที่จากไป ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดอย่างไม่น่าให้อภัย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก