ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 30

อิงฟ้าเปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำ มองนับหนึ่งด้วยแววตาดุร้าย

นับหนึ่งหยุดการกระทำแล้วเงยหน้าขึ้นมามองแรงใส่อิงฟ้าผ่านกระจกด้วยสีหน้าเหวี่ยงๆอย่างเย็นชาโดยไม่มีทีท่าว่าจะกลัวอีกเลย

เธอเป็นคนมีดวงตาคมโตหางเชิดแบบหงส์อยู่แล้วยิ่งมองแรงก็ยิ่งดูเหวี่ยงอย่างสง่าน่าเกรงขาม

เมื่อถูกมองแรงใส่แบบนั้นอิงฟ้าก็ไม่พอใจอย่างมาก ซ้ำยังรู้สึกเกลียดดวงตาหงส์คู่งามของนับหนึ่งอย่างมาก

จึงเดินเข้ามาใกล้อย่างช้าๆแล้วยื่นมือมาจับแขนนับหนึ่งพร้อมกับจิกเล็บอันแหลมคมลงบนผิวเนียนสวยจนมีเลือดซึมออกมา

นับหนึ่งจ้องหน้าอิงฟ้าด้วยแววตาแข็งกร้าวอย่างสะกดกลั้นอารมณ์และความเจ็บเอาไว้

แล้วกัดฟันเอ่ยเสียงต่ำอย่างหนักแน่นเยือกเย็น

" ปล่อย! "

" หึ "

อิงฟ้าแสยะยิ้มเยาะหยันขึ้นที่มุมปากอย่างไม่คิดจะปล่อยมือแล้วเอ่ยขู่เสียงต่ำด้วยความเกลียดชัง

" ฉันจะบอกให้นะนับหนึ่ง ตราบใดที่ฉันยังเห็นใบหน้าและแววตาคู่นี้ของแก

ฉันจะไม่ปล่อยให้แกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเด็ดขาด แล้วจำใส่กะโหลกแกไว้ ว่าแกจะมีชีวิตที่ดีเสมอฉันไม่ได้

เพราะฉันเกลียดแก เกลียดมาตั้งแต่เด็กแล้วเกลียดจนสามารถฆ่าแกได้เลย รู้ไว้ด้วย

แล้วหากแกยังลอยหน้าลอยตามาให้ฉันเห็นหน้าอีกล่ะก็ ฉันจะสั่งเก็บแกทันที เข้าใจมั้ย "

นับหนึ่งโกรธจนไม่เกรงกลัวคำขู่ใดๆแล้ว ในเมื่อขอให้ปล่อยดีๆแล้ว แต่อิงฟ้ากลับทำโอหังขู่จะฆ่าเธอ

ทำให้ความอดทนของเธอที่มีหมดลงไปทันที แล้วเธอก็ยกเท้าถีบส่งอิงฟ้าออกไปเต็มแรง

จนแผ่นหลังของอิงฟ้าชนเข้ากับประตูอย่างจัง

จากนั้น เธอก็เดินเข้าไปหาอิงฟ้าแล้วหยิกมือหล่อนคืนแรงๆ จนอิงฟ้าร้องออกมา

" โอ้ย!!!! นังนับหนึ่ง แก... "

เธอเลิกคิ้วขึ้นมองอิงฟ้าด้วยแววเยาะเย้ยแล้วเอ่ยเสียงเย็นอย่างผู้ที่เหนือกว่า

" เจ็บเป็นด้วยเหรอ เมื่อกี้เธอยังทำเก่ง อวดดีอยู่เลยหนิ ทำไมตอนนี้ ถึงร้องอย่างกับโดนเชือดล่ะ

แล้วฉันจะขอบอกไว้เช่นกันนะว่า ฉันไม่ใช่นับหนึ่งคนเดิมที่เธอจะรังแกได้อีกต่อไป

ไม่ใช่นับหนึ่งที่จะยอมก้มหัวและยอมให้เธอกับแม่ของเธอกดขี่รังแกได้อีก จำไว้ "

เอ่ยจบนับหนึ่งก็ใช้เข่าแทงเข้าใต้ลิ้นปี่ของอิงฟ้าทำเอาอิงฟ้าจุกจนพูดไม่ออกล้มตัวลงไปกับพื้น

ใบหน้าเหวี่ยงหลุบตาลงมามองบนตัวคนที่นอนงอตัวด้วยสีหน้าเจ็บปวด

" นี่แค่เบาๆซอฟต์ๆนะ ของจริงมันยังไม่ถึงเวลา จะให้ดี เธอไม่ควรมารบกวนฉันอีก เข้าใจนะ "

เธอเอ่ยทิ้งท้ายอย่างเยือกเย็นก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป

ธีร์ที่แอบฟังอยู่หน้าห้องน้ำ พอรู้ว่านับหนึ่งจะออกมาก็รีบหลบเข้าไปในห้องน้ำชายทันที

[ หนึ่งกับอิงฟ้าเคยรู้จักกันมาก่อน ดูแล้วนับหนึ่งคงจะโกรธแค้นมาก ]

เขาได้ยินทุกประโยคที่ทั้งสองคุยกันอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นจนจบ

หลังจากที่นับหนึ่งกลับเข้าไปในห้องอาหาร เขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำชายแล้วเข้าไปดูอิงฟ้าในห้องน้ำหญิง

เพราะเมื่อกี้เขาได้ยินเสียงเธอร้องอย่างเจ็บปวดเลยกลัวเธอจะเป็นอะไรไปเพราะนับหนึ่ง

พอเปิดประตูเข้าไป ก็ตกใจที่เห็นอิงฟ้านอนกับพื้นด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว ดูเหมือนเธอจะเจ็บปวดอย่างมาก

" คุณอิงฟ้า! "

เขารีบเข้าไปอุ้มอิงฟ้าขึ้นมาแล้วพาออกมาจากห้องน้ำพามานั่งสูดอากาศข้างนอก

แล้วช่วยทำให้เธอทุเลาลงโดยการกดจุดเน่ยกวานกับจุดจู๋ซานหลีตามศาสตร์แพทย์แผนจีนที่เคยรู้มา ข้างละ สามถึงห้านาที

พอสีหน้าอิงฟ้าเริ่มดีขึ้น เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

" ฮู่~ "

[ โชคดีที่คุณอิงฟ้าไม่เป็นอะไรมาก ไม่งั้นนับหนึ่งคงจะอยู่ยากแล้ว ]

เพราะอิงฟ้าเป็นดาราดังที่มีชื่อเสียง มีแฟนคลับมากมาย นับหนึ่งคนเดียวจะสู้กับอิงฟ้าได้ยังไง

เขารู้สึกกังวลและเป็นห่วงนับหนึ่งมากจริงๆ

" ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วย "

อิงฟ้าเอ่ยขอบคุณตามมารยาทแล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในห้องอาหาร ธีร์เลยตามเธอกลับเข้าไปพร้อมกับเอ่ยตามหลังเธอว่า

" เดี๋ยวคุณก็สั่งน้ำขิงอุ่นๆมาทานสักแก้วนะ มันจะช่วยทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น "

" ค่ะ ขอบคุณ "

อิงฟ้าเอ่ยตอบอย่างวางท่าโดยไม่หันมาสนใจธีร์ที่ช่วยเธอไว้อีกเลย

ธีร์ก้าวเท้าเข้าไปในห้องอย่างใจเย็นเพื่อเว้นระยะห่างลดความน่าสงสัย

" คุณเป็นอะไรไป ทำไมหลังจากที่กลับมาจากห้องน้ำ สีหน้าถึงดูซีดไป ไม่สบายหรือเปล่า "

อิงฟ้าพยายามฝืนยิ้มแล้วเอ่ยตอบเสียงหวาน

" เปล่าค่ะ "

" อือ ถ้ามีอะไรก็บอก คุณเป็นผู้หญิงของผม เป็นหน้าที่ผมที่ต้องช่วยเหลือดูแลคุณ "

" ค่ะ "

ได้ยินดังนั้นอิงฟ้าก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ในใจคิดจะขอชายตรงหน้าส่งคนไปจัดการนับหนึ่งอยู่แล้ว

แต่การที่คิดจะทำการใหญ่ ใจต้องนิ่ง จะต้องใจเย็นๆ ดังนั้นเธอไม่รีบ จะปล่อยให้นับหนึ่งใช้ชีวิตไปก่อน

ด้านหน้าภัตคาร ธีร์วิ่งไปคว้าข้อมือนับหนึ่งแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุม

" คุณจะไปไหน ผมไปส่ง "

นับหนึ่งหันมามองเขาแล้วเอ่ยปฏิเสธเสียงเรียบ

" ไม่ต้องค่ะ ฉันเดินกลับเองได้ "

เธอเผลอหลุดปากพูดออกมาว่าจะเดินกลับ ทำให้ธีร์ต้องเอ่ยสั่งอย่างเด็ดขาดด้วยน้ำเสียงสุขุมจ้องนับหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

" ผมเป็นเจ้านายคุณนะนับหนึ่ง ผมสั่งให้ขึ้นรถคุณก็ต้องขึ้น ที่นี่มันไกลจากหอพักคุณมาก

ผมไม่อยากให้คุณเดินจนเจ็บขาแล้วไปทำงานไม่ไหวหรอกนะ แบบนั้นมันจะเสียงานผม เข้าใจมั้ย "

เมื่อเขาอ้างความเป็นเจ้านายกับเรื่องงานมาพูดเธอก็เชื่อฟังเขาโดยไม่เอ่ยอะไรอีก เพราะเธอยังไม่อยากตกงานในตอนนี้

" ขอโทษค่ะ นับหนึ่งลืมตัวไปหน่อย "

แล้วธีร์ก็จูงมือนับหนึ่งไปขึ้นรถ จากนั้นก็ขับออกจากลานจอดรถของภัตคารไป

ระหว่างทางนับหนึ่งก็นั่งหน้านิ่งเงียบตลอดทาง

กำลังทบทวนตัวเองอย่างเงียบๆ

จริงๆแล้วเธอก็เป็นมนุษย์ทั่วไปคนหนึ่งที่มีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้น เป็นคนแค้นฝังใจและร้ายกาจมากคนหนึ่ง

แต่ด้วยสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ในตอนนั้น มันไม่เอื้อให้สู้รบปรบมือกับสองแม่ลูก สู้ไปก็มีแต่แพ้กับเสียเปรียบ

ทำให้เธอต้องก้มหัวยอมสองแม่ลูกมาตลอดโดยไร้ซึ่งความเป็นตัวเอง

กลายเป็นคนขี้ขลาดไร้ทางสู้ในสายตาของผู้คนวันนี้เธอออกมาข้างนอกแล้ว เธอจะไม่มีวันก้มหัวอีกต่อไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก