ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 33

หลังจากทานข้าวกันเสร็จ นับหนึ่งก็เก็บถ้วยจานไปล้าง เสร็จแล้วก็ออกจากห้องบอส ลงไปเปิดร้านชั้นล่าง

พอมีมี่มาถึงก็เข้ามาจอดรถแล้วเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเอ่ยทักทายนับหนึ่ง

" อ้าว อรุณสวัสดิ์จ้ะนับหนึ่ง ทำไมวันนี้น้องมาเช้าจัง พี่ว่าวันนี้พี่มาเช้ากว่าทุกวันแล้วนะ "

นับหนึ่งยิ้มแล้วเอ่ยตอบเสียงใส

" อากาศดีน่ะค่ะ เลยออกมาแต่เช้าแล้วมาทานข้าวที่ร้านเอา "

" ออ จริงสิ เมื่อวานบอสทักหาพี่ เรียกให้พี่ไปพบเช้านี้ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไร "

นับหนึ่งส่ายหน้าด้วยความไม่รู้เช่นกัน แล้วมีมี่ก็เอ่ยต่อว่า

" งั้นรอพี่แป๊บนะ เดี๋ยวมาช่วยเปิดร้าน "

" ค่ะ "

เอ่ยจบมีมี่ก็วิ่งขึ้นไปชั้นบน พอไปถึงหน้าห้องก็ยกมือขึ้นมาเคาะประตู ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! แล้วผลักประตูเข้าไปในห้องเจ้านาย

ธีร์นั่งบนโซฟารับแขกหน้าโต๊ะทำงานแล้วเอ่ยขึ้นอย่างสุขุม

" นั่งสิ "

มีมี่เดินไปยืนตรงหน้าบอสแล้วเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อมก่อนจะหย่อนกายลงนั่ง

" สวัสดีค่ะบอส "

หลังจากนั้นหล่อนก็เอ่ยถามขึ้น

" บอสเรียกมีมี่แต่เช้า มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ "

ธีร์จ้องหน้ามีมี่แล้วเอ่ยขึ้น

" ผมต้องการแม่บ้านอยู่ประจำร้านสักคนน่ะ เอาคนที่สามารถกินนอนที่นี่ได้ ที่ผมตัดสินใจรับสมัครแม่บ้าน ก็เพื่อให้พวกคุณมีเวลาพักมากขึ้น พอเลิกงาน พวกคุณจะได้กลับบ้านไปพักเลย "

" ค่ะ "

" เดี๋ยวคุณช่วยติดป้ายรับสมัครให้หน่อย แล้วก็ช่วยคัดเอาคนที่หน้าตาดีๆ หุ่นดีๆ ที่ดูสบายตาหน่อย

เพราะผมจะให้คนที่มาเป็นแม่บ้าน พักอยู่ข้างห้องทำงานผม ดังนั้นขอคัดหน้าตากับหุ่นหน่อย เข้าใจนะ "

" เข้าใจน่ะเข้าใจค่ะ แต่ถ้าจะคัดขนาดนั้น ทำไมบอสไม่เอาสาว PR มารับจ๊อบพิเศษเลยล่ะคะ

เพราะเท่าที่ฟังบอสพูดแล้ว มีมี่เริ่มไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของบอสแล้วค่ะ

สรุปแล้วบอสต้องการแม่บ้านที่ทำงานเก่งหรือต้องการสาวงามไว้ประดับข้างห้องกันแน่คะ "

มีมี่เอ่ยประชดอย่างลืมตัวตามจริตหล่อน

ธีร์เลยจ้องหน้าหล่อนด้วยแววตาสุขุมเคร่งขรึมแล้วเอ่ยเสียงต่ำอย่างน่าเกรงขาม

" มีมี่ ดูเหมือนคุณจะพูดมากเกินไปแล้วนะ "

" อุ๊บ! ขอโทษค่ะบอส "

มีมี่สะดุ้งรีบเอามือปิดปากทันที พอได้สติก็ยิ้มเจื่อนแล้วเอ่ยอย่างตามใจเจ้านาย

" แฮ่...บอสอย่าเคืองมีมี่เลยนะคะ เดี๋ยวมีมี่จะไปติดป้ายประกาศรับสมัครให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ

บอสวางใจได้ มีมี่จะคัดให้อย่างดีเลย รับรองว่าถูกใจบอสแน่นอนค่ะ "

" คุณออกไปได้ละ ได้คนแล้วก็พามาที่ห้องเลย "

" ค่ะ "

เอ่ยจบมีมี่ก็ลุกขึ้นเดินออกไป ส่วนธีร์ก็นั่งไขว่ห้างอ้าแขนวางลงบนพนักพิงอย่างสบายอารมณ์พร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

มีมี่ลงไปชั้นล่างพร้อมกับบ่นงึมงำคนเดียวอย่างหน้ามุ่ย

" หาแม่บ้านแต่คัดหน้าตา นี่บอสเอาแม่บ้านมาทำงานบ้านหรือเอามาเป็นเมียเนี่ย

คนหน้าตาดีที่ไหนจะยอมมาทำงานบ้านให้ ยุคสมัยนี้ คนหน้าตาดี เขาใช้หน้าตาทำมาหากินตามโซเชียลแล้ว

ใครมันจะมาทนเหนื่อยถูๆขัดอยู่กับพื้นเล่า ฮุ้ย บอสนะบอส คัดหน้าตาๆ โอ่ย หงุดหงิดบอส "

มีมี่บ่นไปเขียนป้ายรับสมัครแม่บ้านไปพร้อมกับทำหน้าทำตาตามประสาหล่อน

จากนั้นก็เอากระดาษไปแปะไว้ข้างร้าน นับหนึ่งที่กำลังรดน้ำต้นไม่หน้าร้าน

หันไปมองมีมี่ที่เอากระดาษมาแปะ เลยมองไปที่ตัวหนังสือที่เขียนว่า

รับสมัครแม่บ้าน เงินเดือน หนึ่งหมื่นสองพันบาท มีที่พักให้ฟรี สนใจโทร 093××5××20

เห็นที่พักฟรีกับเงินเดือนแล้ว ดวงตาเธอลุกวาวเป็นประกายทันที

เธอจึงโผเข้ากอดมีมี่ทั้งน้ำตา เพราะตลอดชีวิตของเธอนอกจากแม่ที่จากไปแล้ว

ก็ไม่เคยมีใครรักและพูดกับเธอด้วยความห่วงใยแบบนี้อีกเลย

" พี่มี่ ขอบคุณมากนะคะ ที่รักและเอ็นดูนับหนึ่งแบบนี้ นับหนึ่งรักพี่นะคะ "

มีมี่ทำตัวไม่ถูก ที่อยู่ๆก็ถูกบอกรักกลางร้าน แต่หล่อนก็โอบกอดนับหนึ่งไว้อย่างงงๆ

พร้อมกับเอ่ยปลอบโดยไม่เข้าใจว่าเธอร้องทำให้ซึ้งอะไรเอาตอนนี้

" ไม่ร้องนะ ไม่ร้องแล้ว นับหนึ่งน้อยของพี่ "

จากนั้นนับหนึ่งก็ผละออกจากการกอดแล้วมีมี่ก็เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า

" น้องรออยู่นี่นะ เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปคุยกับบอสให้ "

นับหนึ่งเม้มปากพร้อมกับพยักหน้ายิ้ม ในขณะที่ปลายจมูกยังคงแดงแจ๋อยู่

มีมี่ยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วหมุนตัวเดินขึ้นชั้นบนไป

ธีร์นั่งอยู่ในห้องมองนับหนึ่งผ่านจอกล้องวงจรปิดด้วยสีหน้าอมยิ้ม

การที่เขารับสมัครแม่บ้านก็เพื่อช่วยเหลือเธอทางอ้อม ไม่ใช่เพื่อลดภาระงานให้พนักงานอย่างที่พูดกับมีมี่

เพราะด้วยนิสัยของนับหนึ่งแล้ว เขารู้ดีว่าเธอไม่ยอมรับการช่วยเหลือโดยตรงจากเขาแน่นอน

มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่เขาสามารถช่วยเหลือและได้ดูแลเธอ โดยไม่ทำให้เธอรู้สึกด้อยค่าตัวเอง

แม้เขาจะรู้จักนับหนึ่งได้ไม่นาน แต่เธอก็ทำให้เขารู้ ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่รักเกียรติรักศักดิ์ศรีมาก

ต่อให้ลำบากแค่ไหน เธอก็ไม่หันไปทำอาชีพที่ใช้หน้าตาแลกเงินอย่างการไปทานข้าวกับคนรวยๆที่สามารถทำเงินให้เธอได้มากมาย

เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาของเธอแล้ว เขาที่รู้จักวงการนี้ดีสามารถประเมินราคาเธอได้เลย

แต่เธอเลือกที่จะทำงานใช้แรงอย่างขยันขันแข็ง อดทนแลกกับค่าตอบแทนอันน้อยนิดที่พออยู่ได้

และไม่เคยเอ่ยปากขอยืมหรือทำตัวให้ใครสงสารเลย

เธอเลือกใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี

เขารู้สึกภูมิใจในตัวเธอแทนพ่อแม่ของเธอที่มีลูกสาวขยัน อดทน เข้มแข็งแบบนี้จริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก