ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 87

หลังจากที่นักแสดงทุกคนแต่งหน้าทำผมกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว การถ่ายทำฉากแรกก็เริ่มขึ้น

นับหนึ่งกับอิงฟ้าต้องเข้าฉากด้วยกัน สถานที่ที่ใช้ถ่ายทำเป็นโรงเรียนมัธยมของจังหวัด

ซึ่งเป็นฉากที่อิงฟ้าแกล้งนับหนึ่งในโรงอาหารของโรงเรียน ตามบทอิงฟ้าจะต้องปัดขานับหนึ่งทำให้เธอเสียหลักจนเธอสะดุดล้ม

เมื่อทุกฝ่ายสแตนบายพร้อมแล้ว ผู้กำกับก็เอ่ยกับทุกฝ่ายผ่านวิทยุสื่อสารหรือที่มักจะเรียกติดปากว่าวอ

" ทุกฝ่ายเตรียมพร้อม เริ่มปล่อยตัวนักแสดงเลยครับ "

" รับทรับค่ะ "

ฝ่ายเทคนิคเอ่ยตอบคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง

นับหนึ่งเตรียมพร้อมเข้าฉาก ยืนรอในจุดปล่อยตัวนอกโรงอาหาร

ตอนนี้กล้องกำลังถ่ายฉากของอิงฟ้ากับกลุ่มเพื่อนที่นั่งวางแผนกันในโรงอาหาร

" พวกเธอฟังนะ เดี๋ยวพวกเธอไปนั่งโต๊ะหลัง อย่าให้ใครมานั่งเด็ดขาด

หากเห็นนับหนึ่งมาทานข้าวในโรงอาหารแล้ว พวกเธอก็ค่อยกลับมานั่งที่โต๊ะเดิม

นับหนึ่งจะได้เดินเข้ามานั่งโต๊ะนั้น แล้วฉันจะทำให้มันเสียหลัก ล้มลงไปต่อหน้าทุกคน "

อิงฟ้าเอ่ยด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

" อื้อ ได้ ฉันเองก็ไม่ค่อยชอบหน้าเหวี่ยงๆของนับหนึ่งเหมือนกัน อยากจะรู้นัก ว่าสีหน้าอับอายของคนหน้าเหวี่ยงอย่างมันจะเป็นยังไง "

เพื่อนของอิงฟ้าพยักหน้าแล้วเอ่ยอย่างเห็นด้วยกับแผนการของเพื่อน

" งั้นพวกเธอสามคนก็ย้ายไปนั่งโต๊ะหลังเลย ส่วนฉันกับขวัญจะนั่งตรงนี้ "

" โอเค "

เอ่ยจบเพื่อนสาวทั้งสามของอิงฟ้าก็ถือจานข้าวของตัวเอง ย้ายไปนั่งโต๊ะหลังที่ยังไม่มีใครนั่ง

ทางด้านนับหนึ่ง ฝ่ายเทคนิค เดินเข้ามาถือป้ายกำกับมายืนข้างเธอแล้วก็ปิดลง แตะ

จากนั้น นับหนึ่งก็เดินเข้าไปในโรงอาหาร สวมใส่ชุดนักเรียนมัธยมต้นสีหมองๆ แล้วเดินไปยืนต่อแถวรอสั่งก๋วยเตี๋ยว

พอได้มาแล้ว เธอก็เดินถือถ้วยก๋วยเตี๋ยวออกมาปรุง ใส่พริก น้ำตาลทราย แล้วก็น้ำส้มสายชูอย่างละสองช้อนโต๊ะ

จากนั้นก็เอาตะเกียบกับช้อนจุ่มลงในน้ำร้อนเพื่อฆ่าเชื้อ เสร็จแล้วก็ยืนกวาดสายตามองหาที่นั่งในโรงอาหารอย่างเงียบๆ

อิงฟ้ากับกลุ่มเพื่อนที่นั่งทานข้าวกันอยู่ พอเห็นนับหนึ่งเดินตรงมาทางพวกเขา

เพื่อนของอิงฟ้าก็ย้ายโต๊ะกลับมานั่งโต๊ะเดียวกันกับอิงฟ้า เพื่อล่อให้นับหนึ่งมานั่งโต๊ะที่ว่างอยู่

พอนับหนึ่งเห็นว่ายังมีโต๊ะว่าง เลยก้าวตรงเข้ามายังโต๊ะนั้น

อิงฟ้าที่นั่งอยู่ ก็มองหน้ากันกับกลุ่มเพื่อนแล้วยิ้มร้ายออกมาด้วยแววตามีเลศนัย รอทำตามแผน

พอนับหนึ่งเดินเข้ามาใกล้โต๊ะของพวกเขา เธอก็ยื่นขาออกไปปัดขานับหนึ่ง หวังให้เธอสะดุดล้ม

แต่นับหนึ่งกลับแสร้งทำเป็นเดินสะดุดขาตัวเอง แล้วแสดงสีหน้าตกใจออกมา ทำถ้วยก๋วยเตี๋ยวหลุดมือ ตกไปกลางโต๊ะของกลุ่มอิงฟ้า

น้ำก๋วยเตี๋ยวร้อนๆที่ปรุงรสจัดแบบครบรส กระเด็นใส่ทุกคนที่นั่งโต๊ะนั้น จนเสื้อผ้าเปื้อนน้ำก๋วยเตี๋ยว ฉุนไปด้วยกลิ่นน้ำส้มสายชู

ทุกคนต่างลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าอึ้งๆ ส่วนนับหนึ่งก็กระทืบส้นรองเท้านักเรียนลงบนหลังเท้าของอิงฟ้าที่ยื่นออกมาเต็มแรง

จนอิงฟ้าร้องโอดควรญออกมาด้วยความเจ็บปวด สีหน้าบิดเบี้ยวจนไม่น่ามอง เธอโกรธจนหลุดปากด่าออกมาเสียงกร้าว

" โอ้ย! อีนับหนึ่ง นี่แกจงใจเล่นนอกบทเหรอ "

นับหนึ่งยิ้มเหยียดขึ้นที่มุมปากแล้วเอ่ยพร้อมกับจ้องหน้าอิงฟ้าด้วยแววตาเย้ยหยัน

" อะไรคือเล่นนอกบทเหรอ ฉันไม่เข้าใจ "

นับหนึ่งเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับทำหน้าซื่อๆอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ก็ยิ่งทำให้อิงฟ้าโกรธมากขึ้นไปอีก

" แก "

เธอกัดฟันเอ่ยออกมาตามไรฟัน จ้องเขม็งนับหนึ่งด้วยแววตาดุร้าย

ทีมงานทุกคนเห็นว่านับหนึ่งเล่นนอกบทแถมยังเล่นจริง ทำให้อิงฟ้าเจ็บจริง ต่างก็ตะลึงอึ้งจนตาค้างไปเลย

แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพ แม้จะตกใจ พวกเขาก็ยังคงถ่ายต่อ ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปตราบใดที่ยังไม่ได้ยินเสียงผู้กำกับ

นับหนึ่งจ้องหน้าอิงฟ้าแล้วยิ้มเย็นขึ้นที่มุมปากแล้วหันหลังเดินไปสั่งอาหารต่อ

จากนั้นเธอก็ชักสีหน้าเหยียดๆใส่อิงฟ้าตอนที่เดินผ่านกลุ่มพวกเขา

แล้วมานั่งทานข้าวบนโต๊ะที่ว่างอยู่ โดยไม่สนใจใครอีก ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

ส่วนอิงฟ้าก็ยืนกำมือแน่น จ้องเขม็งลงบนตัวนับหนึ่ง เสื้อนักเรียนสีขาวเลอะไปด้วยน้ำก๋วยเตี๋ยวที่กระเด็นใส่

จากนั้นเสียงผู้กำกับก็ดังขึ้น

" คัต! คัต! ทั้งสองคนถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีมาก แม้จะนอกบทแต่ก็สมจริงมาก เยี่ยมๆ "

แกเอ่ยชมพร้อมกับปรบมือด้วยสีหน้ายิ้มๆโดยไม่สนใจสีหน้าของอิงฟ้าและไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกยังไง

นับหนึ่งลุกออกมายืนพร้อมกับระบายยิ้มออกมาบนใบหน้าแล้วเอ่ยขอบคุณผู้กำกับด้วยท่าทีนอบน้อม

" ขอบคุณค่ะ "

ผู้กำกับยิ้มให้เธอแล้วกำมือชูนิ้วโป้งให้ด้วยความรักใคร่เอ็นดู

ก่อนหน้านี้ ตอนที่เตรียมตัวจะเข้าฉาก ผู้ช่วยผู้กำกับได้มากระซิบบอกกับเธอว่า

" น้องนับหนึ่งฉากนี้ผู้กำกับบอกว่า น้องสามารถเล่นได้ตามอัธยาศัยเลย ไม่ต้องยึดตามบทก็ได้ แต่ให้ยึดความสมเหตุสมผล แล้วถ่ายทอดอารมณ์อารมณ์ออกมาให้มันสมจริงก็พอ ฉากนี้เป็นฉากเอาใจคนดูที่สงสารนางเอกจ้ะ "

นับหนึ่งแอบตกใจเล็กน้อย

[ นี่ผู้กำกับมีความแค้นส่วนตัวกับอิงฟ้าหรือเปล่าเนี่ย ช่างเหอะ ในเมื่อโอกาสเอาคืนอิงฟ้ามาถึงแล้ว หากไม่สนองความต้องการของผู้กำกับเห็นทีจะเป็นการทำให้ผู้ใหญ่ผิดหวังเปล่าๆ ]

จากนั้นเธอก็เอ่ยตอบรับผู้ช่วยผู้กำกับไปว่า

" ได้ค่ะ "

เมื่อผู้กำกับไฟเขียว เธอก็เล่นใหญ่จัดเต็มจนอิงฟ้าร้องโอดครวญ ใบหน้างามบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด แต่กลับได้ใจผู้กำกับอย่างมาก

หลังจากที่ผู้กำกับสั่งคัต ทรายก็เดินเข้ามาหาอิงฟ้าด้วยสีหน้าไม่พอใจแล้วพาออกไปล้างเนื้อล้างตัว

ในขณะที่รออิงฟ้าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ แกก็ยกโทรศัพท์โทรออกไปหากวิน

กวินที่นอนรอในรถอย่างเงียบๆ พอเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาลุกมานั่งแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้น

" มีอะไร "

เขาเอ่ยถามเสียงเย็นด้วยสีหน้านิ่งๆ นัยน์ตามีความสุขุมเยือกเย็น ทรายที่อยู่ในสายก็เอ่ยขึ้น

" เมื่อกี้ตอนเข้าฉากคุณอิงฟ้าถูกผู้กำกับกับคุณนับหนึ่งแกล้งค่ะ ตอนนี้เธอกำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ค่ะ "

ทรายเอ่ยรายงานเพราะแกรู้ว่าอิงฟ้าเป็นผู้หญิงที่กวินให้ความสำคัญมากคนหนึ่ง แกนึกว่าพอเจ้านายทราบเรื่องในวันนี้แล้วจะทวงความเป็นธรรมให้อิงฟ้า แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่แกคิด

พอกวินได้ยินว่านับหนึ่งเป็นคนแกล้งอิงฟ้าเขากลับเอ่ยถามออกมาเสียงเย็นอย่างไร้หัวใจโดยไม่มีความห่วงใยใดๆต่ออิงฟ้าเลย

" แล้วยังไง? "

คำพูดของเจ้านายที่เปลี่ยนไป ทำเอาทรายถึงกับนิ่งอึ้งไป จนไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมาอีก จึงเอ่ยเพียงว่า

" ไม่ ไม่แล้วไงค่ะ ทรายแค่คิดว่า การกระทำของคุณนับหนึ่งมันเกินไปหน่อยเท่านั้นเองค่ะ "

" อิงฟ้าก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไม่ใช่เหรอ "

เขาเอ่ยถามขึ้นด้วยความรำคาญใจ แม้เขาจะชอบอิงฟ้ามาก

แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะให้เธอมาสำคัญตัวเองจนตีตนเสมอผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกเขา

ทรายรู้ว่าเจ้านายกำลังหงุดหงิดรำคาญ แกเลยเอ่ยตอบเพียงว่า

" ค่ะ คุณอิงฟ้าไม่ได้เป็นอะไร แค่ถูกน้ำก๋วยเตี๋ยวลวกนิดหน่อยเท่านั้นค่ะ "

กวินที่อยู่ในสายจึงเอ่ยขึ้นเสียงเย็นอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกว่า

" อือ ถ้าไม่ถึงตาย ก็ทายาให้เธอแล้วกัน ต่อไป อย่ามารายงานเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก

คุณเองก็ดูแลอิงฟ้าให้ดีๆ อย่าปล่อยให้เธอมาทำอะไรนับหนึ่งเด็ดขาด

เพราะคุณนับหนึ่งจะต้องเป็นแม่ของลูกผมในอนาคต จะให้เป็นอะไรแม้แต่ปลายเล็บไม่ได้ เข้าใจมั้ย "

ได้ยินดังนั้นทรายก็ถึงกับอึ้งไปเลย จากนั้นแกก็เอ่ยออกมาว่า

" เข้าใจแล้วค่ะ ทรายจะดูแลคุณอิงฟ้าให้ดี จะไม่ให้เธอกวนใจคุณนับหนึ่งค่ะ "

" อือ "

แล้วกวินก็กดวางสายไป ตอนนี้ผู้หญิงที่เขาต้องการที่สุดและมีประโยชน์ในชีวิตเขาที่สุด คือ นับหนึ่ง

ในสายตาเขานับหนึ่งคือเครื่องมือผลิตลูกที่มีค่ามาก

กว่าเขาจะเจอคนที่เหมาะสม คู่ควรที่จะอุ้มท้องทายาทของเขามันไม่ใช่ง่ายๆไม่ใช่จะเอาใครก็ได้

เมื่อเจอแล้วก็ต้องถนอมไว้อย่างดี จนกว่าจะได้ทายาทผู้สืบทอดของตระกูลให้คอยรับช่วงต่อจากเขาในอนาคต

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก