ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 89

สรุปบท ตอนที่ 89 คุณจะยอมผมมั้ย: ริษยาร้ายซ่อนรัก

ตอน ตอนที่ 89 คุณจะยอมผมมั้ย จาก ริษยาร้ายซ่อนรัก – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 89 คุณจะยอมผมมั้ย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ริษยาร้ายซ่อนรัก ที่เขียนโดย Paizay เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หนึ่งชั่วโมงต่อมา มีมี่ขับรถกลับเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน จากนั้นก็เปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเข้ามาในบ้าน

พอเจอสาวใช้หล่อนก็วานให้สาวใช้ช่วยไปยกของหลังรถ

" พี่รี พี่ไร เดี๋ยวพี่ช่วยไปเอาของลงรถให้หน่อยนะคะ "

" ได้ค่ะ "

ไรเอ่ยตอบอย่างเสียงอ่อนด้วยท่าทีนอบน้อม

แล้วสาวใช้ทั้งสองก็รับกุญแจรถจากมีมี่ เดินออกจากบ้านตรงไปที่รถเลย

ป้าดวง แม่บ้านที่อาวุโสอายุราวๆห้าสิบ เป็นคนที่ทุกคนให้ความเคารพยำเกรง

แกเดินเข้ามาหามีมี่แล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงอ่อน

" คุณมีมี่คะ แล้วคุณนับหนึ่งลล่ะ ยังไม่กลับมาเหรอคะ "

มีมี่มองหน้าป้าดวงด้วยแววตาแปลกใจ แล้วเอ่ยถามขึ้น

" นี่น้องนับหนึ่งยังไม่กลับมาเหรอคะ "

" ยังไม่กลับมาค่ะ ป้านึกว่าคุณนับหนึ่งจะกลับมาพร้อมคุณมีมี่ซะอีก เลยเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แช่ตัว "

ได้ยินดังนั้น มีมี่เป็นห่วงน้องขึ้นมาทันที หล่อนจึงเอ่ยกับป้าดวงพร้อมกับล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋า

" ขอบใจนะคะป้าที่มาบอก หนูจะโทรหาน้องเดี๋ยวนี้เลยค่ะ "

" ค่ะ "

เอ่ยจบหล่อนก็กดโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ของนับหนึ่งทันที

อีกด้านหนึ่งของเมือง ภายในรถคันหรูสีดำ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋า หน้าจอสว่างขึ้นมาพร้อมกับสั่น หรื่ด...หรื่ด...หรื่ด...

นับหนึ่งใช้มือข้างที่ว่าง หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดรับสาย

" ฮัลโหล พี่มี่ "

เธอเอ่ยเสียงเบากลัวเสียงจะรบกวนคนที่นอนกุมมือเธอ มีมี่ที่อยู่ในสายจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนใจอย่างสงสัย

" ตอนนี้น้องอยู่ไหน ค่ำมากแล้วทำไมยังกลับมา ไม่ถึงบ้านสักที แล้วทำไมต้องพูดเสียงเบาด้วย อย่าบอกนะ ว่าน้องถูกคุณกวินคาบไปกินบนเตียงแล้วน่ะ "

" พี่มี่คิดมากเกินไปแล้วค่ะ ของมันอยู่กับตัว ถ้าน้องไม่ยอมซะอย่าง ใครจะกล้ากินน้องคะ "

" ถ้างั้น ทำไมจะต้องพูดเสียงเบาด้วยล่ะ "

" คุณกวินไม่สบายค่ะ ตอนนี้เขาหลับอยู่ในรถ เลยต้องพูดเสียงเบา

ไม่ได้มีอะไรเกินเลยหรืออยู่บนเตียงอย่างที่พี่คิดจริงๆค่ะ พี่สบายใจได้เลย

ว่าน้องสาวพี่คนนี้ไม่มีวันยอมเป็นผู้หญิงของคุณกวินแน่นอนค่ะ

ถ้าอาการเขาดีขึ้นก็คงจะขับรถกลับไปส่งไหวค่ะ พี่ไม่ต้องห่วงนะคะ "

เธอเอ่ยอธิบายให้มีมี่เข้าใจอย่างใจเย็น หล่อนจึงเอ่ยตอบกลับมาว่า

" ก็ได้ๆ หากเขาคิดจะล่วงเกินน้อง น้องก็รีบจัดการเขาก่อนเลยนะ อย่าได้ยอมเด็ดขาด "

" โอเคค่ะ ถ้างั้นแค่นี้ก่อนนะคะ ไว้เขาตื่นแล้วน้องจะให้เขาไปส่งทันทีค่ะ "

" จ้ะ "

สิ้นเสียงตอบรับของมีมี่นับหนึ่งก็กดวางสายไป

กวินที่หลับตาอยู่ ได้ยินสิ่งที่นับหนึ่งพูดทั้งหมด พอเธอวางสาย เขาก็ค่อยๆขยับแพขนตา แล้วลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ

นับหนึ่งเก็บโทรศัพท์ใส่เข้าไปในกระเป๋าแล้วเอ่ยถามขึ้นเสียงอ่อนอย่างใส่ใจ

" คุณตื่นแล้วเหรอคะ หลับอิ่มมั้ย เป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ย "

กวินลุกมานั่งแล้วสบตากับเธอพร้อมกับเอ่ยตอบด้วยสีหน้าซึมๆอย่างสุขุม

" อือ ดีขึ้นนิดหน่อย วันนี้ผมคงขับรถไปส่งคุณไม่ไหว เดี๋ยวคุณไปบ้านผมก่อนแล้วผมจะให้คุณกฤษไปส่งคุณ ได้มั้ย "

" ได้ค่ะ "

นับหนึ่งพยักหน้าเบาๆพร้อมกับเอ่ยตอบรับคำอย่างไม่คิดอะไร

แค่เห็นเขาป่วยเธอก็สงสารแล้ว หากจะปล่อยให้เขาขับรถกลับคนเดียว เธอก็ไม่วางใจเพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุขณะขับรถ

ส่วนกวินเองก็วางแผนที่จะรั้งตัวนับหนึ่งไว้ เพื่อให้เธอนอนค้างบ้านเขา เพื่อให้เธออยู่ดูแล

จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น แล้วค่อยๆละล่อมให้เธอหวั่นไหว จนรู้สึกดีด้วย

หวังจะได้เผด็จศึกกับเธอ เพื่อให้เธอกลายเป็นผู้หญิงของเขาอย่างสมบูรณ์

พอนับหนึ่งพยักหน้าตอบตกลง เขาก็ปรับเบาะรถให้กลับมาตั้งในองศาที่นั่งสบายตัวแล้วสตาร์ทรถขับออกไปอย่างเงียบๆ

รถหรูคันสีดำเงา แล่นไปตามท้องถนนในยามราตรีที่มีแสงไฟส่องสว่างตลอดทาง

ครึ่งชั่วโมงต่อมา เจ้าของรถหรูก็เลี้ยวเข้ามาในบริเวณคฤหาสน์สุดหรูแล้วขับเข้ามาจอดลงหน้าบ้าน

กฤษเดินออกมาจากในบ้าน เพื่อที่จะมาเปิดประตูรถให้เจ้านาย

หลังจากดับเครื่องยนต์แล้ว กวินก็ขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเจ็บปวดอีกครั้งแล้วเอ่ยขึ้น

" โอ้ย นับหนึ่ง....ผม...ปวดท้องอีกแล้ว คุณช่วย ช่วยเรียกกฤษมา...ประคองผมเข้าบ้านที "

" ได้ค่ะ "

นับหนึ่งตอบรับคำแล้วหันไปเปิดประตูตะโกนเรียกกฤษที่กำลังเดินตรงมาที่รถด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

" คุณกฤษ มาช่วยประคองคุณกวินเข้าบ้านทีค่ะ "

เธอตกใจที่ได้ยินแบบนั้น เกิดมาเธอยังไม่เคยป้อนข้าวใคร แม้แต่บอส เธอยังไม่เคยดูแลเขาขนาดนี้มาก่อน แล้วกวินเป็นใคร ทำไมเธอจะต้องป้อนตามที่เขาร้องขอด้วย

กวินรู้ทัน ว่านับหนึ่งจะต้องปฏิเสธเขาแน่ จึงออกอุบาย เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าอ้อนวอนอย่างจริงใจ

" มือผมสั่นน่ะ ตอนนี้ผมลุกนั่งด้วยตัวเองก็แทบจะไม่ไหวแล้ว คุณช่วยผมหน่อยนะ วันหน้าถ้ามีโอกาส ผมจะตอบแทนคุณ "

นับหนึ่งจ้องหน้าเขาอย่างเงียบๆแล้วเอ่ยตอบตกลงไปว่า

" ก็ได้ค่ะ แต่หวังว่าคุณจะซื่อตรง ไม่มีแผนอะไรในใจนะคะ "

" ไม่มีแผนการใดๆแน่นอนครับ "

เขาเอ่ยตอบเสียงแผ่วเบา

จากนั้น นับหนึ่งก็หยิบหมอนมาวางติดกับหัวเตียงเพื่อให้กวินพิงตอนนั่งทานข้าว เสร็จแล้วเธอก็เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

" คุณลุกมานั่งพิงหัวเตียงเองไหวมั้ยคะ "

กวินไม่ตอบแต่กลับเอ่ยสั่งขึ้นเสียงเรียบ

" ช่วยพยุงผมหน่อย "

" ค่ะ "

เอ่ยตอบรับเสร็จ นับหนึ่งก็ยื่นมือออกไปจับแขนอันแข็งแกร่ง ที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของกวินแล้วออกแรงพยุงให้เขาลุกขึ้นมานั่ง กวินเองก็แสร้งทำเป็นไม่มีแรงแล้วพยายามใช้ศอกดันตัวเองขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง

จากนั้นหนึ่งก็นั่งลงข้างเขาตรงบริเวณขอบเตียง

แล้วกวินก็นั่งอมยิ้มจ้องหน้าหญิงสาวตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยเสียงอ่อน

" ขอบใจนะ ที่เชื่อใจผม "

นับหนึ่งยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยอย่างเกร็งๆแล้วเอ่ยออกมาเสียงเรียบ

" ไม่ต้องขอบใจหรอกค่ะ ฉันไม่ได้เชื่อใจคุณ แค่เห็นว่าคุณเป็นคนป่วย คงไม่มีแรงทำอะไรฉัน เลยวางใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง "

กวินจ้องใบหน้านิ่งเฉยเย็นชาแล้วถามขึ้นด้วยสีหน้าอมยิ้ม

" แล้วถ้าผมมีแรงทำล่ะ คุณจะยอมผมมั้ย "

ได้ยินดังนั้นนับหนึ่งก็มองแรงใส่เขาทันทีพร้อมกับเอ่ยเรียกชื่อเขาเสียงดุ

" คุณกวิน! "

เขายิ้มอ่อนแล้วเอ่ยเสียงแหบ

" ผมแค่ล้อเล่นน่ะ อย่าใส่ใจเลย หากคุณไม่เต็มใจ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก สบายใจได้เลย "

นับหนึ่งยกมุมปากยิ้มเล็กน้อยแล้วกลับมาทำหน้านิ่งดังเดิม จากนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น

" ก็ดีแล้วค่ะ "

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก