เช้าวันต่อมา กวินขับรถมาส่งนับหนึ่งถ่ายละครเหมือนเดิม
มีมี่ก็มารอนับหนึ่งที่กองถ่ายแต่เช้า ด้วยความรู้สึกเป็นห่วง
เมื่อคืนหลังจากที่ติดต่อนับหนึ่งไม่ได้หล่อนร้อนใจจนนั่งไม่ติด พยายามติดต่อทั้งคืนแต่ก็ติดต่อไม่ได้ เป็นห่วงจนนอนไม่หลับ ตอนเช้าหล่อนเลยออกมารอเจอน้องที่กองถ่าย
พอเห็นรถของกวินขับเข้ามาจอดหล่อนก็ตรงเข้าไปหาทันที
นับหนึ่งที่นั่งในรถ พอรถจอดสนิทเธอจึงหันไปเอ่ยกับกวินด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
" คุณกลับไปก่อนเลยนะคะ วันนี้ฉันจะกลับกับพี่มี่ แล้วก็....ทานข้าวให้ตรงเวลาด้วยล่ะ "
เอ่ยจบเธอก็หันไปเปิดประตู กวินจึงเอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบมองแผ่นหลังเธอด้วยแววตาทรงเสน่ห์อย่างเจ้าชู้
" คุณเป็นห่วงผมเหรอ "
พอได้ยินเขาเอ่ยถามแบบนั้น เธอก็หันกลับมาจ้องตาเขาแล้วนิ่งเงียบไปอย่างครุ่นคิด
ตอนนี้เหมือนเธอจะได้สติกลับมาแล้ว จึงพึมพำกับตัวเองในใจเบาๆ
[ จริงสิ ทำไมเราจะต้องห่วงเขาด้วย เขาจะทานข้าวหรือไม่ มันเกี่ยวอะไรกับเรา ]
เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอจึงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา
" ฉันไม่ได้ห่วงคุณค่ะ แค่ไม่อยากรับผิดชอบอะไรที่มันไม่ได้เกิดจากการกระทำของฉันโดยตรงอีกก็เท่านั้นเองค่ะ "
กวินยิ้มอ่อนแล้วเอ่ยตอบขึ้นเสียงเรียบ
" จริงเหรอ แต่ผมรู้สึกว่าคุณเป็นห่วงผมนะ "
ได้ยินดังนั้นนับหนึ่งจึงจ้องหน้าเขาอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยย้ำอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง
" ฉันไม่ได้ห่วงคุณค่ะ "
กวินเลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยเสียงเรียบอย่างยิ้มๆ
" คุณไม่อยากยอมรับ ก็ไม่เป็นไร เพราะผมถือว่าคุณเป็นห่วงผมแล้วครับ "
ได้ยินแบบนั้น นับหนึ่งก็ไม่อยากพูดอะไรกับกวินอีก เธอมองหน้าเขาอย่างเย็นชาแล้วหลุบตาลงพร้อมกับหันหน้าออกไปเปิดประตูลงจากรถอย่างขมึงทึง
พอมีมี่เห็นนับหนึ่งออกมาจากรถของกวิน หล่อนก็คว้าแขนนับหนึ่งแล้วลากเธอออกไปไกลจากรถของกวิน
พอออกได้ไกลพอสมควรแล้วหล่อนก็รีบเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่อ้อมค้อม
" เมื่อคืนปิดเครื่องใส่พี่ทำไม แล้วทำไมถึงไม่กลับบ้าน เขาทำอะไรน้องแล้วใช่มั้ย "
นับหนึ่งจ้องหน้าพี่มี่ของเธอที่ขอบตาคล้ำจากการอดหลับอดนอนด้วยสีหน้ายิ้มๆอย่างเอ็นดูโดยไม่เอ่ยตอบในทันที
มีมี่ย่นคิ้วถามต่ออย่างไม่เข้าใจว่า
" น้องยิ้มอะไรคะ ยิ้มแบบนั้นหมายความว่ายังไง "
นับหนึ่งจึงเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ
" ไม่ได้หมายความอะไรค่ะ แค่รู้สึกเอ็นดูพี่ ที่รอน้องจนขอบตาดำเลย แสดงว่าเมื่อคืนพี่ไม่ได้หลับเลยใช่มั้ยคะ "
" ก็ใช่น่ะสิ ก็น้องเล่นตัดสายทิ้งแล้วปิดเครื่องใส่แบบนั้นใครจะหลับลง หากบอสรู้คงตำหนิพี่ชุดใหญ่เลย "
ได้ยินดังนั้นนับหนึ่งจึงกอดแขนพี่มีมี่แล้วเอาศีรษะซบไหล่หล่อนเบาๆพร้อมกับเอ่ยอย่างออดอ้อน
" งื้อ ขอโทษนะคะที่ทำให้เป็นห่วง เมื่อคืนน้องเหนื่อยจากการทำงานมาก ตอนอยู่ดูแลคุณกวินจึงเผลอหลับไปเลย
แต่พี่ไม่ต้องคิดมากนะคะ จริงๆแล้วคุณกวินก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เขาไม่ได้ทำอะไรน้องเลยค่ะ
เขาค่อนข้างให้เกียรติน้องด้วยซ้ำไป น้องว่าคนอย่างเขาก็มีมุมที่ดีอยู่เหมือนกันนะคะ "
มีมี่เบะปากแรงแล้วเอ่ยอย่างประชดประชัน
" ค่ะ ดี ดีมาก "
หล่อนลากเสียงยาว เอ่ยจบ หล่อนก็ได้แต่หลุบตาลงมามองน้องหน้าแล้วลอบพึมพำในใจ
[ ถ้าน้องรู้ว่าเขาเป็นใคร พี่อยากจะรู้นัก ว่าน้องจะยังชื่นชมเขาแบบนี้อยู่มั้ย ]
นับหนึ่งจ้องหน้าพี่มีมี่ของเธอด้วยสีหน้ายิ้มอ้อน เมื่อมีมี่เจอลูกอ้อนของน้องเข้า หล่อนก็ใจอ่อนยวบลงทันที
" ช่างเถอะๆ ทีหลังอย่าไปค้างคืนกับคุณกวินอีกนะ เขาน่ะช่ำชองเรื่องล่อลวง แต่น้องอ่ะยังอ่อนต่อโลกมาก
จำไว้นะ ไม่ใช่ทุกคนจะร้ายซึ่งหน้าแบบคุณอิงฟ้าและไม่ใช่ทุกคนจะดีเหมือนหน้าตาอย่างพี่
จิตใจคนบางคนมันยากแท้หยั่งถึงยิ่งกว่ามหาสมุทรอีก
จะใช้ตามองเพียงผิวเผินแล้วตัดสินว่าดีหรือเลวไม่ได้ในทันทีหรอก
สังคมคนรวยปั้นหน้าเก่งกว่านักแสดงอีกนะ มันน่ากลัวกว่าสังคมอื่นๆ น้องค่อยๆเรียนรู้ไปก็แล้วกัน "
" ค่ะ น้องจะไม่ยอมพลาดท่าให้ใครแน่นอนค่ะ "
" เช่นนั้นก็ดีค่ะ แต่อย่าลืมว่าคุณกวินเขาต้องการตัวน้อง ดังนั้นเวลาที่น้องอยู่ใกล้เขา จะต้องรักษาระยะห่างกับเขาให้ดีๆ อยู่ใกล้ได้แต่ต้องอยู่ใกล้อย่างปลอดภัย เข้าใจนะ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก