ริษยาร้ายซ่อนรัก นิยาย บท 95

นับหนึ่งมาดูที่แถวหางดง เธอเลือกที่ที่มองเห็นวิวของเทือกเขาดอยสุเทพชัดเจน

ในละแวกใกล้เคียงกับที่ที่เธอจะซื้อปลูกบ้านนั้นเต็มไปด้วยทุ่งนาของชาวบ้าน เขียวชอุ่มรายล้อมที่ของเธอ ให้ความรู้สึกสดชื่นสบายตา

พอทอดสายตามองไกลออกไปก็จะเห็นยอดเขาบนดอยสุเทพที่ตั้งตระหง่านอย่างสวยงาม

" เป็นไง ชอบที่ผืนนี้มั้ย "

มีมี่เอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบในขณะที่นับหนึ่งดื่มด่ำกับบรรยากาศอย่างเพลินๆ จากนั้นนับหนึ่งก็ผงกหัวแล้วเอ่ยตอบ

" ชอบมากค่ะ พี่มี่เดินเรื่อง ทำเอกสารให้เลยค่ะ นับหนึ่งเอาที่ผืนนี้แหละ เข้าเมืองก็สะดวก สงบก็สงบ บรรยากาศก็ดี วิวก็เริ่ดมากๆค่ะ แถมอยู่ในหลืบทุ่งนาคงไม่มีใครตามเจอง่ายๆค่ะ "

" โอเคค่ะ "

เอ่ยตอบรับคำแล้วมีมี่ก็เดินเข้าไปหานายหน้า จากนั้นก็นั่งทำเรื่องต่างๆในนามของนับหนึ่ง ส่วนไหนที่ต้องเซ็นชื่อหล่อนก็เอาไปให้น้องเซ็น

พอทำเรื่องที่ดินเสร็จแล้วหล่อนก็ติดต่อทางบริษัทรับเหมาก่อสร้าง

หลังจากเคลียร์งานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หล่อนกับนับหนึ่งก็นั่งรถกลับสนามบิน จากนั้นก็ขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ

นับหนึ่งไม่รู้เลยว่าตอนที่ตัวเองไม่อยู่นั้น สองหนุ่มตระกูลดังได้บุกมาถึงบ้านเธอจนเกือบจะมีเรื่องกันแล้ว

พอขึ้นเครื่องแล้วนับหนึ่งก็นั่งเงียบคิดอะไรอย่างเพลินๆตลอดทาง พอเครื่องเข้าสู่เขตกรุงเทพครู่ต่อมาก็ถึงท่าอากาศยาน เครื่องบินที่เธอนั่งมาก็ค่อยๆร่อนลงจอด

หลังจากที่เครื่องบินจอดสนิทแล้ว ประตูทางออกก็เปิดออก ผู้โดยสารต่างทยอยกันลุกขึ้นเดินออกจากเครื่องบิน

นับหนึ่งกับมีมี่ปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากเอวแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากเครื่อง จากนั้นก็เดินออกจากสนามบินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป

ครึ่งชั่วโมงต่อมามีมี่ก็ขับกลับมาถึงบ้าน แล้วเข้ามาจอดรถในลานจอดรถของบ้าน

เมื่อรถจอดสนิทแล้ว นับหนึ่งจึงยื่นมือออกไปเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้านไป

พอป้าดวงได้ยินเสียงรถเข้ามาจอด ก็รู้ทันทีว่าเป็นรถของนับหนึ่ง เลยเดินออกมาหาแล้วเอ่ยทักขึ้นอย่างสุภาพนอบน้อม

" คุณนับหนึ่งกลับมาแล้วเหรอคะ "

นับหนึ่งมองหน้าป้าดวงด้วยสีหน้าอมยิ้มน้อยๆแล้วเอ่ยตอบเสียงเรียบเพียงสั้นๆ

" ค่ะ "

จากนั้นป้าดวงก็เอ่ยรายงานเรื่องที่สองหนุ่มมาที่บ้านตามหน้าที่ของแม่บ้าน

" เอ่อ เมื่อวานตอนที่คุณนับหนึ่งไม่อยู่ คุณกวินกับคุณธีร์มาหาคุณนับหนึ่งที่บ้านด้วยค่ะ "

" มาที่บ้าน มาทำไมคะ "

เธอเลิกคิ้วขึ้นถามด้วยความแปลกใจ เพราะปกติถ้าคุณธีร์จะมาหาเธอ เขาจะโทรหาเธอก่อนเสมอ ป้าดวงส่ายหน้าแล้วเอ่ยตอบ

" ป้าก็ไม่ทราบค่ะ แต่ป้ารู้สึกเหมือนว่าสองหนุ่มจะชอบคุณนับหนึ่งกันมากเลยนะคะ ท่าทีของพวกเขาดูเหมือนจะไม่ยอมกันง่ายๆเลยค่ะ "

แกเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบเพื่อให้นับหนึ่งรู้ว่าเจ้านายของแกมีใจให้เธอ

เรื่องที่ป้าดวงพูดไม่ใช่ว่านับหนึ่งจะไม่รู้ตัว จริงๆแล้วเธอรู้ดีว่าสองหนุ่มมีใจให้

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมาเจอกันที่บ้านพักของเธอในเวลาเดียวกันแบบนี้ มันทำให้เธอลำบากใจจริงๆ

ได้ยินป้าดวงเอ่ยแบบนั้น มีมี่ที่กำลังเดินเข้ามาในบ้าน ก็เอ่ยแทรกขึ้นอย่างเย็นชาด้วยความไม่ชอบใจในเจตนาแอบแฝงของป้าดวง

" ชอบมากแล้วยังไงคะ น้องนับหนึ่งของเราจำเป็นต้องสนใจคุณกวินด้วยเหรอ

ในเมื่อคุณธีร์อ่อนโยนและแสนดีกว่า อีกอย่างพวกเราก็ผูกพันกันมานาน รู้จักนิสัยใจคอกันดี

ไม่เหมือนคุณกวิน มีดีก็แค่รวย ส่วนนิสัยเปลี่ยนผู้หญิงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า มีใครไม่รู้บ้าง

คนแบบนี้ต่อให้รวยล้นฟ้า หล่อแบบวัวตายควายล้มฉันก็ไม่ยอมให้น้องนับหนึ่งคบค่ะ "

ป้าดวงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจเอามากๆแต่แกก็ซ่อนความไม่พอใจเอาไว้ ไม่แสดงออกมาทางสีหน้าให้เกิดความรู้สึกสงสัยใดๆแล้วเอ่ยขึ้น

" แต่ป้าคิดว่าคุณกวิน ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ที่น่าสนใจมากนะคะ

ผู้ชายอย่างเขาส่วนใหญ่ถ้าได้รักใครแล้วจะรักรักมากและกลายเป็นคนรักเดียวใจเดียว

ป้าเชื่อว่าคุณกวินสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อผู้หญิงที่เขารักได้แน่นอนค่ะ

ส่วนคุณธีร์ก็สุภาพอ่อนโยนในแบบที่ผู้หญิงหลายคนต้องการ

แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าผู้หญิงทุกคน จะชอบผู้ชายแบบนั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณนับหนึ่งแล้วค่ะ

มีโอกาสเลือกก็เลือกให้ดีๆ เลือกคนที่คิดว่าใช่และชอบมากที่สุด ชีวิตคู่จะได้ราบรื่นและมีความสุข "

ป้าดวงเอ่ยตอบโต้มีมี่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบอย่างวางตัวเป็นกลางโดยไม่เอนเอียงไปทางเจ้านายมากเกินไป เพื่อไม่ให้ใครสงสัยว่าแกคือคนที่คุณกวินส่งมา

นับหนึ่งมองหน้าป้าดวงแล้วยิ้มอ่อนออกมาอย่างอ่อนโยนแล้วเอ่ยปฏิเสธเสียงอ่อนอย่างมีชั้นเชิง

" ขอบคุณป้าดวงมากค่ะที่ชี้แนะ ตอนนี้หนูยังไม่ได้สนใจที่จะเลือกใครทั้งนั้นค่ะ สิ่งเดียวที่หนูสนใจในตอนนี้ก็คืองานและเงินเท่านั้นค่ะ "

เอ่ยจบ เธอก็เดินขึ้นข้างบนไป ปล่อยให้ป้าดวงกับพี่มีมี่ยืนมองเธอเดินขึ้นบันไดไปอย่างเงียบๆ

บอสที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัวต้องมาก่อน ข้อนี้เธอรู้ดี บุญคุณของเขาเธอก็ไม่เคยลืม

แต่ลึกๆแล้ว เธอก็แอบกลัวใจตัวเอง กลัวว่าหากวันหนึ่งเธอเผลอไปมีใจให้คนอื่น คงจะรู้สึกผิดต่อบอสมาก การมาของบอสในครั้งนี้ ทำให้เธอได้สติ รู้ว่าตัวเองยังมีบอสที่รอเธอกลับไปหาอยู่

พอเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วโทรออกไปยังเบอร์ของบอส

ธีร์กำลังเอนหลังพิงพนักโซฟาในห้องทำงาน แล้วหลับตาลงอย่างสงบคิดถึงเรื่องราวเก่าๆที่เคยอยู่กับนับหนึ่งอย่างเพลินๆ

อยู่ๆหน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างขึ้นพร้อมกับสั่นหรื่ดๆบนโต๊ะ

ใบหน้าหล่อละมุนค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นนับหนึ่งก็รีบกดรับสายแล้วเอ่ยเสียงอ่อนออกมาอย่างดีใจ

" นับหนึ่ง คุณว่างแล้วเหรอ ถึงได้โทรมาหาผม "

นับหนึ่งที่อยู่ในสายจึงเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆอย่างอ่อนโยน

" ค่ะ ว่างแล้ว อืม...ป้าดวงบอกว่า เมื่อวานคุณมาที่บ้านเหรอคะ "

" ใช่ครับ ผมนึกคุณว่างเลยตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์ แต่ก็ต้องผิดหวังกลับมา อดเจอคุณเลย "

ได้ยินแบบนั้นแล้ว นับหนึ่งก็รู้สึกสงสารบอสเล็กน้อย เธอเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองไม่ได้ไปหาบอสกับพี่ครีมพี่เจนนานแล้ว จึงเอ่ยออกไปว่า

" ถ้างั้นอาทิตย์หน้าเราเจอกันนะคะ "

ได้ยินดังนั้นธีร์ก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างดีใจแล้วเอ่ยถามขึ้น

" คุณออกมาได้เหรอ "

" ได้ค่ะ "

" โอเคครับ งั้นผมจะรอคุณนะ "

" ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ ฉันเพิ่งกลับมาถึง รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยน่ะค่ะ "

" ได้ครับ ดูแลตัวเองดีๆนะ "

" ค่ะ เช่นกันนะคะ "

" ครับ "

พอจบสนทนา ทั้งสองก็กดวางสายไปพร้อมกัน หลังจากวางสายธีร์ก็ยิ้มหล่อออกมา

นึกถึงวันที่จูบริมฝีปากนุ่มของนับหนึ่งหัวใจของเขาก็พองโตขึ้นมาทันที

ใบหน้าหล่อเหลาของเขายิ้มละมุนออกมาอย่างน่าหลงไหล นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสุข

ส่วนทางด้านนับหนึ่ง หลังจากวางสาย เธอก็เข้าไปอาบน้ำแล้วเปลี่ยนมาใส่ชุดนอน

จากนั้นก็มาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงใหญ่อันหนานุ่ม พร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาห่ม

สักพักเธอก็หลับไหลไปในบรรยากาศที่แอร์เย็นฉ่ำอย่างสบายตัว เธอหลับไปทั้งวัน รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ปาไปห้าโมงเย็นแล้ว

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา จากนั้นก็ลงจากเตียงไปอาบน้ำล้างตัว เพื่อให้รู้สึกสดชื่นกระชุ่มชวย

ส่วนมีมี่ก็นั่งรอนับหนึ่งในห้องนั่งเล่น ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อย่างเพลินๆ

นับหนึ่งเดินลงบันไดมา เห็นพี่มีมี่นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่นแล้ว พอลงมาถึงห้องโถงเธอก็เข้ามาหาหล่อนพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น

" พี่มี่รอนานมั้ยคะ "

" ไม่นานเลยค่ะ ไม่รีบๆ "

มีมี่เอ่ยตอบขึ้นโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากจอโทรศัพท์เลย

นับหนึ่งจ้องหน้าพี่มีมี่ของเธอแล้วเอ่ยต่อ

" ที่ว่าไม่นาน เพราะพี่กำลังสนุกอยู่กับการเล่นเกมอยู่ใช่มั้ยคะ "

" ก็ใช่นะ น้องรอพี่เดี๋ยวเดียวนะคะ ประมาณห้าถึงสิบนาที "

หล่อนเอ่ยกับนับหนึ่งแต่แววตากับสมาธิกลับจดจ่ออยู่กับเกมที่กำลังเล่น

นับหนึ่งเห็นพี่คนสนิทจดจ่อกับเกมโปรด เธอก็ไม่เอ่ยอะไรอีก

จากนั้นก็หย่อนกายลงนั่งข้างหล่อน รออย่างเงียบๆ สักพักเสียงแห่งชัยชนะของมีมี่ก็ดังขึ้น

" เยส ชนะแล้ว วู้ววว "

นับหนึ่งหันไปมองพี่มีมี่ของเธออีกครั้งแล้วเอ่ยถามขึ้น

" นี่พี่ไม่ได้นอนพักผ่อนเลยใช่มั้ยคะ "

มีมี่ละสายตาจากจอโทรศัพท์ในมือ หันมามองหน้าน้องสาวสุดที่รักแล้วเอ่ยตอบเสียงหวานด้วยสีหน้ายิ้มๆ

" นอนซิคะ พี่เป็นคนนะคะไม่ใช่เครื่องจักร เดินทางเหนื่อยๆจะไม่นอนพักได้ไง เพียงแต่พี่นอนแค่สองชั่วโมง ไม่ได้ขี้เซาเหมือนน้องเท่านั้นเอง "

" ค่ะ.... "

เธอลากเสียงยาวอย่างประชด จากนั้นก็เอ่ยต่อว่า

" แล้วตอนนี้เราไปกันได้ยัง "

" ได้แล้วค่ะ ว่าแต่...น้องจะบุกรังปีศาจ แล้วพร้อมรับมือหรือยัง "

" ไม่ต้องห่วงค่ะ เรื่องรับมือกับครอบครัวอิงฟ้าน้องสบายมาก "

" แล้วถ้าแม่ของอิงฟ้าไม่ยอมให้สำเนาทะเบียนบ้านล่ะ "

" ถ้าไม่ยอมให้ ก็ต้องได้เจอกับความร้ายของน้องอย่างเต็มรูปแบบค่ะ "

เธอเอ่ยออกมาด้วยแววตานิ่งสงบอย่างเยือกเย็นนัยน์ตาเต็มไปด้วยความเกลียดแค้น

ในน้ำเสียงหนักแน่นดุดันจนมีมี่นิ่งอึ้งไปสักพักแล้วเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก

" จะ จ้ะ พี่เชื่อว่าพวกเขาต้องยอมให้แน่ แค่สายตาน้องก็ทำคนกลัวแล้ว ตอนนี้หน้าน้องคือดูดุมาก เหวี่ยงสุดๆ ขนาดพี่ยังรู้สึกกลัวเลยค่ะ "

ได้ยินดังนั้นนับหนึ่งจึงหลุบตาลง ย้ายสายตามามองพี่มีมี่ของเธอแล้วเม้มปากยิ้มเล็กน้อย

" จริงเหรอคะ หน้าน้องดุขนาดนั้นเลยเหรอ "

มีมี่พยักหน้าตอบเสียงเรียบ

" จริงค่ะ "

นับหนึ่งยิ้มออกมาอย่างสดใสแล้วเอ่ย

" งั้นเราไปกันเลยค่ะ ถ้าขอดีๆแล้วไม่ยอมให้ ก็ต้องขู่หน่อยแล้วค่ะ "

" ได้เลยค่ะ "

จากนั้นทั้งสองก็ลุกจากโซฟา เดินตามกันออกจากบ้านตรงไปยังลานจอดรถแล้วเข้าไปนั่งในรถ พอปิดประตูเรียบร้อยแล้วก็ขับออกจากบริเวณบ้านไป

*** กราบขอโทษคุณรี้ดจากใจเลยนะคะ พอดีไรต์ติดโควิคเลยไม่ได้อัพเดตให้เลย ขออภัยที่แจ้งช้านะคะ วันนี้ดีขึ้นมาเล็กน้อยเลยรีบมาแจ้ง ขอโทษอีกครั้งนะคะ ***

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก