ชั่วโมงต่อมา ทิวเลี้ยวรถเข้ามาจอดในบ้านพักของตัวเองแล้วเปิดประตูลงจากรถ มาอุ้มร่างอันบอบบางของนับหนึ่งลงมา จากนั้นก็แบกเข้าไปในบ้าน
แล้วเอาตัวนับหนึ่งไปวางลงบนเตียงของตัวเอง ใช้มือลูบไล้ สัมผัสใบหน้าเรียวเล็กของเธอพร้อมกับจ้องมองใบหน้าอันงดงามด้วยความหื่นกระหาย
" เป็นบุญของเราแล้วที่จะได้เชยชมเรือนร่างของสาวสวยคนนี้ ที่เป็นถึงระดับนางเอก สวยกว่าอิงฟ้าเป็นไหนๆ ใบหน้างดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาด สวยจนอดใจไม่ไหวแล้วโว้ย "
ทิวพึมพำกับตัวเองอย่ายากจะอดใจไหวกับเรือนร่างขาวเนียนดุจไข่มุกของนับหนึ่ง
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นไปเอากล้องกับขาตั้งกล้อง แล้วนำมาตั้งข้างเตียง เพื่อถ่ายวีดีโอตอนที่จะร่วมรักกับนับหนึ่ง เพื่อเอาใจเมียรักอย่างอิงฟ้า จากนั้นเขาก็ยิ้มร้ายออกมาที่มุมปากเบาๆ
" หึ รักพี่เสียดายน้อง แต่ไอ้ทิวคนนี้ขอควบสองทั้งพี่ทั้งน้องเลยแล้วกันเว้ย "
นอกจากจะถ่ายวีดีโอไว้เพื่อส่งให้อิงฟ้าแล้ว เขายังคิดที่จะใช้วีดีโอนี้ เพื่อแบล็คเมล์ข่มขู่นับหนึ่งในภายหลัง เพื่อกักขังเธอไว้เป็นทาสกามของตัวเอง
หลังจากติดตั้งกล้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทิวก็แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออก
จากนั้นก็กดถ่ายวีดีโอแล้วเดินเข้าไปหานับหนึ่ง ที่นอนสลบสไหลไม่รู้สึกตัวอยู่บนเตียง แล้วถอดเสื้อทิ้งลงบนพื้น บนตัวของเขาจึงเหลือเพียงกางเกงตัวเดียว
เขาค่อยๆคลานขึ้นไปบนเตียงแล้วคร่อมทับตัวนับหนึ่ง จากนั้นก็โน้มหน้าเข้าไปจูบ ไปหอมตามซอกคออันเนียนนุ่มของเธอเบาๆอย่างใจเย็น
ทางด้านกวิน ตอนนี้เขากำลังขับรถเข้ามาจอดข้างรถทิว หลังจากจอดรถเสร็จ ก็รีบเปิดประตูลงมาจากรถ แล้ววิ่งเข้าไปในบ้านของทิวด้วยความร้อนใจ
แต่สีหน้ากลับคงความสุขุม เคร่งขรึม เยือกเย็นเต็มไปด้วยไอสังหารที่แผ่กระจายออกมารอบตัว
เขากลัวว่านับหนึ่งที่เขาหมายมั่นให้เป็นแม่ของลูก จะถูกผู้ชายคนอื่นครอบครองเรือนร่างไป
หากเป็นเช่นนั้น เขาคงรับไม่ได้และคงได้ฆ่าผู้ชายที่แตะต้องตัวเธอทิ้งเหมือนผักปลาแน่นอน
ยิ่งเดินหานับหนึ่ง เขาก็ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งอยากจะฆ่าคนมากขึ้นเรื่อยๆ
เนื่องจากบ้านของทิวมีหลายห้อง ทำให้เขาเสียเวลามาก ในการที่ต้องไล่หาทีละห้อง พอไม่เจอตัวนับหนึ่งก็ยิ่งร้อนใจจนใจเย็นต่อไม่ไหว
จากที่อยากจะเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยหญิงงาม ตอนนี้กลับกลายเป็นกลัวและหงุดหงิดใจที่มาช้าเกินไป
ยิ่งคิดว่านับหนึ่งกำลังถูกผู้ชายคนอื่นครอบครองเรือนร่างอยู่ กำปั้นของเขาก็ยิ่งแน่นขึ้นด้วยความโกรธแค้น ไอสังหารแผ่ออกมาทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
[ อิงฟ้าหากนับหนึ่งเป็นอะไรไป คุณจะเป็นคนแรกที่ถูกคิดบัญชี ]
เขาพึมพำออกมาในใจด้วยความโมโหและร้อนใจอย่างมากที่ยังหานับหนึ่งไม่เจอ ร้อนใจจนต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปยังเบอร์ของกร
ทันทีที่กรรับสายเขาก็เอ่ยสั่งขึ้นเสียงแข็งอย่างดุดันด้วยความร้อนใจและโกรธจัดในระดับที่ปรอทแทบแตก
" กร คุณไปลากตัวอิงฟ้ามาเดี๋ยวนี้เลย แล้วให้เธอพาคุณมาที่บ้านผู้ชายที่ชื่อทิว "
" รับทราบครับ ผมจะรีบไปจัดการตามที่ท่านประธานสั่งเดี๋ยวนี้เลยครับ "
แล้วกวินก็วางสายไป เดินหานับหนึ่งต่อ ส่วนกรก็วิ่งออกไปขึ้นรถแล้วขับออกไป ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกใจ
เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถึงทำให้เจ้านายของเขาที่ค่อนข้างสุขุมเยือกเย็นมาตลอดดูร้อนใจขนาดนั้น
ภายในห้องทิวค่อยๆละเลงจูบไปตามซอกคอ ไล่ลงมายังไหปลาร้าอันเซ็กซี่ของนับหนึ่งอย่างใจเย็น จนนับหนึ่งเริ่มรู้สึกตัวเพราะความเย็นจากลมแอร์พัดผ่านมากระทบผิวอย่างแผ่วเบา
เธอค่อยๆขยับเปลือกตาภายใต้แพขนตาอันหนักอึ้งแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมาด้วยอาการสลึมสลือ มองขึ้นไปบนฝ้าเพดานแล้วรวบรวมสติสัมปชัญญะให้กลับมาเหมือนเดิม
[ นี่เราอยู่ที่ไหน ]
เธอพึมพำถามตัวเองในใจด้วยความสงสัย ทิวที่กำลังจูบไหปลาร้าเธออยู่ก็รู้สึกได้ถึงความเคลื่อนไหวเหนือศีรษะ จึงเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้านับหนึ่งแล้วยิ้มร้ายมุมปากอย่างใจเย็น
" ตื่นแล้วเหรอ คนสวย "
ทันทีที่เห็นหน้าและได้ยินเสียงทิว แววตาของนับหนึ่งก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจกลัว
อาการสลึมสลือที่มีก็ได้หายไปเป็นปลิดทิ้งในทันที เธอจ้องหน้าทิวที่คร่อมทับตัวเธอด้วยแววตาแข็งกร้าวแล้วส่งเสียงออกมาอย่างดุดัน
" แก... "
" หื้อ... "
ทิวส่งเสียงตอบผ่านลำคอด้วยสีหน้าอมยิ้มพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างหน้าตาเฉย
" ออกไปจากตัวฉัน! "
เธอเอ่ยสั่งเสียงแข็งด้วยแววตาดุดัน
" ถ้าไม่ออกไปล่ะ คุณจะทำไม "
ทิวถามกลับด้วยท่าทีเย้าแหย่อย่างใจเย็น นับหนึ่งเริ่มหงุดหงิดใจจึงเอ่ยสั่งเสียงกร้าวอย่างนึกรังเกียจ
" ออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนกับแกไปมากกว่านี้ "
นับหนึ่งยังคงให้โอกาสทิวได้ออกไปเอง แต่ทิวกลับนึกว่านับหนึ่งแค่ขู่เล่นๆ จึงเอ่ยขึ้น
" โอ้ ผมชักอยากจะเห็นคนสวยหมดความอดทนแล้วล่ะสิ แววตาแบบนี้คงจะเร่าร้อนและร้อนแรงน่าดู แค่คิดก็สยิวใจแล้ว งั้นผมขอต่อเลยแล้วกันนะ "
เอ่ยจบเขาก็โน้มหน้าลงไปซุกไซ้ใต้ซอกคอ หอมนับหนึ่งอย่างหื่นกระหาย
นับหนึ่งจึงกำผมของเขาแล้วดึงศีรษะอันน่ารังเกียจออกห่างจากตัว
ในจังหวะที่สีหน้าทิวเหยเกด้วยความเจ็บปวด เธอก็หยิบมิดพับขนาดเล็กที่พกติดตัวไว้บริเวณต้นขาแล้วดึงออกมา กดมีดออกแล้วง้างมือแทงลงกลางแผ่นหลังของทิวเต็มแรง ฉึก!
" อ๊าก!!! "
ทิวส่งเสียงร้องออกมาลั่นห้องด้วยความเจ็บปวดจนกวินที่อยู่นอกห้องได้ยิน ก็รีบตรงมายังห้องที่มีเลียงเล็ดลอดออกมาทันที
นับหนึ่งถีบทิวลงจากเตียงด้วยสีหน้าดุดันอย่างแข็งกร้าว
จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นมาจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเอง เสร็จแล้วก็ดึงมีดพกขนาดเล็กออกมาอีกเล่ม มากำไว้ในมือแน่นแล้วก้าวเข้าไปหาทิว ยกเท้าเตะเสยคางทิวซ้ำเต็มแรง จนเลือดพุ่งกระเซ็นออกมาจากปาก
" อึ๊ก! "
นับหนึ่งยิ้มเย็นออกมาที่มุมปากอย่างสะใจ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างสุขุมเยือกเย็น
" แกคิดผิดแล้วที่คิดทำร้ายฉัน ถ้าจำไม่ผิดแกคงจะเป็นผู้ชายของอิงฟ้าที่เคยไปรับไปส่งเธอที่บ้านตอนเรียนมหาลัยสินะ และถ้าฉันเดาไม่ผิดคนที่บงการแก ก็คงจะเป็นอิงฟ้ากับแม่ของเธอ ถูกมั้ย "
ทิวที่เลือดกลบปาก พยายามลุกขึ้นมายืน มองหน้านับหนึ่งอย่างเหลือเชื่อ ไม่คิดว่าผู้หญิงร่างบอบบางคนหนึ่งจะแรงเยอะและเยือกเย็นขนาดนี้ ถึงขนาดใช้มีดแทงคนได้อย่างเลือดเย็น เขาเริ่มนึกกลัวนับหนึ่งขึ้นมาในใจ
เพราะเขาที่เป็นผู้ชายยังไม่กล้าใช้มีดทำร้ายคนอื่นแบบนี้ แต่เธอกลับแทงเขาอย่างไม่ลังเลเลย และที่น่าตกใจคือ เธอไม่ได้บอบบางโง่เขลาอย่างที่อิงฟ้าเคยพูดถึงเลย
" คุณรู้มาก่อนเหรอ ว่าอิงฟ้าคิดจะทำร้ายคุณ "
นับหนึ่งยิ้มเย็นที่มุมปากแล้วเอ่ยตอบด้วยแววตาเย็นยะเยือก
" ใช่ ฉันรู้ว่าสองแม่ลูกนั่นจะต้องมีแผนร้ายกับฉัน มีเพียงคนโง่เท่านั้น ที่จะไม่ทันความคิดชั่วๆของสองแม่ลูกนั่น
และคุณก็คือคนโง่คนนั้น ที่ยอมเป็นเครื่องมือให้พวกเขาหลอกใช้
อย่าคิดว่าคนอย่างอิงฟ้า จะมาสนใจคุณนะ คนที่มีความทะเยอทะยานแบบเธอน่ะ ไม่มีวันสนใจผู้ชายที่ไม่มีอะไรแบบคุณหรอก
ทางที่ดี คุณควรจะรู้ตัวแล้วกลับใจทำในสิ่งควรทำจะดีกว่า "
สิ่งที่ควรจะทำสำหรับเธอคือต้องการการให้ทิวหักหลังอิงฟ้ากับรานี
เธอจึงเอ่ยออกมาด้วยถ้อยคำที่แฝงไปด้วความดูถูก ทำให้ทิวคิดตามและเริ่มไขว้เขวตามคำพูดของเธอ เพราะหลังๆมา อิงฟ้ามาหาเขานานๆครั้ง
เขาเองก็สัมผัสได้ถึงความห่างเหินนั้นและรู้สึกว่าอิงฟ้าเปลี่ยนไปจริงๆ
แต่ด้วยความที่รักอิงฟ้ามาก จึงพยายามเข้าใจเธอที่เป็นดาราดัง คงมีงานเยอะตลอดเวลา จนไม่มีเวลาให้เขา
แต่พอนับหนึ่งพูดออกมาแบบนั้น ถึงรู้ว่าสิ่งที่เขารู้สึกนั้น มันตรงกับคำพูดของนับหนึ่งจริงๆ
[ หรือว่าอิงฟ้าจะหลอกใช้เราเหมือนที่น้องสาวเธอพูดจริงๆ ]
นับหนึ่งมองทิวที่กำลังไขว้เขวอย่างเงียบๆแล้วยื่นข้อเสนอโน้มน้าวต่อ
" ฉันสามารถทำให้คุณได้ครอบครองอิงฟ้าตลอดไปได้นะ เพียงแต่ คุณจะต้องร่วมมือกับฉัน "
ทิวเงยหน้ามองนับหนึ่งแล้วเอ่ยถามขึ้น
" แล้วถ้าผมไม่ร่วมมือล่ะ "
" ถ้าคุณยอมไม่ร่วมมือ ก็ต้องยอมเสียนิ้ว ที่คุณแตะต้องฉันเมื่อกี้ เพราะฉันคงไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องตัวฉันฟรีๆ "
เธอเอ่ยออกมาอย่างเลือดเย็นแล้วควงมีดที่ถือในมืออย่างไม่รีบร้อน เพราะทิวคนเดียวไม่คณามือเธอเลยสักนิด ยิ่งสติสัมปชัญญะกลับมาครบถ้วนแล้ว เธอก็ยิ่งมั่นใจที่จะสามารถปามีดที่ควงในมือได้ตรงตามเป้าหมายมากขึ้น
*** เที่ยงๆมาอัพให้อีกตอนนะคะ ***
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ริษยาร้ายซ่อนรัก