แม้ว่าภัณฑารักษ์เหวินจะไม่รู้จักปรมาจารณ์หยก แต่เขาก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก
ตัวอย่างเช่นปรมาจารย์ไม่ใช่คนเฒ่าคนแก่ที่มีอายุเกือบครึ่งร้อยปี แต่เป็นหญิงสาวที่อายุยังไม่ถึง30
เธอเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว เธอเคยปรากฏตัวครั้งเดียว แต่โชคดีที่ภัณฑารักษ์เหวินเคยเจอเธอ แต่เนื่องจากเห็นจากไกลๆ เขาจึงจำได้เพียงลางๆ
เขาพยายามนึกย้อนความประทับใจครั้งแรกที่เจอเธอ: "สาวน้อยคนนั้น เธอยังเด็ก ผอมและตัวเล็ก มีผมยาวมาก เธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็กที่มีพลังจิตวิญญาณที่สูง”
เหอจ้าวถามทันที “อยู่ไกลกันขนาดนี้ คุณไม่เห็นแม้แต่หน้าตาของเธอ จะเห็นออร่าพลังจิตวิญญาณของเธอได้ยังไง?”
เป็นซุนหงอคงที่มีดวงตาแหลมคมเหรอ?
เขาพูดขึ้นอีกว่า “ไร้สาระ! ยังเด็กแต่สามารถแกะสลักหยกที่มีจิตวิญญาณขนาดนั้นได้ นอกจากพรสวรรค์แล้ว ถ้าไม่ใช่พลังจิตวิญญาณแล้วคืออะไร?”
ยวี่จิ้นเหวินฟังอย่างเงียบๆ ด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อเขาได้ยินคำว่า "พลังจิตวิญญาณ" คนแรกที่เขานึกถึงคือหนานซ่ง
ดวงตาเบิกกว้างทันที
ภัณฑารักษ์เหวินมองมาที่ยวี่จิ้นเหวิน "นายถามถึงปรมาจารย์หยกทำไม? นายไปเมืองหนานมาหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอ เป็นยังไงบ้าง ยังง้อภรรยาที่นายทิ้งไป ให้กลับมาไม่ได้เหรอ?”
คำพูดเหล่านี้แทงใจยวี่จิ้นเหวินมาก ดวงตาของเขาหม่นหมองกว่าเดิม
เหอจ้าวขยิบตาให้ภัณฑารักษ์เหวิน “ประเด็นไหนไม่ควรพูด ก็ดันไปหยิบมาพูด...”
ภัณฑารักษ์เหวินถามอย่างเคร่งขรึมว่า "เรื่องไหนควรพูดบ้าง? เสี่ยวซ่ง โจ๋เซวียน ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่ควรพูดสักเรื่อง”
เหอจ้าว: "..."
รู้ตอนนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว
ยวี่จิ้นเหวินยืนขึ้น "ไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน”
ขณะที่เขากำลังจะจากไป ภัณฑารักษ์เหวินก็นึกอะไรบางอย่างขึ้น และตะโกนจากข้างหลังว่า “จริงด้วย ถ้านายสนใจปรมาจารย์หยกจริงๆ ลองกลับไปถามปู่ของนายดูสิ เขาน่าจะรู้มากกว่าฉัน”
ยวี่จิ้นเหวินหยุดเดิน และหันหลังกลับ "คุณปู่ของผมรู้จักปรมาจารย์หยกงั้นเหรอ?”
“ไม่ถือว่ารู้จักขนาดนั้น วงการโบราณวัตถุและงานแกะสลักหยกถือเป็นแวดวงเดียวกัน เขาเองก็สนใจหยกเหมือนกัน เท่าที่ฉันรู้ เขาเคยซื้อผลงานของปรมาจารย์หยกถึงสองชิ้น”
เมื่อพูดตรงนี้ ภัณฑารักษ์เหวินก็อดอิจฉาไม่ได้ “เถ้าแก่มีเงินเยอะจะตาย แต่เขาลังเลที่จะส่งมันมาที่พิพิธภัณฑ์ ให้ฉันได้เห็นชื่นชมสักหน่อย เขากลับเก็บมันไว้ในห้องสมุดของเขา”
——
หนานซ่งใช้เวลาทั้งวันในบริษัท เซ็นเอกสารสำคัญ และพบกับแขกคนสำคัญมากมาย
แต่ก็มีแขกบางคนที่ไม่ชอบนัดหมาย พวกเขาชอบแสดงความสำคัญและโผล่ออกมาแบบไม่กล่าว
ตัวอย่างก็คือ: ฟู่ยวี่
หนานซ่งมองไปที่ฟู่ยวี่ที่ไม่ได้รับเชิญ เธอไม่ได้ต้อนรับเขาอย่างดี
“ประธานฟู่ คราวหน้าถ้าจะพบฉันรบกวนทำการนัดไว้ด้วย ฉันไม่ได้อารมณ์ดีแบบนี้ตลอด ที่จะทนได้ ไม่เตะนายออกไป”
ฟู่ยวี่เป็นคนหน้าด้าน พูดด้วยรอยยิ้ม: "ตอนแรกฉันก็ว่าจะทำการนัดก่อน แต่พอดูตารางงานของเธอแล้ว เห็นแขกที่ไม่สำคัญเท่าฉัน ก็เลยรีบมาทันที”
หนานซ่งหรี่ตา "ข้อมูลนี้ของคุณชายฟู่ คงจะแฮ็กอีเมลของผู้ช่วยสินะ”
ความลับถูกเปิดเผย ใบหน้าของฟู่ยวี่ก็บูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด
ฝีมือการแฮ็กของเขาเคยเป็นที่ยอมเยี่ยม แต่สำหรับหนานซ่งฝีมือแค่นี้ยังไม่พอ
คุณชายฟู่สัมผัสได้ถึงการดูถูกของหนานซ่ง ราวกับเห็นคำพูด “กระจอก” ในดวงตาของเธอ
“อีกอย่าง แขกของฉันมีความสำคัญหมด ที่นี่เราไม่ต้อนรับคนที่หยิ่งผยอง นายก็ไม่เว้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...