บทที่ 161 ขวดหนึ่งพันล้าน – ตอนที่ต้องอ่านของ สอนรักอดีตภรรยา
ตอนนี้ของ สอนรักอดีตภรรยา โดย ลู่เสี่ยวเช่อ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 161 ขวดหนึ่งพันล้าน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ไป๋ลู่ยวี๋เช็ดเค้กบนหน้าออก กุมท้องที่หัวเราะจนเจ็บ คิดถึงคำพูดสำคัญประโยคนั้นของศิลปะการแสดงละครเวที—
“คนอื่นร้องเพลงเอาเงิน เธอร้องเพลงเอาชีวิตเหรอ”
หนานซ่งไม่พูดเยอะ ยกธนูที่พี่รองมอบให้เล็งไปทางพี่เล็ก ไป๋ชีกลัวในทันที จึงหลบอยู่ด้านหลังเฮ่อเซิน
จุดหัวเราะของจี้อวิ๋นไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกมา เขามองหนานซ่งที่สีหน้าเคร่งขรึม แล้วพูดอย่างทอดถอนใจ “ฉันไม่เข้าใจมาโดยตลอด น้องเล็กของพวกเราฉลาดปราดเปรื่องมาตั้งแต่เด็ก เรียนรู้ได้เร็วไปหมด เปียโน หมากรุก พู่กันจีน และจิตรกรรมแค่สอนก็เป็นหมด ครูที่มาสอนที่บ้านเห็นเธอเป็นของล้ำค่าทั้งนั้น อดใจรอรับเขาเป็นลูกศิษย์ไม่ไหว มีเพียงแต่การร้องและเต้นรำ เรียนไม่เข้าจริง ๆ ไม่รู้ว่าทำไม”
หนานซ่งกลับไม่รู้สึกอะไร “ในตอนที่พระเจ้าเปิดประตูบานหนึ่งให้ฉัน แน่นอนว่าจะต้องปิดหน้าต่างบานหนึ่งของฉัน ฉันไม่ได้ใช้การร้องเพลงการเต้นหาข้าวกิน ทำไมต้องเต้นเป็นร้องเป็นด้วย”
“งั้นหน้าต่างของเธอบานนี้ปิดแน่นไปหน่อย ไม่มีทางเป็นไปได้สักนิด” จี้อวิ๋น
หนานซ่งเล็งธนูไปทางพี่สี่
จี้อวิ๋นหุบปาก ทานเค้กในทันที
เฮ่อเซินปลอบน้องสาวอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรน้องเล็ก ฉันรู้จักครูปรับโทนเสียงเยอะแยะ แม้แต่เสียงฆ้องแตกก็สามารถปรับให้เป็นเสียงธรรมชาติได้ ถ้าหากวันหนึ่งเธออยากดังข้ามคืนขึ้นมา ฉันช่วยแนะนำให้เธอได้”
“พี่สาม” หนานซ่งยิงธนูขนนกสีขาวออกไปสองดอก “พี่ก็ร่วมสนุกกับพวกเขาด้วย?”
เฮ่อเซินหลุดขำ
เฉวียนเยี่ยเชียนกินอาหารที่น้องสาวทำกับมือคำโต พูดประโยคหนึ่งโดยไม่เงยหน้า “ฉันรู้สึกว่าน้องหกร้องได้เพราะดีนะ ไม่ได้โอเวอร์เหมือนที่พวกนายพูด”
ไป๋ชีเปิดโปงเขาในทันที “พี่สอง พี่อย่าทำเป็นคนดี เมื่อกี้ตอนที่น้องเล็กร้องเพลงพี่เอาสำลียัดหู อย่านึกว่าฉันไม่เห็นนะ”
“มีที่ไหน?” เฉวียนเยี่ยเชียนเงยหน้าขึ้นในทันที “ฉันเสียบที่อุดหูชัดๆ”
“…”
หนานซ่ง : หมดรักแล้ว
พวกพี่ชายร้ายกาจพวกนี้ชอบเกลี้ยกล่อมให้เธอขึ้นแสดงบนเวทีตั้งแต่เด็ก ตอนเด็ก ๆ เธอก็โง่ เห็นทุกคนหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้ทุกคนมีความสุข เพราะคุณพ่อกับพี่ใหญ่ที่เป็นคนสุขุมเมื่อได้ยินเธอร้องเพลงก็จะเผยรอยยิ้มออกมา เสี่ยวหนานรู้สึกว่าตัวเองเก่งมาก ๆ จนอยากเข้าวงการดนตรีด้วยซ้ำ แต่คุณพ่อกับคุณแม่ห้ามไว้
คุณพ่อลูบหัวของเธอ แล้วพูดออกมาจากใจจริง “ลูกสาว พวกเราให้คนอื่นได้มีชีวิตเถอะ”
ตอนนั้นหนานซ่งน้อยรู้สึกว่า เธอมีทักษะมากมายแล้ว ถ้าหากเธอเข้าวงการดนตรีหรือวงการเต้นอีก งั้นนักร้องนักเต้นพวกนั้นจะทำยังไง?
หนานซ่งน้อยมีคุณธรรมสูงส่ง จึงมอบโอกาสมีชื่อเสียงให้กับคนอื่น
จนกระทั่งโตขึ้น หนานซ่งถึงได้รู้ว่า เธอเสียงไม่ครบห้าโทนตั้งแต่เกิด แขนขาไม่ค่อยร่วมมือกัน ถ้าต้องใช้การร้องเพลงการเต้นเพื่อมีชีวิตรอด งั้นก็เดาได้ว่าคงอดตาย
เธอไม่เปิดลูกคอง่าย ๆ วันนี้แสดงเสียงร้องเพื่อพวกพี่ชายโดยเฉพาะ เย้าแหย่ให้พวกเขาหัวเราะ
“ฉันยังทำพุดดิ้งนมสตรอว์เบอร์รี รอก่อนนะ ฉันไปหยิบที่ห้องครัว”
หนานซ่งยืนขึ้น เดินอ้อมห้องรับแขกด้านหน้า เดินไปทางหลังครัว
ซือเจ๋อกำลังยุ่งอยู่ที่ห้องครัว เขายืนอยู่หลังกระจกก็เห็นหนานซ่งเดินมา จึงเผยรอยยิ้มสดใสขึ้น หนานซ่งก็ยิ้มกลับให้เขา
เธอเพิ่งจะอมยิ้มที่มุมปาก หนานซ่งเหลือบมองไปด้านข้าง ก็เห็นร่างที่คุ้นเคย เดินมาจากประตูด้านหลัง เธอตัวแข็ง รอยยิ้มที่มุมปากก็ค้างอยู่บนใบหน้า
ยวี่จิ้นเหวินถือขวดเซรามิกอยู่ในมือ เขาจัดแจงชุดพ่อครัวที่ไม่ค่อยพอดีตัวที่เพิ่งเปลี่ยนมาเมื่อสักครู่ เมื่อเห็นหนานซ่ง ก็อึ้งอยู่กับที่
เธอเข้าสู่ดวงตาของเขา จมดิ่งลงสู่ห้วงลึกแทบจะในทันที
เมื่อกี้เขายืนอยู่หน้าประตูร้าน ด้านล่างบันได อยู่ห่างกันไกลเกินเห็นไม่ชัดเจน เห็นเพียงแค่แผ่นหลังของเธอที่เลือนราง เขารู้ว่าคืนนี้เธอสวมชุดเดรสสีแดง แล้วมัดผมขึ้น
แต่ฉันไม่รู้ว่าคืนนี้เธอแต่งกายด้วยชุดโบราณ
เดรสยาวแต่งหน้าเกล็ดปลาทำให้เธอดูสง่างามและเพรียวบาง ผมที่มัดขึ้นปักปิ่นหงอนสีม่วง การแต่งหน้าที่ประณีตขับใบหน้าบอบบาง มีความรู้สึกอ่อนโยนและแข็งแกร่งของเจ้าหญิง
บนคอขาวเรียว อีกทั้งยังสวมสร้อยคอหน้ายิ้มสีทองอ่อน ไม่มีความขัดกันสักนิด แต่รูปลักษณ์นี้…
ยวี่จิ้นเหวินลำคอแข็ง “คอของเธอ…”
ในตอนที่หนานซ่งเห็นยวี่จิ้นเหวิน สีหน้าเปลี่ยนในทันที กำลังจะพูดขึ้น ก็ถูกยัดขวดเซรามิกเข้าในอ้อมอก แล้วในมือก็มีกล่องกำมะหยี่สีแดงอีกกล่อง
เธอเงยหน้าอย่างงุนงง ยวี่จิ้นเหวินก็พูดกับเธอ “สุขสันต์วันเกิด”
เหมือนว่ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะเจอหน้าเธอ จากนั้นก็พูด “สุขสันต์วันเกิด” กับเธอ
หนานซ่งเปิดกล่องกำมะหยี่สีแดงออก เห็นว่าเป็นเข็มกลัดหน้าอกพลอยไพทูรย์ เมื่อเปิดออกดูเธอก็รู้แล้วว่าเป็นแม่สามีเก่า คุณนายยวี่เฟิ่งเจียงเป็นคนมอบให้
นี่คือของล้ำค่าที่ยวี่เฟิ่งเจียงเก็บสะสมมานาน ในงานที่ค่อนข้างสำคัญ หนานซ่งเคยเห็นเธอกลัดสองครั้ง
เฉวียนเยี่ยเชียนและคนอื่น ๆ คือบุคคลร่ำรวย แน่นอนว่ารู้จักพลอยไพทูรย์ และก็รู้ว่ามีค่าขนาดไหน เมื่อได้ยินว่าแม่สามีเก่าของหนานซ่งมอบให้ ก็ไม่ได้พูดอะไร
สำหรับขวดเซรามิก—
เฉวียนเยี่ยเชียนคนนอกวงการแสดงความคิดเห็น “นี่คือแจกันดอกไม้? หรือหม้อดินเผา? หรือขวดที่ใช้ในการโยนหม้อ?”
เฮ่อเซินพูด “ตอนที่ฉันถ่ายหนังเคยเจอมาก่อน ในวังมีของเล่นแบบนี้เยอะแยะ”
จี้อวิ๋นพูด “ใครเขามอบแจกันดอกไม้ในวันเกิดกัน? เป็นผู้ชายกำยำล่ำสันที่ซื่อบื้อจริง ๆ”
ไป๋ลู่ยวี๋กลับอุ้มขวดขึ้นมา “ยังไงก็ไม่แพง ฉันขว้างซะเลย”
จี้อวิ๋น “อย่าขว้างตรงนี้ เห็นแล้วหงุดหงิด เอาออกไป!”
หนานซ่งเหลือบมองแล้วพูดอย่างเรียบเฉย “ไม่แพงเท่าไหร่ ราคาตลาดหนึ่งพันล้าน”
“…”
ไป๋ลู่ยวี๋หดมือกลับ “หรือว่าเอาไปขายเถอะ?”
จี้อวิ๋นตอบในทันที “ฉันเห็นด้วย”
“…”
เฉวียนเยี่ยเชียนกับเฮ่อเซินถลึงตาไปทางพวกเขา ทำตัวดี ๆ หน่อยไม่ได้เหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...