สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 162

“แค่ขวดร้าย ๆ ขวดหนึ่ง มีค่าขนาดนี้เลยเหรอ?”

เฉวียนเยี่ยเชียนแทบไม่อยากจะเชื่อ มีเงินขนาดนี้เขาสามารถซื้อปืนกลเร็วได้หลายกระบอกแล้ว พวกนั้นไม่เท่กว่าไอ้ขวดนี่เยอะเหรอ?

“น้องหก นี่คือวัตถุโบราณของราชวงศ์ไหน ทำไมฉันดูเหมือนวัสดุเคลือบสียังไงยังงั้น?”

ไป๋ลู่ยวี๋ไม่เข้าใจจึงถาม ด้านของลายครามเขามีความรู้แค่งู ๆ ปลา ๆ ดูไม่ออกถึงสาเหตุที่มา ต้องถามผู้เชี่ยวชาญอย่างหนานซ่ง

หนานซ่งแนะนำให้พวกเขาอย่างเรียบเฉย “อันนี้ไม่ใช่วัสดุเคลือบสี แต่เป็นเครื่องลายครามห้าสี อยู่ในสมัยราชวงศ์หมิง อันนี้น่าจะเป็นกระเบื้องเคลือบห้าสีจากสมัยจักรพรรดิหงอู่ มีค่ามาก ผลงานที่ตกทอดมามีไม่เยอะแล้ว”

พูดถึงตรงนี้ โรคเรื้อรังจากอาชีพกำเริบขึ้น เธอเดินไปข้างหน้าหมุนเครื่องเซรามิกไปมา แล้วบรรยายให้พวกเขา

“สีหลักของเครื่องลายครามในราชวงศ์หยวนคือสีน้ำเงินและสีขาว ในสมัยหงอู่สีแดงที่เคลือบไว้ถือเป็นสีหลัก ก็ได้เปิดฉากสู่ความสง่างามของเครื่องลายครามห้าสี รูปลายมังกรกับลายเมฆและรายละเอียด ทั้งหมดถูกวาดด้วยสีแดง...”

ฟังหนานซ่งบรรยายความรู้ครึ่งค่อนวัน พวกพี่ชายฟังแบบรู้บ้างไม่รู้บ้าง

ด้านการร้องการเต้นพวกเขายังพอหัวเราะเยาะน้องสาวได้ แต่ด้านเครื่องลายครามเครื่องหยก เธอเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญ ต่อหน้าเธอพวกเขาก็คือนักเรียนประถม มีสิทธิ์แค่เพียงฟังบรรยาย

“พอแล้ว ๆ น้องเล็ก ถึงตรงนี้ก็พอแล้ว บรรยายต่อไปพวกฉันจะเวียนหัวแล้ว รู้ว่าเป็นวัตถุโบราณของราชวงศ์หมิงก็พอแล้ว”

ไป๋ชีเอ่ยปากขัดการปูความรู้ของหนานซ่ง ตกใจจนพูดไม่ออก หลังจากนั้นก็พูดขึ้น “คิดไม่ถึงว่ายวี่จิ้นเหวินจะให้ของขวัญที่สำคัญขนาดนี้กับเธอ ครั้งที่แล้วยังแย่งชามเคลือบสีกับเธออยู่เลย แค่เวลาสั้น ๆ ไม่กี่เดือน พัฒนาขึ้นเยอะเลย”

“มันกล้าแย่งของกับน้องเล็ก?”

จี้อวิ๋นหน้าดำคร่ำเครียด แล้วด่าขึ้นมา “ผู้ชายร่างกายกำยำล่ำสันซื่อบื้อ”

เฮ่อเซินมองไปทางหนานซ่ง “มันเอาของขวัญให้เธอแล้วก็กลับไปเลย? ไม่ได้พูดอะไร?”

หนานซ่งดวงตาสดใส “พูด ‘สุขสันต์วันเกิด’ ประโยคหนึ่ง ไม่ได้อะไรอย่างอื่น”

“ให้เครื่องลายครามร้าย ๆ ดีตรงไหน ไอ้สวะนั่นทำให้น้องเล็กเสียใจตั้งหลายปีขนาดนั้น แค่ขวด ๆ เดียวจะลบล้างให้หมด ไม่มีทาง!”

เฉวียนเยี่ยเชียนเดินเข้าไปยึดขวดมา “ฉันจะเอาไปทิ้งเดี๋ยวนี้ เอาให้พ้นจากสายตา”

เขาจับขวดไว้แน่น แล้วหิ้วขวดกลับหัว จู่ ๆ ก็มีบางอย่างหลุดออกจากขวด ไหลลงมาตามแขนเฉวียนเยี่ยเชียน

“อะไรตกลงมา?”

ไป๋ลู่ยวี๋เดินเข้าไปหยิบของที่ตกบนพื้นขึ้นมา ให้หนานซ่ง เขามองไปที่คอของเธอ แล้วพูดอย่างประหลาดใจ “หือ? นี่มันคือสร้อยคอไหม? ทำไมถึงเหมือนกับเส้นที่อยู่บนคอเธอขนาดนี้?”

เป็นสร้อยหน้ายิ้ม สีของสร้อยเข้มกว่านิดหน่อย แต่รูปร่างหน้ายิ้มแทบจะเหมือนกันมาก!

หนานซ่งเม้มปาก “…”

สร้อยชนกัน?

นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังเหมือนกันได้ ก็พอใช้ได้

ไป๋ลู่ยวี๋เพิ่งส่งสร้อยไว้ในมือหนานซ่ง แต่จู่ ๆ กลับม้วนนิ้วกลับ แล้วพูดอย่าตกใจ “บนสร้อยคอนี้ทำไมถึงมีเลือดด้วย?”

หนานซ่งขมวดคิ้ว จับสร้อยนั้นไว้ มีเลือดติดอยู่เล็กน้อยที่ปลายนิ้ว

ซือเจ๋อพยุงติงหมิงหยางที่ขวัญหนีดีฝ่อเข้ามา นั่งลงตรงเก้าอี้

หนานซ่งมองไปที่มือที่เปื้อนเลือดของซือเจ๋อ สร้อยคอหน้ายิ้มบนคอเธอเส้นนี้ซือเจ๋อเป็นคนทำเอง หรือว่าเส้นนี้บนมือ ยวี่จิ้นเหวินก็ลงมือทำเอง?

ฝนเริ่มตกหนักขึ้น เส้นทางด้านหน้าเลือนราง

ยวี่จิ้นเหวินนั่งเงียบอยู่ที่นั่งด้านหลัง ดวงตาคู่นั้นราวกับถูกน้ำฝนขับล้าง ดวงตาสดใส เหมือนถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นยะเยือกของสายฝนฤดูร้อน ดวงตาอันอบอุ่นนั้นโปร่งใสราวกับหยก

เมื่อหลับตาลง ในหัวปรากฏภาพการแต่งกายโบราณของหนานซ่งโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ สวยแบบมีระดับขนาดนั้น เหมือนกับสามปีก่อนที่เธอเพิ่งมาอยู่ข้างกายเขา แต่ก็ดูแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง

อันที่จริง เธอไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแค่สามปีที่ผ่านมา เธอเพียงแค่เปิดเผยด้านที่อ่อนโยนให้เขาเห็น แอบซ่อนด้านแข็งแกร่งเฉียบแหลมไว้

แต่ตอนนี้ เธอซ่อนด้านอ่อนโยนของตัวเองไว้ เผยความเฉียบคมออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา