“แค่ขวดร้าย ๆ ขวดหนึ่ง มีค่าขนาดนี้เลยเหรอ?”
เฉวียนเยี่ยเชียนแทบไม่อยากจะเชื่อ มีเงินขนาดนี้เขาสามารถซื้อปืนกลเร็วได้หลายกระบอกแล้ว พวกนั้นไม่เท่กว่าไอ้ขวดนี่เยอะเหรอ?
“น้องหก นี่คือวัตถุโบราณของราชวงศ์ไหน ทำไมฉันดูเหมือนวัสดุเคลือบสียังไงยังงั้น?”
ไป๋ลู่ยวี๋ไม่เข้าใจจึงถาม ด้านของลายครามเขามีความรู้แค่งู ๆ ปลา ๆ ดูไม่ออกถึงสาเหตุที่มา ต้องถามผู้เชี่ยวชาญอย่างหนานซ่ง
หนานซ่งแนะนำให้พวกเขาอย่างเรียบเฉย “อันนี้ไม่ใช่วัสดุเคลือบสี แต่เป็นเครื่องลายครามห้าสี อยู่ในสมัยราชวงศ์หมิง อันนี้น่าจะเป็นกระเบื้องเคลือบห้าสีจากสมัยจักรพรรดิหงอู่ มีค่ามาก ผลงานที่ตกทอดมามีไม่เยอะแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ โรคเรื้อรังจากอาชีพกำเริบขึ้น เธอเดินไปข้างหน้าหมุนเครื่องเซรามิกไปมา แล้วบรรยายให้พวกเขา
“สีหลักของเครื่องลายครามในราชวงศ์หยวนคือสีน้ำเงินและสีขาว ในสมัยหงอู่สีแดงที่เคลือบไว้ถือเป็นสีหลัก ก็ได้เปิดฉากสู่ความสง่างามของเครื่องลายครามห้าสี รูปลายมังกรกับลายเมฆและรายละเอียด ทั้งหมดถูกวาดด้วยสีแดง...”
ฟังหนานซ่งบรรยายความรู้ครึ่งค่อนวัน พวกพี่ชายฟังแบบรู้บ้างไม่รู้บ้าง
ด้านการร้องการเต้นพวกเขายังพอหัวเราะเยาะน้องสาวได้ แต่ด้านเครื่องลายครามเครื่องหยก เธอเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญ ต่อหน้าเธอพวกเขาก็คือนักเรียนประถม มีสิทธิ์แค่เพียงฟังบรรยาย
“พอแล้ว ๆ น้องเล็ก ถึงตรงนี้ก็พอแล้ว บรรยายต่อไปพวกฉันจะเวียนหัวแล้ว รู้ว่าเป็นวัตถุโบราณของราชวงศ์หมิงก็พอแล้ว”
ไป๋ชีเอ่ยปากขัดการปูความรู้ของหนานซ่ง ตกใจจนพูดไม่ออก หลังจากนั้นก็พูดขึ้น “คิดไม่ถึงว่ายวี่จิ้นเหวินจะให้ของขวัญที่สำคัญขนาดนี้กับเธอ ครั้งที่แล้วยังแย่งชามเคลือบสีกับเธออยู่เลย แค่เวลาสั้น ๆ ไม่กี่เดือน พัฒนาขึ้นเยอะเลย”
“มันกล้าแย่งของกับน้องเล็ก?”
จี้อวิ๋นหน้าดำคร่ำเครียด แล้วด่าขึ้นมา “ผู้ชายร่างกายกำยำล่ำสันซื่อบื้อ”
เฮ่อเซินมองไปทางหนานซ่ง “มันเอาของขวัญให้เธอแล้วก็กลับไปเลย? ไม่ได้พูดอะไร?”
หนานซ่งดวงตาสดใส “พูด ‘สุขสันต์วันเกิด’ ประโยคหนึ่ง ไม่ได้อะไรอย่างอื่น”
“ให้เครื่องลายครามร้าย ๆ ดีตรงไหน ไอ้สวะนั่นทำให้น้องเล็กเสียใจตั้งหลายปีขนาดนั้น แค่ขวด ๆ เดียวจะลบล้างให้หมด ไม่มีทาง!”
เฉวียนเยี่ยเชียนเดินเข้าไปยึดขวดมา “ฉันจะเอาไปทิ้งเดี๋ยวนี้ เอาให้พ้นจากสายตา”
เขาจับขวดไว้แน่น แล้วหิ้วขวดกลับหัว จู่ ๆ ก็มีบางอย่างหลุดออกจากขวด ไหลลงมาตามแขนเฉวียนเยี่ยเชียน
“อะไรตกลงมา?”
ไป๋ลู่ยวี๋เดินเข้าไปหยิบของที่ตกบนพื้นขึ้นมา ให้หนานซ่ง เขามองไปที่คอของเธอ แล้วพูดอย่างประหลาดใจ “หือ? นี่มันคือสร้อยคอไหม? ทำไมถึงเหมือนกับเส้นที่อยู่บนคอเธอขนาดนี้?”
เป็นสร้อยหน้ายิ้ม สีของสร้อยเข้มกว่านิดหน่อย แต่รูปร่างหน้ายิ้มแทบจะเหมือนกันมาก!
หนานซ่งเม้มปาก “…”
สร้อยชนกัน?
นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังเหมือนกันได้ ก็พอใช้ได้
ไป๋ลู่ยวี๋เพิ่งส่งสร้อยไว้ในมือหนานซ่ง แต่จู่ ๆ กลับม้วนนิ้วกลับ แล้วพูดอย่าตกใจ “บนสร้อยคอนี้ทำไมถึงมีเลือดด้วย?”
หนานซ่งขมวดคิ้ว จับสร้อยนั้นไว้ มีเลือดติดอยู่เล็กน้อยที่ปลายนิ้ว
ซือเจ๋อพยุงติงหมิงหยางที่ขวัญหนีดีฝ่อเข้ามา นั่งลงตรงเก้าอี้
หนานซ่งมองไปที่มือที่เปื้อนเลือดของซือเจ๋อ สร้อยคอหน้ายิ้มบนคอเธอเส้นนี้ซือเจ๋อเป็นคนทำเอง หรือว่าเส้นนี้บนมือ ยวี่จิ้นเหวินก็ลงมือทำเอง?
—
ฝนเริ่มตกหนักขึ้น เส้นทางด้านหน้าเลือนราง
ยวี่จิ้นเหวินนั่งเงียบอยู่ที่นั่งด้านหลัง ดวงตาคู่นั้นราวกับถูกน้ำฝนขับล้าง ดวงตาสดใส เหมือนถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นยะเยือกของสายฝนฤดูร้อน ดวงตาอันอบอุ่นนั้นโปร่งใสราวกับหยก
เมื่อหลับตาลง ในหัวปรากฏภาพการแต่งกายโบราณของหนานซ่งโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ สวยแบบมีระดับขนาดนั้น เหมือนกับสามปีก่อนที่เธอเพิ่งมาอยู่ข้างกายเขา แต่ก็ดูแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
อันที่จริง เธอไม่ได้เปลี่ยนไป เพียงแค่สามปีที่ผ่านมา เธอเพียงแค่เปิดเผยด้านที่อ่อนโยนให้เขาเห็น แอบซ่อนด้านแข็งแกร่งเฉียบแหลมไว้
แต่ตอนนี้ เธอซ่อนด้านอ่อนโยนของตัวเองไว้ เผยความเฉียบคมออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...