พอหนานซ่งบอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง โดยเฉพาะตอนที่พูดคำว่า"หนานหนิงซง"ออกมา สีหน้าของทุกคนจึงเปลี่ยนไปทันที
คุณท่านยวี่สองถึงขั้นตกใจจนลุกขึ้นมา "อะไรนะ? หนานหนิงซงคือพ่อเธอ?!"
ยวี่จิ้นเหวินก็ขมวดคิ้ว
ถึงแม้หนานหนิงซงจะเสียชีวิตไปสามปีแล้ว แต่ชื่อเสียงของเขายังโด่งดังอยู่ ก็เหมือนคำว่า……
ถึงแม้คนจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่บนโลกนี้ยังมีตำนานของเขาอยู่
หนานหนิงซงเป็นอัจฉริยะในวงการธุรกิจ
เขาเป็นคนสร้างบริษัทตระกูลหนานตอนนั้นใช้เวลาแค่ครึ่งนี้ก็กลายเป็นมหาอำนาจในเมืองหนานแล้ว หนึ่งปีหลังจากนั้นแบรนด์จิวเวลรี่ของบริษัทก็เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ สองปีหลังจากนั้นก็สามารถแข่งขันกับแบรนด์จิวเวลรี่บริษัทยวี่กรุ๊ปได้แล้ว สามปีหลังจากนั้นก็เอาชนะยวี่กรุ๊ป แล้วได้รับสิทธิพิเศษจากบริษัทDTค้าเพชร สี่ปีหลังจากนั้นก็โค่นยวี่กรุ๊ปได้ แล้วกลายเป็นแบรนด์ค้าเพชรของบริษัทRGอินเตอร์เนชันแนล แล้วกลายเป็นแบรนด์ระดับอินเตอร์ไปแล้ว
เดิมคิดว่าหนานหนิงซงจะผ่อนกำลังลง แล้วสร้างความมั่นคง แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเขากลับใช้โอกาสนี้ แล้วทำให้ธุรกิจใหญ่โตขึ้น ทั้งโครงการบ้าน โรงแรม โรงภาพยนตร์ แล้วก็ร้านอาหารมีแต่โฆษณาของบริษัทตระกูลหนาน บริษัทตระกูลหนานมีโชคช่วย จึงกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญของบริษัทยวี่กรุ๊ป
บริษัทตระกูลหนานเข้ารอบบริษัทชั้นนำห้าร้อยอันดับแรกของประเทศ แล้วหนานหนิงซงได้ขึ้นอันดับนิตยสารฟอบส์ด้วย
ตอนนั้น คุณท่านยวี่สองกับสาม เป็นคนที่แพ้ให้กับหนานหนิงซง ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่อยู่แล้ว แต่พอเอ่ยถึง พวกเขาก็ยังคงติดใจอยู่ดี
หนานซ่งพยักหน้า เธอรู้ว่าบริษัทตระกูลหนานกับบริษัทยวี่กรุ๊ปเป็นคู่แข่งกัน สามปีก่อนที่เธอปิดบังตัวตนแล้วแต่งงานกับยวี่จิ้นเหวิน ก็เพราะกลัวว่าพวกเขาจะไม่ตกลง
"ในเมื่อเธอเป็นลูกสาวตระกูลหนาน ทำไมต้องแต่งเข้าตระกูลยวี่ของเรา? เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?"
พอคุณท่านสองพูดถึงตระกูลหนาน จึงใจเย็นไม่ได้ เพราะหนานหนิงซงเป็นรอยด่างในใจเขา เป็นหนามในใจเขามาหลายปี เผชิญกับลูกสาวของเขา จึงไม่เป็นมิตรกับหนานซ่งด้วย
"เจ้าสอง เสียงเบาหน่อย โวยวายทำไม?"
เถ้าแก่ยวี่พูดตำหนิลูกชายตัวเอง มองหนานซ่ง สีหน้าก็อ่อนโยนขึ้น "เสี่ยวซ่ง ไม่ต้องกลัว ค่อยๆพูด"
กับข้อสงสัยของนายท่านยวี่สอง หนานซ่งอยากเถียงกลับมาก แต่เถ้าแก่นายหญิงดีกับเธอมาก เป็นผู้ใหญ่ที่เธอเคารพ เธอจึงไม่เสียมารยาทต่อหน้าพวกท่าน
เสียงเธอนุ่มนวลขึ้น แล้วอธิบายง่ายๆว่า "หนูรู้ว่าทั้งสองตระกูลเป็นคู่แข่งกัน แล้วเคยแข่งขันกันทางธุรกิจมาไม่น้อย สุดท้ายก็สงบศึก แล้วใช้แม่น้ำหลานแบ่งเขตการค้า ตระกูลยวี่ครองทางเหนือ ตระกูลหนานครองทางใต้ แล้วไม่ก้าวก่ายกันอีก"
หนานซ่งเห็นเถ้าแก่พยักหน้า จึงเอ่ยต่อว่า "สามปีก่อนคุณพ่อคุณแม่ของหนูเสีย หนูได้รับคำสั่งอย่างกะทันหัน ให้รับช่วงบริษัทตระกูลหนาน แต่เพราะความขัดแย้งในตระกูล หนูจึงถอยออกมาก่อน กี่ปีนี้บริษัทตระกูลหนานอยู่ในมือของอาสองแล้วก็อาสาม บริษัทขาดทุน จนเกือบจะล้มละลาย ถ้าน้าสองสงสัยว่าที่หนูแต่งเข้าตระกูลยวี่มีจุดประสงค์อื่น ก็สมเหตุสมผล แต่ว่าถ้าหนูคิดไม่ดีจริง จะปล่อยให้บริษัทตระกูลหนานซบเซาขนาดนี้ได้ยังไงคะ? สามปีที่ผ่านมา หนูอยู่ตระกูลยวี่อย่างสงบปากสงบคำ ไม่เชื่อลองถามอาจิ้นได้ค่ะ"
สายตาของเธอมองไปทางยวี่จิ้นเหวิน ยวี่จิ้นเหวินกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ พอได้ยินคำว่า"อาจิ้น"ที่ไม่ได้ยินมานาน จึงเงยหน้าขึ้น แล้วตกใจกับสายตาที่เย็นชาของเธอ
ไม่รอให้เขาตั้งสติได้ก่อน หนานซ่งก็หันกลับไปแล้ว เหมือนสายตาเมื่อกี้เป็นแค่มองมาทางเขาอย่างไม่ใส่ใจ
เผชิญกับสายตาของคนทั้งตระกูล ยวี่จิ้นเหวินตอบ"อื้อ"เสียงเบา ถือว่าเป็นพยานให้หนานซ่ง
แต่ความจริง ตั้งแต่วันที่หนานซ่งไปจากตระกูลยวี่โดยที่ไม่เอาอะไรไปเลย เขาก็เคยสงสัยเธอ ทำไมถึงมีผู้หญิงที่ไม่เอาเงินสิบล้านล่ะ?
แล้วเธอก็เป็นแม่ศรีเรือนในบ้านมาสามปี ไม่มีงานของตัวเอง
ไม่เธอมีศักดิ์ศรีจริง ก็คือเธอไม่ขาดเงินนี้จริงๆ
แต่ดูจากตอนนี้ หนานซ่งเข้าข่ายทั้งสองทาง
เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหนาน เติบโตมาอย่างสุขสบาย ต้องมีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว แล้วไม่ขาดเงินด้วย ไม่งั้นจะทุ่มเงินหลายพันล้านพยุงบริษัทตระกูลหนานให้กลับมาได้ยังไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...
เนื้อเรื่องมี3-4ประโยค...เหมือนติดเหรียญ😂😂😂...