ก็แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แทรกเข้ามา ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากมายต่ออารมณ์ของหนานซ่ง
นิตยสารจุดศูนย์ที่เป็นผู้จัดงานแฟชั่นการกุศลในคืนนี้ ใช้โรงแรมตี้เหาในการจัดงาน นิตยสารจุดศูนย์เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแฟชั่นในประเทศ คุณสมบัติและระดับของผู้เข้าร่วมงานจึงค่อนข้างสูง เหล่าดาราศิลปินต่างก็ทำทุกอย่างเพื่อการ์ดเชิญสักใบ
หนานซ่งมีการ์ดเชิญ แต่ว่าเธอไม่ได้เอามา เลยโดนไป๋ลู่ยวี๋พาเข้าไปด้านใน พอเข้าไปด้านในงานจึงดึงดูดสายตาจองผู้คนได้จำนวนมาก
พิธีกรกำลังสัมภาษณ์ดาราอยู่บริเวณพรมแดง เหล่าดาราต่างก็พากันยิ้มและพูดคุยให้กล้อง พออยู่หน้ากล้องจนพอใจแล้วก็เดินไปที่ฉากที่ทางงานจัดไว้ให้ ไปลงชื่อแล้วก็โพสต์ท่าถ่ายรูป ส่วนหนานซ่งกลับเดินอ้อมพรมแดงไปในทันที เจอเข้ากับปากกาที่ถูกยื่นมาให้ ก็โบกมือเพื่อปฏิเสธ
บรรดานักข่าวเห็นผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งดูราศีจับขนาดนี้ ต่างก็พากันคาดเดาว่าเป็นลูกสาวของตระกูลดังตระกูลไหนสักตระกูล ต่างก็พากันยกกล้องขึ้นจะถ่ายภาพของหนานซ่ง แต่ก็ได้โดนบอดี้การ์ดยกมือขึ้นมาบังไว้
หนานซ่งหันหลังให้กับกล้อง ยืนรอให้ไป๋ชีเซ็นชื่อให้เรียบร้อยอยู่ข้าง ๆ ฉาก แล้วถามขึ้น: "แน่ใจนะว่ามีถ้วยเคลือบลายกุหลาบจริง ๆ นายไม่ได้หลอกฉันใช่ไหม?"
ไป๋ชีส่งปากกาให้กับพนักงานต้อนรับสาว โอบไหล่ของหนานซ่งเบา ๆ แล้วพาเธอเดินเข้าไปด้านใน แล้วก็พูดไปด้วย: "ฉันเคยหลอกเธอด้วยหรือไง? ไปเถอะ จะพาเธอไปดูก่อนว่าที่ด้านหลังมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนพี่ชายจะจ่ายให้เธอเอง"
ยังไม่ทันจะได้เห็นด้านหลังที่จัดงาน ก็ได้เจอกับบรรณาธิการของนิตยสารจุดศูนย์เข้าเสียก่อน ไป๋ชีอ้าแขนเข้าไปกอดทักทาย "Hi เจ้าแม่ยียี!"
เจ้าแม่ยียีกอดกับเขาอยู่แป๊บหนึ่ง จากนั้นก็ตีลงไปบนหลังเขา "ไม่มีมารยาทเลย เรียกว่าคุณอาสิ!"
ไป๋ชียังคงกวนเธอต่อ "ผมไม่ใช่หยางกั้วเสียหน่อย ทำไมต้องเรียกว่าอาด้วย"
เจ้าแม่ยียีตีเขาอีกครั้ง จากนั้นค่อยหันไปกอดกับหนานซ่ง "เสี่ยวซ่ง ไม่เจอกันนานเลย สบายดีรึเปล่า?"
"สบายดีค่ะ เจ้าแม่ยียีดูสาวขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะคะ"
เจ้าแม่ยียีชี้หน้าเด็กซนทั้งสองคน "พวกเธอนี่ พยายามจะทำให้ฉันโมโหสินะ"
ไป๋ลู่ยวี๋กับหนานซ่งเผยรอยยิ้มเด็กน้อยออกมา
เจ้าแม่ยียีบรรณาธิการของนิตยสารจุดศูนย์ มีชื่อจีนว่าไป๋ยีถิง เป็นอาแท้ ๆ ของไป๋ลู่ยวี๋ แล้วก็เป็นคนที่เห็นหนานซ่งมาตั้งแต่ยังเล็ก ก็เลยค่อนข้างสนิทกัน เลยไม่ได้เรียกว่าคุณอา และชอบเรียกชื่อในวการของเธอ
หนานซ่งไม่ค่อยจะออกงานสาธารณะแบบนี้ ที่มาในครั้งนี้หนึ่งเพราะถ้วยเคลือบลายกุหลาบ สองเพราะเห็นแก่หน้าไป๋ยีถิง
ไป๋ลู่ยวี๋มาแล้วทั้งที ไป๋ยีถิงจึงไม่มีทางปล่อยเขาไปง่าย ๆ เลยพาเขาไปแนะนำตัวกับพวกผู้ใหญ่คนอื่น ๆ หนานซ่งเลยใช้สายตาอำลาเขาด้วยความสนุกสนาน อยู่คนเดียวก็สบายดี เธอเดินเอื่อย ๆ ไปที่บาร์
ในงานเริ่มมีเข้ามาจำนวนไม่น้อยแล้ว พวกเขารวมกลุ่มกันพูดคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่หนานซ่งก็ยังเดินและมองไปด้านหน้าอย่างเดียวเท่านั้น แม้ว่าด้านหลังจะมีเสียงรบกวนมากมายดังขึ้น แต่ว่าเธอก็แค่หันไปมองอย่างไม่อนาทรร้อนใจ แต่เมื่อได้เห็นเงาที่คุ้นเคย ฝีเท้าของเธอก็หยุดลงทันที
และเหมือนรับรู้ได้ เพราะเงานั้นก็หันมามองที่เธอเช่นกัน ผ่านร่างกายมากมายที่กำลังคลื่นไหว ผ่านเสียงกรีดร้องมากมายที่กำลังดังอยู่ สายตานั้นประสานเข้ากับสายตาของเธอไม่ว่อกแว่กไปไหน
หนานซ่งราวกับโดนสายตาเย็นชาคมกริบจากพื้นที่ห่างไกลแช่แข็งเอาไว้ หัวใจของเธอเกิดสั่นระรัว คิ้วขมวดเข้าหากัน
ยวี่จิ้นเหวิน เขามาได้ยังไง?
พอหันไปมองคนที่อยู่ข้างเขา คนที่เดินไปแล้วก็จีบสาวไปด้วย ช่วงเวลาความรักของฟู่ยวี่ แล้วคำตอบก็ได้ปรากฏในบัดดล
ในงานมีเสียงดนตรีจากเปียโน ยวี่จิ้นเหวินก้าวเดินมาอย่างมั่นคง ผ่านผู้คนมากมายมาหยุดลงตรงหน้าของหนานซ่ง ใบหน้านั้นยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิม ท่าทางหนักแน่น แล้วก็ไม่หวั่นเกรงอะไรง่าย ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างคือสิ่งที่คุ้นเคย
คุ้นเคยจนถึงขนาดที่ว่า แม้แต่ความรู้สึกเย็นชาที่ถูกส่งผ่านมาจากเขา ทำให้หนานซ่งรู้สึกว่าพวกเธอยังเป็นสามีภรรยา พวกเขายังไม่มีความรู้สึกอึดอัดหลังจากที่หย่ากันไป
ถ้าเกิดว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ในงานเลี้ยง ตามปกติแล้วคงจะเป็นเธอที่เป็นคนเริ่มหัวข้อสนทนา ใช้น้ำเสียงสดใสต้อนรับเขากลับบ้าน "กลับมาแล้วเหรอคะ?"
สิ่งที่ตอบเธอกลับมา บางครั้งก็คือความเงียบ บางครั้งก็คือคำว่า "อืม" ที่สุดแสนจะเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...
น่าจะตอบโต้ด้วยการขุดประวัติมาประจานนังโจ๋นะ...
เนื้อเรื่องมี3-4ประโยค...เหมือนติดเหรียญ😂😂😂...