บทที่378 กัปตันเหยียนฟื้นแล้ว – ตอนที่ต้องอ่านของ สอนรักอดีตภรรยา
ตอนนี้ของ สอนรักอดีตภรรยา โดย ลู่เสี่ยวเช่อ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่378 กัปตันเหยียนฟื้นแล้ว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังจากที่ได้อาบน้ำอุ่น ก็เหมือนได้ชำระล้างความเหนื่อยล้าออกไปด้วย รูขุมขนบนตัวของเธอเปิดกว้าง
หนานซ่งเช็ดผมไปด้วยระหว่างที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ปากของเธอยังฮัมเพลงแต่ไม่ตรงคีย์ ส่วนตัวเธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นร้องได้ดีพอสมควร ก็เลยหลงอยู่ในดนตรีของตัวเอง
"ที่ภูเขาลูกนั้น ที่ผืนน้ำที่กว้างใหญ่ มีจิตวิญญาณที่สดใส พวกเขาแข็งแกร่งและฉลาด พวกเขาเล่นซนและรวดเร็ว......"
และในตอนที่กำลังร้องเพลงอยู่ พี่ใหญ่ก็โทรมา
พอกดรับสายแล้ว น้ำเสียงไร้อารมณ์ของลั่วจวินหังก็ดังขึ้น "คนอื่นเขาร้องเพลงเพราะอยากได้เงิน เธอร้องเพลงเพราะอยากฆ่าคน"
"อะไร พี่แอบดูวิดีโอเหรอ?"
"......"
ดูคลิปผีน่ะสิไม่ว่า
ลั่วจวินหังนวดขมับของตัวเอง จากนั้นก็มองไปทางเหยียนยวน พูดออกมาแบบไม่กลัวจะทำร้ายจิตใจน้องสาวของตัวเองด้วย "เสียงร้องเพลงของเธอ เกือบจะฆ่าเหยียนยวนไปแล้ว"
"หา? ร้ายแรงขนาดนั้นเลย?"
หนานซ่งหยุดเช็ดผมในทันที "อย่างนั้นเขา......ยังมีชีวิตอยู่ไหม?"
"ตอนนี้ยังคงอยู่บนโลก"
ถึงแม้ว่าภาษาจีนของลั่วจวินหังจะไม่ดีมากนัก แต่ว่าเขาชอบพูดให้คำคล้องจอง เพราะรู้สึกว่ามันดูสุขุมดี "ก็แค่มีขยับนิ้วบ้าง"
หนานซ่งถอนหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นก็เช็ดผมต่อ "อย่างนั้นก็ดีแล้ว"
ลองคิด ๆ เธอก็พูดขึ้น: "ไม่อย่างนั้น ให้ฉันร้องให้เขาฟังอีกสักเพลงดีไหม? หนามยอกต้องเอาหนามบ่งไง?"
"อย่าเลยเถอะ"
ลั่วจวินหังตอบโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิด เขาปฏิเสธออกมาในทันที "ฉันกลัวเขาไม่ทันฟื้น ฉันก็ตายไปก่อนแล้ว"
"......"
หนานซ่งโดนพี่ใหญ่พูดหยอกจนอารมณ์ดี "ฉันร้องแย่ขนาดนั้นเลยหรือไง?"
ลั่วจวินหังหัวเราะ "ใช่"
ก็ได้ คุณมันเป็นพี่ใหญ่ คุณพูดว่าใช่ อย่างนั้นก็ใช่ก็ได้
แต่ยังไงก็ห้ามความชอบในการร้องเพลงของเธอไม่ได้อยู่ดี
หนานซ่งทำเสียง "หึ"
เธอมัดผมของตัวเองขึ้น จากนั้นก็วางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เปิดลำโพง ระหว่างนั้นก็เธอเซรั่มไปด้วยแล้วก็คุยกับพี่ใหญ่ไปด้วย
"นิ้วมีการขยับบ้างเล็กน้อย หมายความว่าร่างกายของเขายังรู้สึกตัว ดูเหมือนว่าเขาใกล้จะฟื้นแล้ว ไม่ต้องกังวลหรอก"
ลั่วจวินหัง: "อืม"
หนานซ่งพูดต่อ: "ถ้าว่างก็คุยกับเขาเยอะ ๆ หน่อย ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียงดังจนทำให้เขาตื่น ขอแค่ไม่ใช่เสียงที่ดังมาก ๆ ก็ไม่มีทางทำให้เขาตกใจตื่นได้ กัปตันเหยียนยวนไม่ใช่คนขี้กลัว"
"ขี้กลัวจะตาย" ลั่วจวินหังพูด
หนานซ่ง: "หืม?"
เธอได้ยินไม่ชัด ก็เลยหยุดทุกการกระทำของตัวเอง
ลั่วจวินหังบอก: "เขากลัวแมลง"
หนานซ่งชะงักไป ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ "กัปตันเหยียนยวน กลัวแมลง?"
"อืม"
ลั่วจวินหังวางโทรศัพท์เอาไว้บนเตียง ก็เลยตัดสินใจเปิดลำโพงด้วยเหมือนกัน ทำการนินทาคนนั้นต่อหน้าเขาเลย "แมลงทุกชนิด เขากลัวหมด"
"นึกไม่ถึงเลยนะเนี่ย ว่ากัปตันเหยียนยวนกลัวแมลง"
หนานซ่งนึกถึงใบหน้าที่นิ่งและสุขุมของเหยียนยวน ไหนจะส่วนสูงที่แทบจะเสียดฟ้านั่นของเขา คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าเขาจะกลัวแมลงจนกระโดดตัวโยน
"อย่างนั้น แต่ก่อนที่พวกพี่ไปออกค่ายในป่าทำยังไงกันล่ะ?"
หนานซ่งถามอย่างสนใจ "สิ่งที่ในป่าต้องมีแน่ ๆ คือแมลงนี่ อย่างนั้นเขาไม่กลัวจนหัวใจวายตายไปเลยเหรอ"
ลั่วจวินหัง: "ปกติเขาก็แค่ขุดหลุม แล้วก็มุดตัวเข้าไปในนั้น"
พี่ใหญ่พูดออกมาด้วยจังหวะเอื่อย ๆ แต่กลับมีน้ำเสียงเย็นชา ทำให้หนานซ่งรู้สึกตลกจนต้องหัวเราะออกมา จนความเครียดที่เธอมีนั้นค่อย ๆ สลายไป
รอบตัวพี่ชายและน้องสาวไม่มีใครอยู่ด้วย ก็เลยมีการถามไปตอบมาและไม่ตอบบ้างในบางคำถาม
ลั่วจวินหัวถามเธอ "วันนี้เป็นยังไงบ้าง? โดนใครเบ่งใส่บ้างไหม?"
"นี่คุณจวินหังรู้จักคำว่าเบ่งด้วยเหรอคะเนี่ย"
หนานซ่งรู้สึกว่าภาษาจีนของพี่ใหญ่นั้นดูจะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว คำพูดที่คนใช้กันบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันหลุดออกมาจากปากเขาจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
"ฉันใคร ฉันเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลหนานเชียวนะ ถ้าฉันไปข่มขู่เขาน่ะสิถึงจะใช่"
หนานซ่งเช็ดผมของตัวเองต่อ จากนั้นก็พูดขึ้น: "วันนี้ในที่ประชุมใหญ่ ฉันน่ะจัดการได้อยู่หมัดเลยนะ"
เหยียนยวนขยับริมฝีปากขาวซีด จากนั้นก็หัวเราะแบบไร้เสียง
ซูรุ่ยเข้าใจได้ในทันที: "ฉันก็ว่าทำไมอยู่ ๆ เขาถึงฟื้นขึ้นมาได้ ที่แท้ก็เพราะตกใจตื่นนี่เอง"
เหล่าพี่ชายหัวเราะออกมาเสียงดัง ไป๋ลู่ยวี๋หัวเราะจนโทรศัพท์เกือบจะหลุดออกจากมือ
หนานซ่งทำหน้าโมโหในทันที
เธอขี้เกียจจะสนใจพวกพี่ชายที่ไม่เอาถ่านพวกนี้ จากนั้นก็พูดเหยียนยวน: "เสียงของฉันมีแค่กัปตันเหยียนนี่แหละที่จะได้ฟัง เดี๋ยวฉันจะร้องให้คุณฟังอีกนะ คุณดูแลตัวเองดี ๆ นะ เดี๋ยวมีเวลาว่างฉันจะกลับไปเยี่ยมคุณ"
เหยียนยวนพยักหน้าเบา ๆ
คุยกันมาครู่ใหญ่ เหยียนยวนเองก็เริ่มเหนื่อยแล้ว
จี้อวิ๋นบอกแล้วว่าผู้ป่วยจะต้องพักผ่อนเยอะ ๆ ก็เลยรีบไล่ให้ทุกคนออกไปจากห้อง ไป๋ลู่ยวี๋เองก็วางสายแล้วเหมือนกัน
แต่หนานซ่งกลับยืนนิ่งอยู่ข้างโซฟา ไม่ขยับตัวไปไหนอยู่ครู่ใหญ่ สายตาของเธอมองไปที่จุดจุดหนึ่ง เหมือนคนเหม่อลอย
จนกระทั่งไป๋ลู่ยวี๋ดีดนิ้วตรงหน้าเธอ "เหม่ออะไรน่ะ?"
หนานซ่งได้สติกลับมา เธอมีท่าทีตกใจอยู่เล็กน้อย
ไป๋ลู่ยวี๋มองสีหน้าของเธอ "คิดถึงไอ้ยวี่อีกแล้วเหรอ?"
หนานซ่งเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไรออกมา จากนั้นเปลี่ยนจากรองเท้าส้นสูงเป็นสลิปเปอร์ แล้วเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นก็หันไปพูดกับไป๋ลู่ยวี๋: "อยู่ที่นี่ไปก็เบื่อ นายกลับไปที่เมืองหนานเถอะ งานของฉันไม่เสร็จเร็ว ๆ นี้หรอก"
เธอเพิ่งจะมาที่บริษัทยวี่กรุ๊ป มีเรื่องมากมายให้จัดการ จนตัวเธอนั้นเหนื่อยจนตัวแทบจะขาดเป็นสองท่อน
"ไม่ต้องกลับไปแล้ว"
ไป๋ลู่ยวี๋บอกออกมา: "พี่ใหญ่รอดูอาการของพี่เหยียนอีกสักสองสามวัน ถ้าเกิดอาการคงที่แล้วพี่ใหญ่จะย้ายเขาไปโรงพยาบาลอื่น"
หนานซ่งเงยหน้าขึ้นไปมอง "ย้ายโรงพยาบาล?"
"ใช่ ย้ายมาเมืองเป่ย"
ไป๋ลู่ยวี๋บอก: "พี่รุ่ยบอกว่าเรื่องกายภาพบำบัดหลังจากนี้ เปลี่ยนมารักษาที่คลินิกแพทย์แผนจีนซูฉือที่เมืองเป่ยดีกว่า อุปกรณ์การแพทย์ของที่นี่ครบกว่า ตอนที่พี่เขาไม่มีเวลา พวกอวิ๋นชิงจะได้มาช่วยดูแลด้วย"
หนานซ่งพยักหน้า ถึงตอนนั้นเธออาจจะได้หาเวลาไปเยี่ยมเขาสักหน่อย
"น้องหก"
อยู่ ๆ ไป๋ลู่ยวี๋พูดออกมา หนานซ่งเงยหน้าขึ้น "ทำไมเหรอ?"
"เธอน่ะ ยังรับเรื่องที่ยวี่จิ้นเหวินจากไปแล้วไม่ได้ใช่ไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...