สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 395

(ดั่งดอกไม้สองพิภพ) ที่หนานซ่งกับซูอิงถ่ายด้วยกัน กำหนดฉายก่อนวันตรุษจีน

ผู้กำกับหลินเจวี๋ยนำทีมผู้จัดไปร่วมงานฉายครั้งแรก หนานซ่งที่เป็นนักแสดงนำ ก็ต้องเข้าร่วมด้วยอยู่แล้ว

การสร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง นักแสดงรับผิดชอบแค่ส่วนถ่ายทำ ฉากต่างๆ แต่กว่าจะเป็นผลงานที่สมบูรณ์แบบยังต้องทุ่มแรงอีกเยอะ

ก่อนหน้านั้นเคยดูฉบับสมบูรณ์แล้ว แต่ตอนที่เห็นใบหน้าตัวเองฉายบนโรงหนัง ความรู้สึกแบบนี้ทั้งแปลกทั้งตื่นเต้น

เหมือนกับว่า ใบหน้าที่คุ้นเคยแล้วแปลกตานี้ เหมือนอยู่ในชีวิตอีกโลกหนึ่ง

ในหัวหนานซ่ง มีคำว่า"โลกคู่ขนาน"แว็บเข้ามาอีกแล้ว

ตอนนั้นที่ได้ยินเหยียนยวนพูดถึง"โลกคู่ขนาน" มีวินาทีหนึ่งที่เธอสงสัย แต่ความหวังที่อยากให้พ่อแม่มีชีวิตอยู่นั้นมากเกินไป จึงกลายเป็นความหวังอย่างหนึ่ง ไม่ใช่แค่โลกคู่ขนาน แม้แต่เกิดใหม่ ย้อนกลับไปในอดีต เธอก็ยอมรับได้หมด ขอแค่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ก็พอ

แต่ตอนนี้ เธอเริ่มคิดทบทวนใหม่แล้ว

โลกคู่ขนาน มีอยู่จริงเหรอ?

คุณพ่อคุณแม่ ยังมีชีวิตอยู่อีกโลก เหมือนที่เฉียวเหลิ่งพูดจริงเหรอ?

"วู่……"

เสียงอุทานของคนในโรงหนังดึงสติหนานซ่งกลับมา เธอตั้งสติดู เป็นฉากที่เธอกำลังสู้กับอาจารย์เยี่ย

ตอนที่สู้กัน แต่ละหมัดสมจริงมาก ฝีมืออาจารย์เยี่ยเก่งมาก แล้วเธอก็เป็นแค่ศิษย์

แต่เพราะถ่ายภาพยนตร์ ไม่เหมือนกับต่อสู้จริง อาจารย์เยี่ยก็ให้ความร่วมมือสุดความสามารถในกระบวนท่าที่สวยงาม

ช่างกล้องจับภาพเก่งมาก บวกกับแสงสีเสียงที่แต่งเติม ฉากที่ถ่ายออกมาถึงให้ความรู้สึกมากกว่าที่คิดไว้ จนเธอก็เริ่มตื่นเต้นแล้ว

"ว้าว!"

เสียงอุทานอีกรอบ ในฉากเธอโดนอาจารย์เยี่ยเตะกระเด็นติดกำแพง จากนั้นจึงกลิ้งกลับมา แล้วเตะอาจารย์เยี่ยกระเด็น

เธอเหมือนเป็นลูกบอลอย่างนั้น ที่โดนอาจารย์เยี่ยเตะไปเตะมา

ตอนที่ถ่ายเธอเองก็กลิ้งไปมาที่พื้น แล้วยังโชว์ปลาตวัดหาง จนคนทั้งกองถ่ายหลุดขำ

แต่ฉากในภาพยนตร์กลับทำให้คนอื่นขำไม่ออก

เพราะภาพเหตุการณ์เธอย่ำแย่มาก โดนเตะจนกระอักเลือด ในตู้กระจกที่อยู่ไม่ไกลมาก ซูอิงที่แสดงเป็นพี่สาวก็เอาแต่กรีดร้อง

"หยุด หยุดเดี๋ยวนี้……อย่าทำลายน้องฉัน! อย่าทำลายน้องฉัน!"

การแสดงของซูอิงยิ่งไม่ต้องพูดถึง ความเจ็บปวด โกรธแค้นแล้วก็สิ้นหวังนั้น เสริมเข้าด้วยบทพูดที่ทำให้คล้อยตาม ยิ่งทำให้คนดูสั่นเกร็ง

น้องสาวใกล้จะตายแล้ว

หนานซ่งมองตัวเองบนจอภาพ ล้มอยู่ที่พื้นที่หายใจอย่างยากลำบาก รู้สึกแค่ว่าตัวแข็งทื่อ

จำได้ว่าตอนที่ถ่ายฉากนี้ ผู้กำกับเดินมาอธิบายบท หลินเจวี๋ยถามเธอ "เธอเคยรู้สึก เหมือนมีชั่ววินาทีที่ตัวเองจะตายหรือเปล่า?"

หนานซ่งตอบเขา "เคยค่ะ"

โดนลักพาตัวตอนอายุสิบสี่ เธอโดนขังไว้ในกรงเล็กๆ เหมือนหมาแมวที่ใกล้จะตาย แล้วโดนเจาะเลือดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เธอหักโครงเหล็กทุกเส้นจนเบี้ยว จนมือมีแต่เลือด ข้อมือก็บวมแดง แต่ก็หนีออกไปไม่ได้

ความสิ้นหวังที่ไม่ว่าจะตะโกนขอความช่วยเหลือเท่าไหร่ก็ไม่มีใครตอบ ค่อยๆกลืนกินเธอ

ตอนนั้น ในหัวเธอมีประโยคโด่งดังในหนังสือ (แฮมเลต) ของเชกสเปียร์

"จะรอดหรือจะตาย? นี่เป็นอีกปัญหาหนึ่ง"

ในภาพยนตร์ ในปากน้องสาวที่ล้มอยู่ที่พื้นมีแต่เลือด ปากก็ยังพึมพำ เสียงคลอเบาๆก็เล็ดลอดออกมา

ทุกคนตั้งใจฟัง แล้วพากันนั่งตัวตรง ในจอภาพมีประโยคภาษาจีนกับอังกฤษปรากฏขึ้น "จะรอดหรือจะตาย? นี่เป็นอีกปัญหาหนึ่ง"

อย่างไหนสูงส่งมากกว่ากัน? ยอมรับการทำลายจากโชคดีที่บ้าบอ หรือว่าลุกขึ้นสู้กับปัญหาที่ไม่จบไม่สิ้น?

"กวาดล้างมันให้สะอาด!"

เสียงของน้องสาวที่เบามาก เริ่มมีพลังมากขึ้น มือทั้งสองข้างจับพื้นดินไว้แน่น จนเห็นเส้นเลือดชัดเจน จนเลือดซึมออกมาจากเล็บ……

ลุกขึ้นมาแล้ว! เธอลุกขึ้นมาแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา