ยวี่จิ้นเหวินจับก้นของหนานซ่ง และกอดเธอเหมือนเด็กอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อได้ยินในน้ำเสียงมีความเสียใจกับความอาลัยอาวรณ์ของเธอ เขารู้สึกเพียงว่าหัวใจอ่อนลงกลายเป็นสระน้ำฤดูใบไม้ผลิ และความรู้สึกของความปรารถนาเวลาหลายวันได้กลับมาอีกครั้งแล้ว
เขาลูบศีรษะเธอ และพูดอย่างอบอุ่นว่า "มา ให้ผมจูบคุณหน่อย"
หนานซ่งนั่งตัวตรงในอ้อมแขนของเขา และทั้งสองคนก็เข้ามาจูบกัน โดยไม่สนใจเสียงโห่บวกกับความหมั่นไส้ของผู้คนที่อยู่ข้างหลัง
หมั่นไส้ก็หมั่นไส้ แต่ใบหน้าทุกคนยังคงยิ้มอยู่ รู้ว่าพวกเขาไม่ได้เจอกันมาหลายวัน ข้าวใหม่ปลามันอะนะ
เปลี่ยนมาเป็นพวกเขา ไม่ได้เจอภรรยามาหลายวัน และก็จูบกันมากกว่าสองคนนี้เสียอีก
เมื่อจี้อวิ๋นกับไป๋ลู่ยวี๋เห็นว่ายวี่จิ้นเหวินกลับมาแล้ว ยังคงโห่ร้องขึ้น "ทหารพิเศษหมายเลข2กลับมาแล้ว เร็วเข้า ตรวจสมรรถภาพทางกายให้เขา!"
ลั่วอินมองไปที่ลูกชายงี่เง่าทั้งสองคนโดยไม่พูดอะไร ทั้งๆ คะแนนของตัวเองไม่ดี ยังไปคะยั้นคะยอคนอื่นตลอด
หนานซ่งลงมาจากแขนของยวี่จิ้นเหวิน มองดูเขาอย่างเป็นห่วง "คุณเหนื่อยไหม? พรุ่งนี้ค่อยตรวจเถอะ ไม่ได้รีบร้อนอะไร”
"ไม่เป็นไร ผมไม่เหนื่อย ตลอดทางกลับได้นอนบนเครื่องบินแล้ว”
ยวี่จิ้นเหวินสัมผัสไปที่ใบหน้าของเธออย่างปลอบโยน จากนั้นจับมือเธอและเดินไปหาครอบครัว ทักทายพวกเขาทีละคน จากนั้นมองไปที่จี้อวิ๋นกับไป๋ลู่ยวี๋ “พี่สี่ น้องเล็ก อาจทำให้พวกนายผิดหวังแล้ว เกรดของฉันไม่ว่าจะแย่แค่ไหน ก็ไม่มีทางที่เป็นเบี้ยล่างให้พวกนายได้”
ในประโยคเดียว เส้นประสาทที่ละเอียดอ่อนของจี้อวิ๋นและไป๋ลู่ยวี๋ได้ถูกแทงในชั่วขณะ
“ใคร อยากให้นายเป็นเบี้ยล่างล่ะ? นายเป็นถึงทหารหน่วยรบพิเศษ จะเป็นเบี้ยล่างได้อย่างไร?”
“ใช่ๆ ล้อเล่นน่า! ผมกับพี่สี่เป็นคนที่ต้องการให้ผู้อื่นมาเป็นเบี้ยล่างให้กับพวกเราเหรอ? เรามักจะเอาตัวเองเป็นเบี้ยล่างให้กับตัวเอง”
"......"จี้อวิ๋นมองไปที่ไป๋ลู่ยวี๋ ด้วยท่าทางที่หมดคำพูด “นายรีบหุบปากเถอะ หยุดพูดได้แล้ว!"
คนในครอบครัวได้ถูกเจ้าทะเล้นสองคนนี้ทำให้ต้องพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
ยวี่จิ้นเหวินมองไปที่รายการทดสอบพื้นฐาน โดยพื้นฐานแล้วทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาเคยทำในกองทัพมาก่อน และไม่ได้มีเนื้อหาทางเทคนิคอะไรมากนัก เขาวิ่งไปรอบๆ สนามฝึกวอร์มร่างกายให้อบอุ่นก่อน เมื่อร่างกายร้อนขึ้นแล้ว จึงได้ถอดแจ็กเกตออก
สนามฝึกซ้อมไม่เปิดเครื่องปรับอากาศกลับไม่หนาวเลยสักนิด เขาถอดแจ็กเกตออก เหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวอยู่บนร่างกาย
เส้นของกล้ามเนื้อที่สวยงามได้แสดงออกมาในแบบนี้ และยังสามารถมองเห็นเส้นกระดูกเชิงกรานจากด้านข้าง
ก่อนที่หนานซ่งลั่วโยวและผู้หญิงคนอื่นๆ ได้สามารถแสดงความคิดเห็น จี้อวิ๋นและไป๋ลู่ยวี๋เบิกตากว้าง และอดที่จะเดินไป 'รวบหัวรวบหาง' ไม่ได้ แล้วในปากยังพูดว่า "อุ๊ยๆ" "อุ๊ยโย่" "พระเจ้า" ใบหน้าทั้งสองเหมือนกับไม่เคยเห็นโลกอย่างไรอย่างนั้น
“พี่ยวี่ รูปร่างพี่นี่ไม่เลวเลย” ไป๋ลู่ยวี๋เคยเห็นคนที่มีเส้นเอ็นจำนวนมาก แต่มีความเกินจริงเกินไป พวกเขามองดูต่างรู้สึกขยะแขยงมาก เส้นกล้ามเนื้อของยวี่จิ้นเหวินดูแล้วไม่หนาเกินไป เหมือนมีดปลอกออกมา ช่างสะอาดสะอ้านมาก
จี้อวิ๋นสัมผัสมัน และพูดยกย่องว่า "น้องหกช่างโชคดีจริงๆ เนาะ"
ใบหน้าของหนานซ่งไม่ดำ เพียงแค่มองไปทางเฉิงเซี่ยน ไม่แปลกใจเลย ใบหน้าของพี่เฉิงหมองลง "น้องสี่"
ด้วยเสียงทุ้มต่ำ ทำให้จี้อวิ๋นเหมือนได้ตื่นจากความฝัน ดึงมือออกอย่างรวดเร็วเหมือนโดนแมวกัด และหันศีรษะไปมองเฉิงเซี่ยนอย่างเขินอาย
“ฉัน ฉันแค่แปลกใจ แค่สัมผัสเท่านั้นเอง......”
จี้อวิ๋นยิ่งอธิบายมากเท่าไหร่ยิ่งอายมากเท่านั้น เมื่อมองดูใบหน้าที่มืดหม่นของพี่ชายตัวเอง จะกล้าพูดอะไรได้อีกล่ะ และได้รีบวิ่งไปหาเขา
“พอแล้ว นายก็อย่าแตะได้แล้ว!” หนานซ่งเดินไปตีมือปลาหมึกของน้องเล็ก และพูดว่า “จับอีกจะเก็บเงิน หนึ่งครั้งหน้าหยวน”
“แค่ห้าหยวนเหรอ?” ไป๋ลู่ยวี๋ได้ยินยิ่งรู้สึกตื่นเต้นมาก "ถ้าอย่างนั้นฉันขอจับห้าร้อยหยวนก่อนแล้วกัน"
แววตาของจี้อวิ๋นก็ประกายขึ้นเช่นกัน แต่เมื่อเฉิงเซี่ยนเหลือบมองด้วยหางตา ยังคงยับยั้งความปรารถนาอันแรงกล้าไว้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...