ดวงตากลมโตรื้นไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความอ่อนแอ ก่อนจะรีบใช้ฝ่ามือปาดทิ้งอย่างรวดเร็ว ฟันคมกริบขบเม้มลงบนปากอิ่มจนเลือดแทบไหลซึม
ด้วยอารามน้อยใจคนตรงหน้าจึงทำให้บังเกิดความกล้าที่จะขึ้นเสียง
“คุณขุนพลต้องการอะไรก็บอกมาเลยค่ะ อย่ามัวพูดอ้อมค้อมอีกเลย ถ้าคุณอยากจะไปแจ้งผู้อำนวยการคุณก็ทำได้เลย เพราะช่อแก้วไม่มีสิทธิ์จะห้ามอะไร”
เด็กสาวจ้องมองเขาด้วยแววตาตัดพ้อโดยที่เขาไม่แม้แต่จะปรายตามองหล่อนสักนิด สายตาคมกริบนั้นจับจ้องไปที่ท้องถนนราวกับหล่อนเป็นอากาศ
แต่เมื่อหล่อนมองไปทางเบื้องหน้าจึงพบว่าหนทางที่กำลังมุ่งหน้าอยู่นั้นมันไม่ใช่สถานศึกษา
“คุณ...คุณขุนพล คุณจะพาช่อแก้วไปไหน”
“เธอมันรนหาที่ช่อแก้ว”
น้ำเสียงแสนเยือกเย็นแววตาคมกริบจับจ้องไปที่ท้องถนนเบื้องหน้ามันทำให้เด็กสาวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
สองข้างที่ดูรกร้างมันปราศจากผู้คน เด็กสาวหวานกลัวจนแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว หรือเขาจะทำร้ายหล่อน...
สายตาคมกริบเหลือบมองผู้หญิงข้างกายที่ตัวสั่นเทาไม่ต่างจากลูกนก หัวใจแกร่งกระตุกไหววูบด้วยความสงสาร ทั้งที่ตั้งใจจะพูดจาดีแต่เจ้าหล่อนกลับปลุกปั่นโทสะให้เดือดดาล จนเขาอยากขยี้เสียเดี๋ยวนี้
“คุณขุนพล มะ...มาผิดทางหรือเปล่าคะ”
มือบางจับชายกระโปรงของตนเองแน่นภายในอกเต็มไปด้วยความหวาดวิตกแต่กลั้นใจถามเขา
“หึ...ไม่ผิดหรอกช่อแก้ว”
รถหรูจอดใต้ต้นจามจุรียักษ์ซึ่งน่าจะอายุมากกว่าหล่อนเสียด้วยซ้ำ บรรยากาศรอบข้างมันเงียบสงัดไร้ผู้คนราวกับเขาต้องการพาหล่อนมาเฉือดทิ้ง
ใบหน้างามซีดเผือดเมื่อความหวาดกลัวทำให้สติสัมปัญชัญญะที่มีถดถอยความคิดแล่นพล่านไปเรื่อยแม้จะไม่สมเหตุสมผลก็ตาม
“คุณ...คุณขุนพลจะ จะฆ่าช่อแก้วหรือคะ แต่...แต่ช่อแก้วแค่โกหกเอง ปะ...ปล่อยให้ช่อแก้วติดคุกก็ ได้ค่ะ”
สายตาคมกริบตวัดมองมาด้วยความเยือกเย็นทำให้คำพูดที่เหลือติดอยู่ที่ลำคอระหง
หล่อนแค่โกหกและเขาก็เป็นแค่นักศึกษาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นเกี่ยวข้องเสียด้วยซ้ำทำไมเขาถึงได้ตามราวีหล่อนไม่เลิกรา ทั้งที่เขาก็ได้ทำร้ายหล่อนจนสาแก่ใจมิหน่ำซ้ำ สิ่งที่เขาได้ไปมิใช่เพียงพรหมจรรย์แต่กลับเป็นหัวใจสาว
“ติดคุก ? มันง่ายไปมั้ง”
ชายหนุ่มแทบจะหลุดขำเมื่อเด็กสาวตรงหน้าช่างไร้เดียงสายิ่งนัก แต่ทว่าใบหน้าตื่นตะหนกของหล่อนมันยิ่งปลุกปั่นความต้องการทางเพศให้ลุกฮือขึ้นอย่างไร้เหตุผล
ความจริงเขาไม่จำเป็นต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ใช่ธุระกงการใด แค่แจ้งผู้อำนวยการมันคงจะจบเรียบร้อย หากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่หล่อน เด็กน้อยผมแกละในวันวาน
“แล้ว...คุณขุนพลต้องการอะไรจากหนูอีกคะ” ในเมื่อหัวใจของหล่อนเขาก็ได้ไปแล้ว เขายังต้องการสิ่งใดจากเด็กหญิงผู้ต่ำต้อยเช่นหล่อนอีก
“ฉันยังกินเธอไม่อิ่ม”
ไม่เพียงแค่คำพูด เพราะสายตาคมกริบนั้นจับจ้องที่หน้าอกอวบของหล่อนอย่างหิวกระหาย
ใบหน้าสาวร้อนฉ่าเต็มไปด้วยความอับอายระคนอดสูแม้ร่างกายและจิตใจจะมอบให้ชายคนแรกเช่นเขาแต่หล่อนรู้ดีว่ามันไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นอีก
“ไม่ค่ะ...”
มันเป็นเสียงปฏิเสธที่เบาหวิวแทบจะเป็นเสียงกระซิบ แน่นอนว่าหล่อนเองไม่แน่ใจนักกับคำปฏิเสธ เพียงแค่สายตาคมกริบและคำพูดแสดงความต้องการปลายถันมันบวมเบ่งเสียดสีกับบราเซียร์จนปวดร้าว
กลีบสาวขมิบแน่นหากใช่เพราะการปฏิเสธแต่มันเป็นการตอบสนองทางร่างกายที่ขานรับเขาแต่เพียง ผู้เดียว
“ฉันอาจจะเมตตาเก็บความลับของเธอก็ได้นะ ช่อแก้ว”
หล่อนควรจะยิ้มยินดีที่เขาหยิบยื่นหนทางให้แต่ทำไมถึงได้รู้สึกเสมือนไม่ต่างจากผู้หญิงริมทางแม้แต่น้อย
“คุณขุนพลคงไม่คิดจะทำอะไรช่อแก้วบนรถใช่ไหมคะ”
คนฟังแสยะยิ้มร้ายกาจแต่นั่นมันยังไม่เทียบเท่ากับคำพูดที่ตามมา
“ใช่...เพราะมันแคบ”
หล่อนมองตามสายตาของเขาที่ทอดมองออกไปด้านนอกห้องโดยสารก่อนจะเบิกตากว้าง เขา...คงไม่ได้หมายถึงด้านนอกอย่างนั้นใช่หรือไม่
“รีบถอดเสื้อผ้าออกแล้วตามฉันออกมาข้างนอก”
ดวงตากลมโตที่เบิกกว้างนั้นมันรื้นไปด้วยหยาดน้ำตา จนคนที่สวมบทร้ายกาจต้องเบือนหน้าหนี
“ขะ...ข้างนอกรถหรือคะ”
หล่อนกวาดสายตามองไปบริเวณรอบ แม้มันจะเปลี่ยวไร้ผู้คนแต่ทว่ามันก็ไม่ใช่สถานที่สำหรับกิจกรรมระเริงสวาท
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนสวาท คุณครูพยาบาล