ทางด้านกู้ฉางชิง หลังจากออกมาแล้วก็เริ่มปวดบิดในท้อง
เธอนั่งยองๆอยู่ข้างถนนด้วยความปวดทรมาน ดวงตาของเธอไม่สามารถเก็บความกล้ำกลืนและเสียใจไว้ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หัวใจเจ็บปวดเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง
เธอมองไปบนถนนสองข้างทางเห็นแสงไฟนีออนส่องสว่าง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าเธอไม่มีที่ไป
เมื่อตะกี้เฟิงจิ่งเหยาพูดเรื่องแย่ๆมากมาย จนเธอไม่อยากกลับไปที่บ้านตระกูลเฟิง
แต่ที่บ้านตระกูลกู้ เธอก็ยิ่งไม่กล้ากลับไป
เธอนั่งยองๆข้างถนนอยู่นาน อาการปวดท้องยิ่งนานก็ยิ่งปวดทรมานมากขึ้น
ไม่มีวิธี เธอไม่สามารถเอาร่างกายตัวเองไปลำบากได้
ในที่สุดเธอก็เลือกที่จะกลับไปบ้านตระกูลเฟิง
เดิมทีเธอวางแผนที่จะกลับไปที่ห้องเพื่อกินยา ใครจะรู้ว่าพอเข้ามาในห้อง เธอก็ไม่สามารถอดทนได้อีก ตาทั้งสองข้างมืดลง เธอปวดจนเป็นลมล้มไป
ไม่แปลกที่เธอจะอ่อนแอ
เริ่มแรกท้องของเธอก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ยังถูกบังคับให้ดื่มเหล้าและเสียเวลาอยู่ข้างทางตั้งนาน เธอสามารถอดทนจนกลับมาได้ แต่มันเกินขีดจำกัดความอดทนของเธอ
ในเวลาเดียวกันเฟิงจิ่งเหยาก็ตามเธอกลับไปที่บ้านหลังใหม่
เขาไม่รู้ว่ากู้ฉางชิงเป็นลมหมดสติไป จึงยืนมองแสงไฟในห้องอยู่ที่สวนดอกไม้ แล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขาคิดว่าหลังจากที่กู้ฉางซินทะเลาะกับเขาแล้วจะไม่กลับมา เขาเป็นกังวลมาตลอดทาง
แต่เมื่อเขาไปถึงประตูห้อง ความกังวลก็กลับกลายเป็นความลังเล
ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้คือเขาทำผิดต่อกู้ฉางซิน และยังพูดจาไม่ดีขนาดนั้น ถ้าเข้าไปตอนนี้เธอเห็นเขาแล้วจะไม่สบอารมณ์
และตลอดทั้งชีวิตเขายังไม่เคยกล่าวขอโทษใครมาก่อน แต่ไหนแต่ไรเป็นคนอื่นที่ให้ความสำคัญกับเขามาโดยตลอด
สักพักใบหน้าของเขาก็ไม่สามารถปิดกั้นความรู้สึกขอโทษได้
หลังจากที่เรื่องยุ่งไปกันใหญ่ เขาก็วางแผนจะไปอยู่ที่ห้องหนังสือทั้งคืน
คิดๆดูแล้วรอจนถึงวันพรุ่งให้ความโกรธของผู้หญิงคนนี้ลดลงก่อน ในตอนนั้นเขาค่อยสั่งให้ชวี่ยี่ส่งของที่เธอชอบไปให้ ถือเป็นการขอโทษของเขา
คิดอย่างนั้นแล้วขาก็หันหลังและจากไป
ไม่คิดว่าเขาเพิ่งจะเดินออกมาได้สองก้าว ก็อดไม่ได้ที่จะหยุด
เพราะจู่ๆเขาก็รู้สึกว่าที่ตัวเองทำแบบนี้ เหมือนกับกลัวผู้หญิงคนนั้น
นั่นเป็นห้องของเขา ทำไมเขาต้องหลบไปอยู่ที่ห้องหนังสือ?
และในตอนแรกผู้หญิงคนนี้ไม่ได้อธิบายให้ชัดเจน ดังนั้นความเข้าใจผิดของเขาเป็นเรื่องที่แก้ไม่ได้ใช่หรอ?
เขายิ่งคิดก็ยิ่งว่ามันไม่ถูก เขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องกลัวผู้หญิงคนนั้น จึงหันกลับมาและเดินไปที่ห้อง
แต่ลืมไปว่าเขาไม่ได้ให้โอกาสกู้ฉางชิงอธิบายเลย
หลังจากที่เขามาถึงประตูห้อง เขาก็ให้กำลังใจตัวเอง เขาวางมือลงบนลูกบิดประตูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะลังเล
เขากำลังคิดว่าเข้าไปในห้องแล้วจะทักทายกู้ฉางชิงยังไง
บอกว่าเขากลับมาแล้ว?
ถ้ากู้ฉางชิงไม่สนใจเขาจะทำยังไง?
เขาคิดที่หน้าประตูอยู่นาน แต่ก็ยังไม่เจอความคิดที่ดี สุดท้ายเขาก็ไม่ได้สนใจมัน เข้าไปก่อนค่อยว่ากัน
ในขณะที่คิดเขาก็ผลักประตูเข้าไป แล้วก็อดไม่ได้ที่จะทำท่าทางเข็งๆ
เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากเข้าไปในห้องแล้ว เขาจะเห็นภาพจากด้านหลังที่กู้ฉางซินกำลังโกรธอยู่ ไม่คิดว่าจะเห็นกู้ฉางซินจะล้มหมดสติอยู่ที่พื้น
“กู้ฉางซิน!”
เขาตื่นตระหนกและอุ้มเธอขึ้นจากพื้น
ก็เห็นกู้ฉางชิงสีหน้าซีด หน้าผากของเธอมีรอยย่นและมีเหงื่อออกเต็มไปหมด
ถึงเธอจะหมดสติ แต่สีหน้าของเธอแสดงออกถึงความเจ็บปวด
เฟิงจิ่งเหยาเห็นแบบนั้นก็รีบเรียกให้พ่อบ้านเตรียมรถ เพื่อที่จะไปโรงพยาบาล จากนั้นก็พาเธอขึ้นรถไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่บ้านหลังใหญ่ก็ตื่นตระหนกเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา