และผู้ชายนั้นตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันก็ยังไม่เปลี่ยนเลย ชุดสูตรงานฝีมือ
แต่พูดถึงแล้วชุดที่มาเข้ากับหน้าตาดีๆของเขา ทำให้มองยังไงก็ไม่เบื่อเลย เหมือนกับเหล้าที่หมักมานาน ยิ่งนานยิ่งดี มองไปยิ่งนานยิ่งน่ามอง
เขามองลงไปดูผู้คนที่อยู่ด้านล่าง อย่างกับราชาในสมัยก่อน ที่ทำให้คนรู้สึกเกรงและกลัว
และคนที่อยู่ข้างเขา กู้ฉางชิง ชุดที่รัดรูปแขนสั้นสีม่วงทำให้ส่วนเว้าส่วนนูนของร่างกายเห็นออกมาชัดเจน
และกระโปรงที่เป็นกลีบๆขยับจามก้าวที่เธอเดิน อย่างกับดอกไม้ที่งอกงาม
และหน้าของเธอที่แต่งอย่างสวยงามละเอียด
ผมที่เหมือนกับเส้นไหมที่ปูอยู่บนแผ่นหลังของเธอ มีไรผมเล็กๆที่ห้อยอยู่ตามใบหน้าของเธอ
มุมปากของเธอดูยิ้มพอดี ควงเฟิงจิงเหยาแล้วเดินลงไปข้างล่างทีละก้าวทีละก้าว
สองคนนี้อีกคนหนึ่งแข็งอีกคนหนึ่งอ่อนโยน รู้สึกเหมือนกำลังพอดีเลยอย่างกับเป็นคู่กัน ทำให้คนทั้งงานรู้สึกอึ้ง
ลู่ซือยวี่ยืนอยู่ที่ตรงบางมุมในงานนี้ และทำให้ในใจเธอเกลียดกู้ฉางชิงมากขึ้นไปอีก
ลู่ซือยวี่ยืนอยู่ตรงมุมนั้น มองจ้องคนที่เธอเกลียดอย่างไม่หยุดไม่หย่อนด้วยความอิจฉาที่มีอยู่เต็มอก
ยิ่งมีคนมากมายกำลังคุยกันเรื่องพวกเขา ยิ่งทำให้ในใจเธอเกลียดกู้ฉางชิงเข้าไปอีก
"เค้าว่ากันว่าผู้หญิงที่แต่งงานใหม่กับเธอความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีกันไม่ใช่หรอ ฉันดูไม่เห็นเหมือนที่เค้าลือกันเลยนิ?"
"ก็คงจะมีคนลือไปเรื่อยล่ะมั้ง คงจะเป็นช่วงนี้อาการมันดีขึ้น แล้วหน้าตาของคุณหนูกู้คนนั้นก็สวยใช่ย่อย ประธานเฟิงก็คงมีหวั่นใจบ้างแหละ"
"ใช่สิ ถึงแม้จะมีข่าวว่าตระกูลกู้นิสัยไม่ค่อยดี แต่หน้าตาเนี่ย ดูดีมากทีเดียวเลยล่ะ"
ลู่ซือยวี่ยิ่งฟังยิ่งแค้น แต่แค่วิเดียวเท่านั้น เธอก็เก็บหน้าตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของเธอไว้
และเธอก็ถือแก้วไวน์ที่วางไว้ข้างๆถือขึ้นมา ทำหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เดินตรงไปที่เฟิงจิงเหยา
"พี่ชายจิงเหยาคะ"
ภายใต้สายตาเธอเต็มไปด้วยความรักใคร่
แต่เฟิงจิงเหยาเย็นชา ไม่สนใจเธอด้วยซ้ำไป
ลูซือยวี่เห็นแบบนี้ ทรมานจนกัดที่ริมฝีปากเธอ เธอกวาดตาไปไกลมองที่กู้ฉางชิง และหาเรื่องเปิดประเด็นคุย : ฉางชินเธอไปไหนหรอ? ทำไมไม่อยู่กับพี่ชายจิงเหยา?"
เฟิงจิงเหยามองเธอแบบสายตาที่กัดไม่ปล่อย ขมวดคิ้ว : "เธอจะไปไหนมันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอยังมีเรื่องอะไรอีกไหม?"
มี่เขาอยากสื่อ ก็คือถ้าไม่มีอะไรก็เดินออกไปได้แล้ว
ลูซือยวี่ทำไมจะฟังไม่ออก ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความน่าสงสาร
"พี่ชายจิงเหยา พี่ชายจิงเหยายัง...."
เธออยากถามเฟิงจิงเหยา ว่ายังโกรธเรื่องวันนั้นใช่มั้ย แต่ไม่ทันพูดจบก็ถูกเฟิงจิงเหยาตัดบท
ไม่ ควรจะพูดว่า เธอไม่ได้อยู่ในสายตาต่อไปอีกตังหาก
เห็นเฟิงจิงเหยาเหมือนเจอคนที่คุ้นเคย คนรู้จัก ไม่มองลูซือยวี่ด้วยซ้ำ หันหลังกลับไปทักทายคนอื่นทันที
ลู่ซือยวี่กัดปาก มองดูเขาที่ยิ้มคุยกับคนอื่นจากด้านหลัง ในแววตาเธอดูค้างคาใจ
ทำไม ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ !
ในใจลึกๆของเธอกำลังคร่ำครวญ
นั่นมันเป็นความผิดของกู้ฉางชิงทั้งหมด ถ้าไม่ใช่อีนังนั่นมาทำให้แผนของเธอแตก พี่ชายเฟิงจิงเหยาก็จะไม่รู้เรื่องนั้น
กู้ฉาง มีแกไม่มีฉัน มีฉันต้องไม่มีแก!
กู้ฉางชิงไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าลู่ซือยวี่ถูกเมิน แล้วเขามาโทษเธอ
ตอนนี้เธอถูกบังคับให้อยู่ข้างๆกู้หงเซิง เห็นเขาพาตัวเองกับคนอื่นมาชมกัน พูดอีกว่าความสัมพันธ์พ่อลูกของพวกเขาดียังไงๆ ในใจเต็มไปด้วยความรังเกียจ
"ประธานกู้ตอนนี้น่ะเจริญแล้ว ได้เป็นความสัมพันธ์ทางด้านการแต่งงานกับตระกูลเฟิง
"ใช่สิ ตอนนั้นน่ะ มีคนมากมายอยากจะให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานเข้าไปในตระกูลเฟิง ไม่คิดเลยว่าบ้านนี้จะได้"
"ใช่ไง คุณหนูเฟิงเป็นคนชัดเจนอยู่แล้ว ไม่แปลกที่คนนั้นในตระกูลเฟิงจะชอบ ประธานกู้เลี้ยงลูกมาดีจริงๆ"
"ใช่ที่ไหน ลูกสาวบ้านคุณก็ดีไม่แพ้กัน แค่ไม่มีพรมลิขิตต่อกันแค่นั้นเอง อีกหน่อยต้องเจอสามีดีๆแน่ครับ"
"ฮ่าๆ ขอให้เป็นแบบที่พูดนะครับ"
มีคนแก่กลุ่มนึงคุยสนุกกันอยู่ กู้ฉางชิงยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มจนกรามจะค้างอยู่แล้ว"
และในเวลาเดียวกัน เธอก็รู้สึกแย่หน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา