เมื่อชวี่ชิงหยุนได้ยินก็ตัวแข็งทื่อ
เธอคิดไม่ถึงว่ากู้ฉางซินจะทำอะไรมากมายในช่วงนี้
แม้แต่ความร่วมมือกับแบรนด์ RC ก็เป็นผลงานของเธอ
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอไม่กล้าที่จะตั้งคำถามกับเฟิงจิ่งเหยา
ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องมายืนอยู่ตรงหน้าหลี่ม่าน อดกลั้นไว้จนหน้าแดง แต่ก็พูดอะไรออกมาไม่ได้สักคำ
หลี่ม่านมองเธออย่างไม่เข้าใจ และโบกมือให้เธอออกไป
“ถ้าไม่มีปัญหาอื่นก็ออกไป ฉันมีเรื่องต้องจัดการ”
เมื่อชวี่ชิงหยุนเห็นอย่างนั้นแล้ว ก็ทำได้เพียงแค่กัดฟัน และจากไปอย่างไม่เต็มใจ
เธอเดินมาถึงทางแยก จู่ๆก็นึกถึงลู่ซื่อหยี่และกู้ฉางซินที่ไม่ลงรอยกัน
หากเธอรู้ว่าหลังจากที่เธอจากไป กู้ฉางซินก็มาแทนที่ตำแหน่งของเธอ เธอจะต้องจัดการกับนังสารเลวนั่นแน่นนอน
คิดอย่างนั้นแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมา และนัดลู่ซือหยี่มาทานอาหารเย็น
ในตอนเย็นทั้งสองคนก็เจอกันที่ร้านอาหาร
ลู่ซือหยี่เห็นเธอแล้วก็เลิกคิ้วถาม:“ทำไมวันนี้คุณจะเลี้ยงข้าวฉันหรอ?”
“ไม่ต้องพูดแล้ว หลังจากที่คุณออกไป บริษัทยิ่งนานก็ยิ่งเลวร้ายลง
หลังจากที่ชวี่ชิงหยุนนั่งลง เธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วยความโกรธ
“กู้ฉางซินนังสารเลวนั่น ตอนนี้ได้ร่วมมือกับแบรนด์RC สำเร็จแล้ว และเธอก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นรักษาการผู้จัดการ รอให้ผ่านช่วงสังเกตการณ์นี้ไปก็จะให้เปลี่ยนตำแหน่งเป็นถาวร
“อะไรนะ!”
ลู่ซือหยี่พลั้งปากร้องออกมา สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ
เธอถูกไล่ออกจากบริษัท และนังสารเลวกู้ฉางซินก็ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
เธอยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงช่วงนี้ที่นังสารเลวนั่นได้เปรียบในทุกด้าน ทำให้เธอไม่มีโอกาสได้ลงมือ ได้แต่อึดอัดใจ
ชวี่ชิงหยุนไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่ก็ไม่ผิดที่เธอจะโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ
“ซือหยี่ คุณไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่บริษัทยโสโอหังขนาดไหน และฉันก็ออกหน้าแทนคุณไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เกี่ยวกับคุณ เป็นความผิดของนังสารเลวนั่น แต่สุดท้ายคุณก็ถูกไล่ออก นังสารเลวนั้นไม่มีเรื่องอะไรเลย”
เธอพูดจบก็เห็นลู่ซือหยี่กัดฟัน และสะเทือนใจอยู่เรื่อยๆ
“แล้วก็วันนี้เธอย้ายเข้าไปในห้องทำงานที่คุณเคยอยู่ แล้วเธอยังให้คนเก็บกวาดข้าวของที่คุณเคยใช้ทิ้งให้หมด”
ทันที่ที่ได้ได้ยิน ลู่ซือหยี่ก็เคร่งเครียด ‘ปัง’ เสียงดังขึ้น
“สมควรตายๆไปซะ ฉันจะไม่ปล่อยนังสารเลวนี่ไปเด็ดขาด!”
เธอกัดฟันพูดอย่างดุดัน โดยไม่ได้สนใจสายตาอิ่มเอมใจของชวี่ชิงหยุน
สู้กันไปเลย
รอให้พวกเขาทั้งสองคนพ่ายแพ้ เธอก็จะรอเก็บผลประโยชน์
ถูกต้อง ที่เธอเรียกลู่ซือหยี่ออกว่าก็เพื่อที่จะยืมดาบฆ่าคน
อย่างที่เคยบอกไปว่าเธอกับมู่ฉิงคงจ้องมองตำแหน่งผู้จัดการมานานแล้ว
เธอจะยอมให้คนที่เทียบกับเธอไม่ได้มานั่งตำแหน่งนี้ได้ยังไง!
และก่อนที่จะเข้าบริษัท เธอก็ได้เล็งตำแหน่งนี้ไว้แล้ว ถ้าไม่ใช่ลู่ซือหยี่ที่อยู่ตรงหน้า เธอก็คงช่วงชิงมาได้ตั้งนานแล้ว
เนื่องจากลู่ซือหยี่โกรธมาก จึงไม่ได้สังเกตว่าเธอทำเพื่อผลประโยนช์ของตัวเอง
เธอไม่ได้กินอาหารมื้อนี้ด้วยซ้ำ เพราะอัดแน่นไปด้วยความโกรธ
หลังจากทานอาหารเสร็จ เธอก็รีบกลับไปคิดหาวิธีจัดการกับกู้ฉางซิน เธอไม่ยอมรับคำแนะนำของชวี่ชิงหยุน และขับรถตรงไปที่บ้านตระกูลลู่
หลังจากกลับถึงบ้าน เธอโยนกระเป๋าถือทิ้งอย่างไม่แยแส และนั่งบนโซฟาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา