ไม่นานโทรศัพท์ก็ถูกรับสาย
"นำหลักฐานส่งสำนักงานตำรวจแล้ว หมายจับจะออกมาเร็วๆนี้"
ชวี่ยี่ตอบหลับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม บอกเรื่องราวทางด้านนี้ที่เขาจัดการดีแล้ว
เพียงแต่เฟิงจิ่งเหยายังไม่วางใจ ตระกูลลู่ โดยเฉพาะจิ้งจอกเฒ่าลู่หงกั๋วนั่น ก็ไม่เชื่อว่าอยู่วงการข้าราชการมาหลายปีจะไม่มีช่องทางข่าวสารของตนเอง
"ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับใคร คุณส่งคนไปจับตาดูทุกคนในตระกูลลู่ไว้"
เขาสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ชวี่ยี่รับคำสั่งแล้วไปทำทันที
และเรื่องจริงก็เป็นไปตามที่เฟิงติ่งเหยาคิด
เมื่อเขารายงานตระกูลลู่ต่อทางการ ลู่หงกั๋วได้รับข่าวจากคนสนิท
"หัวหน้า คนจากเฟิงซื่อกรุ๊ปไปที่กระทรวงยุติธรรม เรารู้ผ่านบุคคลที่เกี่ยวข้อง พวกเขากำลังรายงานความผิดของท่านอยู่"
ลู่หงกั๋วได้ฟังข่าวเหล่านี้จบ ใบหน้าก็มืดครึ้มราวกับน้ำหมึก โดยเฉพาะคำพูดประโยคหลังของคนสนิท ยิ่งทำให้บีบหัวใจของเขาขึ้นมา
"เฟิงจิ่งเหยายังไปแจ้งความที่สำนักงานตำรวจ ดำเนินคดีตระกูลลู่ว่าลักพาตัวโดยผิดกฏหมาย พวกเขาเก็บหลักฐานการโทรของคุณนายไว้เป็นหลักฐาน เป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการกับเรื่องทั้งสองที่เพิ่มเข้ามา หัวหน้าต้องจัดการโดยเร็วที่สุด"
"ฉันรู้แล้ว คุณจับตาดูข่าวคราวทางด้านตุลาการนั้นไว้ ในกรณีที่มีผลสรุปให้มารายงานฉันทันที"
ลู่หงกั๋วออกคำสั่งน้ำเสียงเฉียบขาด
หลังจากวางสาย เขาก็เดินออกมาจากห้องหนังสือ มองครอบครัวที่มีความสุขในห้องรับแขก ในใจก็รู้สึกอึดอัด
กล่าวได้ว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้มีผลกระทบต่อตระกูลลู่ทั้งหมด
แล้วคนในครอบครัวก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิด
"แม่ ทำไมคุณไม่ตีให้นังสารเลวนั่นตายไปซะเลย!"
ลู่ซือหยี่รู้ว่ากู้ฉางฉิงถูกแม่ของตนเองตีแล้ว แต่นี่เป็นแผลแค่ผิวหนัง แต่เธอปรารถนาอยากให้นังสารเลวนี่ตายไป
"ฉันอยากจะตีให้มันตายไปเลย แต่พ่อคุณไม่เห็นด้วย"
แม่ลู่พูดอย่างอารมณ์เสีย
ลู่หงกั๋วที่ลงมาได้ยินพอดี อดที่จะพูดด้วยน้ำเสียงฉียบขาดไม่ได้ : "พวกคุณยังคิดอยากจะให้กู้ฉางซินตาย นี่ในบ้านเรายังไม่วุ่นวายพอใช่ไหม?"
"พ่อ เป็นอะไรไป?"
ลู่ซือหยี่ได้ยินความโกรธและความตึงเครียดในน้ำเสียงของลู่หงกั๋ว จึงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
ลู่หงกั๋วมองเธอ แล้วพูดถึงข่าวที่ได้รับออกมา
"ทางด้านเฟิงจิ่งเหยานั้นรายงานให้ตรวจสอบวินัยฉัน ฉันไม่รู้ว่าในมือเขาถือหลักฐานอะไรอยู่ เพียงแต่คณะกรรมการตรวจสอบวินัยได้เริ่มตรวจสอบแล้ว ฉันคิดว่าไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ต้องมาหา"
ลู่ซือหยี่กับแม่ลู่ได้ฟังคำพูดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปมาก
"เฟิงจิ่งเหยาเขากล้าทำได้ยังไง?"
แม่ลู่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
ลู่หงกั๋วมองเธอด้วยสายตาเย็นชา พูดอย่างหงุดหงิดว่า :เฟิงจิ่งเหยาจะไม่กล้าได้อย่างไร ฉันบอกว่าให้คนไปจับตัวมากพอ คุณยังถือดี ไปตีทำร้ายคน เขาจะปล่อยพวกเราไปได้อย่างไร?"
เขาพูดจบ ก็พูดต่อด้วยความไม่พอใจ : "ไม่ใช่แค่ฉันที่ถูกรายงานนะ แม้แต่บริษัทของคุณก็ถูกฟ้องร้องแล้ว"
แม่ลู่ได้ยิน ใจก็เต้นระรัว
"เกิดเรื่องได้ยังไง? นี่เกี่ยวข้องกับลู่ซื่อกรุ๊ปได้อย่างไร?"
ลู่ซือหยี่ก็ร้อนรน เดิมทีลู่ซื่อกรุ๊ปเป็นของตระกูลลู่
"พ่อ เกิดขึ้นได้ยังไง"
ลู่หงกั๋วมองพวกเขาที่เพิ่งจะกระวนกระวายใจ ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
"ตั้งแต่การลักพาตัวกู้ฉางซินของแม่คุณ เฟิงจิ่งเหยาก็เก็บรวบรวมหลักฐานตลอดมา นอกจากนี้แม่คุณยังสั่งสอนกู้ฉางซินแทนคุณอีกด้วย ทำให้เฟิงจิ่งเหยาโกรธอย่างมาก ฉันเดาว่า นี่เขากำลังจะกำจัดตระกูลของพวกเราออกไปจากเมืองหลวง"
แม่ลู่กับลู่ซือหยี่ได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตกใจ
"เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?"
ลู่ซือหยี่พูดพึมพำอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ทว่าแม่ลู่โมโหมาก : "เฟิงจิ่งเหยาทำเกินไปแล้วจริงๆ"
"ทำเกินหรือไม่เกินไป ฉันไม่รู้หรอก แต่คราวนี้ตระกูลลู่ได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่นอน ไม่แน่เขาอาตตะทำได้จริงๆ"
ลู่หงกั๋วโต้แย้งคำพูดของเธอ ด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
พูดจบ เขาก็มองไปที่จ่านสิงเทียนที่ไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่เขากลับมา
"คุณชายจ่าน ฉันต้องการขอความช่วยเหลือจากคุณ ไม่ทราบว่าจะได้ไหม?"
จ่านสิงเทียนได้ยิน ก็เลิกคิ้วแล้วมองไปยังเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา