สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา นิยาย บท 335

มู่เฉาเกอได้ยิน ก็โกรธจนพูดอะไรไม่ออก

แผนการล้มเหลวยังจะมาโทษเธออีก?

ไม่รอให้เธอได้พูดประชดประชันกลับไป เย่าซือก็พูดอีกว่า : "แม้ว่าแผนการในครั้งนี้จะล้มเหลว แต่ก็ไม่เป็นไร โอกาสที่ลงมือยังมี……”

มู่เฉาเกอขมวดคิ้ว กลืนคำที่คิดจะตำหนิเมื่อกี้ ถามว่า : "โอกาสอะไร?"

เย่าซือหัวเราะ : "โอกาส? ก็อยู่ที่ว่าคุณมู่เต็มใจอยากจะร่วมมือกับฉันอีกครั้งไหม?"

มู่เฉาเกอคิดว่าเดิมทีเขายังมีแผนการอะไรดีๆ คาดไม่ถึงว่าจะพูดเช่นนี้ ก็ปฏิเสธอย่างอารมณ์เสีย : "ไม่อยาก!"

ครั้งแรกไม่สำเร็จ เธอก็เสี่ยงมากแล้ว จะร่วมมือกันอีกครั้ง ถ้าถูกเฟิงจิ่งเหยาตรวจสอบเจอ ชั่วชีวิตนี้เธอก็อย่าคิดจะได้แต่งงานกับเขาอีกเลย

เย่าซือได้ฟังคำพูดปฏิเสธนี้ ก็ไม่ได้เกินความคาดหมาย

เขาเลิกคิ้ว ยิ้มขึ้นมาอย่างชั่วร้าย : "คุณมู่แน่ใจหรอว่าต้องการปฏิเสธฉัน?"

มู่เฉาเกอกัดฟัน กำลังจะตอบกลับ ก็ถูกคำพูดของเขาทำให้ทั้งตกใจที่งโกรธ

"คุณว่า ถ้าให้เฟิงจิ่งเหยารู้ว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องครั้งนี้ เขาจะคิดว่ายังไง?"

มู่เฉาเกอได้ยินทก็บีบโทรศัพท์แน่น จนปลายนิ้วเป็นสีขาวซีด สีหน้าย่ำแย่ขั้นสุด ในแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

……

และในเวลาเดียวนี้ ในห้องผู้ป่วย

คุณนายเฟิงและเฟิงซู่อยู่กับเฟิงจิ่งเหยาสักพัก ก็ออกไป

พร้อมกับพวกเขาออกไป เฟิงจิ่งเหยาก็เรียกชวี่ยี่กับมั่วหลีเข้ามา

"มั่วหลี คุณติดต่อทางด้านมั่วจุย ให้พวกเขาร่วมมือในการตรวจสอบกับทางด้านชวี่ยี่นี้ สืบหาตัวตนที่แท้จริงของคนเหล่านั้นเมื่อคืนนี้

มั่วหลีไม่อยากออกไป แต่ไม่กล้าขัดคำสั่งของเฟิงจิ่งเหยา ได้แต่ตามชวี่ยี่ไป

คืนวันนั้น เมื่อกู้ฉางฉิงออกไปซื้อข้าว ชวี่ยี่ก็มีเบาะแสมารายงานเฟิงจิ่งเหยา

"ท่านประธาน ตรวจสอบเจอข่าวคราวบ้างแล้ว"

"พูด"

"เป็นเย่าซือลูกชายคนที่สองของJKกรุ๊ปที่จับคุณนายรองไปเมื่อคืนนี้"

เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว ในแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย : "JK?”

ชวี่ยี่พยักหน้าตอบกลับว่า : "ครับ เปลี่ยนจากรุ่นก่อนหน้านี้ที่เป็นพวกผิดกฏหมาย เบื้องหลังซับซ้อนอย่างมาก โดยเฉพาะลูกชายคนที่สองคนนี้ ได้ยินมาว่าตัวตนโหดเหี้ยมอำมหิต ทายาทของบริษัทในตอนแรกน่าจะเป็นพี่ชายต่างมารดาของเขา แต่ก่อนหน้าที่พี่ชายจะเข้ารับตำแหน่งวันเดียว ก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์

เฟิงจิ่งเหยาหรี่ตา ไม่พูดอะไร

ชวี่ยี่เห็นเช่นนั้นจึงพูดต่อว่า : "ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่มีหลักฐานทิ้งไว้ แต่เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่สุด หลังจากพี่ชายของเขาเสียไป เขาก็มีอำนาจมากมายในบริษัท"

เขาพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดชั่วขณะ เห็นสีหน้าของเฟิงจิ่งเหยา พบว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนเดิม แล้วพูดต่อว่า : "ตามที่เราตรวจสอบจนทราบ ครั้งนี้ที่พวกเขาเคลื่อนไหวเช่นนี้ ก็เพื่อแย่งชิงแฟลชไดร์ฟนั่น เพราะมันเกี่ยวข้องกับตำแหน่งของเขาในบริษัท"

เฟิงจิ่งเหยาได้ฟังคำนี้ ก็พูดเบาๆว่า

"ไปตรวจสอบบริษัทนี้ มีอุตสาหกรรมอะไรในประเทศ?"

เขาพูดจบ หรี่ตามองอย่างอันตราย : "มายั่วใครไม่ยั่ว ยังกล้าคิดเพ้อเจ้อนั่งตำแหน่งที่มั่นคง ก็ต้องมีความสามารถนั้นด้วย"

ชวี่ยี่ได้ฟังคำพูดที่เคร่งขรึมนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหนาวสั่น

เขารู้ว่าครั้งนี้ท่านประธานของตนถูกยั่วโมโหจนถึงขีดสุด เลยไม่กล้าเสียเวลาจึงรับคำสั่ง : "ครับ ฉันจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้"

พูดจบ เขาก็กลับออกไป บังเอิญเจอเข้ากับกู้ฉางฉิงที่ไปซื้ออาหารเย็นกลับมา

"คุณนายรอง"

เขาเรียกด้วยความเคารพ หลังจากกู้ฉางฉิงพยักหน้าตอบรับ จึงออกไป

กู้ฉางฉิงกลับมาห้องผู้ป่วย เห็นใบหน้าของเฟิงจิ่งเหยาที่เหนื่อยล้า ก็สงสารอย่างมาก

"อ่อนเพลียหรอ?"

เธอเดินไปข้างหน้าและวางอาหารเย็นไว้บนโต๊ะข้างเตียง ประคองเฟิงจิ่งเหยาพิงหัวเตียง : "กินข้าวแล้ว ฉันจะเช็ดตัวให้คุณ แล้วก็พักผ่อนได้"

เฟิงจิงเหยาไม่ปฏิเสธ

กู้ฉางฉิงนำอาหารเย็นออกมาจัดวางเรียบร้อย วางแผนจะป้อนอาหารให้เหมือนเมื่อเช้า สุดท้ายถูกเฟิงจิ่งเหยายับยั้งไว้

"หืม?"

กู้ฉางฉิงมองเธออย่างไม่เข้าใจ

ทางด้านเฟิงจิ่งเหยาก็เก้อเขินเล็กน้อย ที่ตอนเช้าให้กู้ฉางฉิงป้อนอาหาร ก็คืออยากให้แม่เห็นความดีของกู้ฉางฉิง เวลานี้จะให้เธอป้อนอาหารอีก ก็รู้สึกแปลกเล็กน้อย

"ฉันบาดเจ็บแค่ที่ไหล่ ไม่ใช่มือบาดเจ็บ สามารถทำเองได้"

เขาพูดพลางหยิบถ้วยในมือของกู้ฉางฉิง

กู้ฉางฉิงก็คาดเดาได้ถึงความคิดภายในใจของเขาเล็กน้อย

"งั้นคุณระมัดระวังหน่อยนะ อย่าให้กระทบกระเทือนถึงบาดแผล"

เธอกำชับด้วยเสียงเบาๆ ในสายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง มองเฟิงจิ่งเหยาอย่างใจละลาย

"เออใช่ คุณทานแล้วหรือยัง?"

กู้ฉางฉิงชะงักไปเล็กน้อย ยิ้มแล้วกล่าวว่า: "รอคุณทานแล้ว ฉันค่อยไปซื้อ"

เธอเป็นห่วงเฟิงจิ่งเหยา กลัวว่าตนเองจะมาช้า คนจะหิว

เฟิงจิ่งเหยาได้ยิน จะฟังไม่ออกได้อย่างไรว่าเธอเอาใจใส่ตนเอง ก็ยิ่งเพิ่มความรักและความซาบซึ้งใจ

เขามองอาหารเย็นตรงหน้า หลากหลายอย่างมาก ที่สำคัญคือคนๆอดียวทานไม่หมด

"ทานด้วยกันกับฉันเถอะ"

เขาพูดจบ ก็ยากที่กู้ฉางฉิงจะคัดค้าน เริ่มร่วมทานอาหาร

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ลืมว่ากู้ฉางฉิงไม่สามารถทนหิวได้ ไม่เช่นนั้นโรคกระเพาะจะกำเริบได้ง่าย

และถึงอย่างไรกู้ฉางฉิงก็คาดไม่ถึงว่าเรื่องราวจะพัฒนากลายเป็นแบบนี้

อาหารเย็นที่เดิมทีซื้อมาให้เฟิงจิ่งเหยากว่าครึ่งก็เข้าไปอยู่ในท้องของเธอ

ช่วงเวลาหนึ่งก็ทั้งขัดเคืองทั้งซาบซึ้งใจ

"คุณทานอิ่มแล้วหรือยัง?"

เธอกังวลอย่างมากว่าเฟิงจิ่งเหยาจะทานไม่อิ่ม

เฟิงจิ่งเหยาเห็นความห่วงใยบนใบหน้าของเธอ ยิ้มแล้วกล่าวว่า: "คุณคิดว่าฉันเหมือนคนที่หิวโหยหรอ?"

กู้ฉางฉิงสะอึกไป ส่ายหน้าอย่างเงียบ

จริงๆเขาไม่ได้น้อยใจคนของตนเอง

คิดแบบนี้แล้ว เธอก็สบายใจ "งั้นฉันไปตักน้ำมาเช็ดตัวให้คุณนะ"

เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้ขัดขวาง นั่งมองเธอไปตักน้ำร้อนอย่างเงียบๆ

"ถอดเสื้อผ้าออกสิ"

เธอบิดผ้าขนหนู เอ่นปากกับเฟิงจิ่งเหยาอย่างเป็นธรรมชาติมาก

พอเธอพูดจบ ไม่รู้ว่าทำไม ก็รู้สึกว่าประโยคนี้แปลกๆ

ยังไม่รอให้เธอได้คิดลึก เฟิงจิ่งเหยาใช้มือที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ถอดเสื้อออกเผยให้เห็นร่างกายที่มีสมรรถภาพสูง

"ฉันถอดเรียบร้อยแล้ว"

เขาเอ่ยปากพร้อมถอดเสื้อ กู้ฉางฉิงเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยจิตสำนึก ก็เห็นผิวข้าวสาลีที่เต็ทไปด้วยความแข็งแรง

ไม่เหมือนกับเมื่อวานที่จิตใจเป็นกังวล เวลานี้เห็นสรีระที่เต็มไปด้วยพละกำลัง หน้าเธอแดงขึ้นมาเล็กน้อย กระทั่งมือก็สั่นเล็กน้อย

แน่นอนว่าเฟิงจิ่งเหยาเห็นท่าทางที่เขินอายของเธอ แก้มนั้นแดงจนไปถึงหู เหมือนกับลูกท้อสุก ที่กระจายกลิ่นอ่อนๆไปทั่ว ดึงดูดให้คนอยากจะกัดสักคำหนึ่ง

เขาคิดพลาง ดวงตาก็ลึกซึ้งลงไปเล็กน้อย ทันใดลูกกระเดือกก็ขยับขึ้นมาทันที

"ไม่ใช่บอกว่าจะเช็ดตัวให้ฉันหรอ? ทำไมไม่ลงมือล่ะ?"

กู้ฉางฉิงตอบสนองกลับมา สายตาลุกลี้ลุกลนไม่รู้ว่าควรจะมองตรงไหนดี แต่ก็ยังหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้เขา

ใครจะคิดว่าเพราะกังวลมากเกินไป ไม่ได้ระมัดระวังเท้า สุดท้ายก็สะดุดเล็กน้อย คนล้มลงไปยังเฟิงจิ่งเหยา

"นี่คุณอยากจะซบอกหรอ หืม?"

เฟิงจิ่งเหยาโอบเอวกู้ฉางฉิง ได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์มาจากตัวเธอ ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า

กู้ฉางฉิงถูกคำพูดของเขาทำให้หน้าแดงอย่างมาก รู้สึกว่าผิวที่มือจับอยู่ก็แดงไปหมด คล้ายกับว่าจะลุกไหม้ขึ้นมา

"ใคร ใครอยากซบอก!"

เธอเขินอายอยากจะลุกขึ้นยืน แต่ถูกเฟิงจิ่งเหยากักเอวเอาไว้แน่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา