ชวี่ยี่มองอยู่ข้างๆ ก็ส่ายหัวอย่างจนปัญญา
เขามองออกว่ามั่วหลีมีความคิดอย่างอื่นกับท่านประธานของตน เพียงแต่เขามองว่าสิ่งเหล่านี้มันไร้ประโยชน์
โดยเฉพาะตอนนี้ที่ท่านประธานของเขาเป็นห่วงเป็นใยคุณนายรองมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเป็นไปไม่ได้
เขาคิดถึงตรงนี้ ก็นึกถึงมั่วหลีที่มีความสามารถที่หาได้ยาก คาดไม่ถึงว่าเธอจะทำลายอนาคตของตนเองเช่นนี้ จึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อพูดตักเตือน
"มั่วหลี ไม่ว่าคุณจะคิดอะไร ขอเตือนคุณไว้เลย ว่าอย่าไปแตะต้องคุณนายรอง เธอเป็นคนสำคัญของท่านประธานไม่สามารถแตะต้องได้ ฉันคิดว่าคุณน่าจะรู้ผลของการทำให้ท่านประธานโกรธนะ"
พูดจบ เขาก็เดินจากมั่วหลีไปเลย
มั่วหลีไม่ได้เคลื่อนไหว แต่สีหน้าบูดเบี้ยวของเธอก็มองออกได้ ว่าคำพูดของชวี่ย่ได้ยินอยู่ในหูเธอแล้ว
แต่ก็เพราะว่าฟังเข้าไปแล้ว ความโกรธในใจก็ลุกโชนขึ้นมา
มีสิทธิ์อะไร?
กู้ฉางซินผู้หญิงเช่นนั้นมีคุณสมบัติอะไรที่จะอยู่เคียงข้างคุณผู้ชายของเธอ จนกลายเป็นคนสำคัญของคุณผู้ชายที่แตะต้องไม่ได้!
กู้ฉางฉิงไม่รู้ว่าความเกลียดชังของมั่วหลีที่มีต่อเธอนั้นลึกซึ้งขึ้นมากอีกครั้ง
หลังจากเธอรอให้มั่วหลีออกไป ก็กลับไปหาเฟิงจิ่งเหยา
เอาน้ำมาเช็ดตัวให้
ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดของเฟิงจิ่งเหยาออก หัวใจเธอก็ตึงแน่นขึ้นมา
โดยเฉพาะเมื่อเห็นบาดแผลที่ไหล่ เลือดไหลซึมออกมา จึงสูดอากาศเย็นเข้าไป
"นี่คือสิ่งที่คุณบอกว่าไม่ร้ายแรงหรอ!"
เธอหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วพูดออกมา คิดอยากจะตีคน ก็เกรงว่าจะไปกระทบบาดแผลของเฟิงจิ่งเหยา
เฟิงจิ่งเหยามองเห็นเธอน้ำตาไหลทันที ก็เช็ดให้อย่างรักใคร่เอ็นดู
"ร้องทำไม ขอเพียงแค่ไม่ตาย ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!"
กู้ฉางฉิงได้ยิน ก็จ้องมองเขาทันที
"นี่……สาปแช่งตนเองอย่างนี้ได้ยังไง!"
เฟิงจิ่งเหยาหัวเราะ ลูบแก้มของเธอ แล้วพูดปลอบเธอว่า : "เอาล่ะ อย่างกังวลเลย ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่หรอ?"
กู้ฉางฉิงเม้มปาก จับมือเขาไว้แน่น
"อืม ฉันไม่กังวลใจ แต่ฉันไม่หวังว่าจะมีครั้งต่อไปอีก อีกอย่างต่อไปถ้าคุณบาดเจ็บก็อย่าปิดบังฉัน"
เฟิงจิ่งเหยาพยักหน้า
จากนั้นกู้ฉางฉิงก็ช่วยเขาใส่ชุดผู้ป่วยที่สะอาด พลิกตัวไปมา เฟิงจิ่งเหยาก็อ่อนล้า แล้วก็หลับไป
กู้ฉางฉิงมองเฟิงจิ่งเหยาที่หลับสนิท ในแววตาก็เต็มไปด้วยความทุกข์ใจ
หากไม่ใช่เพราะความประมาทของเธอ จะเกิดเรื่องมากมายขึ้นได้อย่างไร
เธอกำลังครุ่นคิด ค่อยๆต้านทานไม่ไหวเล็กน้อย จึงพึงโซฟาหลับไป
……
วันต่อมา คุณนายเฟิงกับเฟิงซู่รู้ว่าลูกชายตนเองได้รับบาดเจ็บอยู่โรงพยาบาล ก็รีบมาทันที
คาดไม่ถึง เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็ได้พบกับมู่เฉาเกอที่มาเยี่ยมเฟิงจิ่งเหยาพอดี
ทั้งสามคนรีบไปที่ห้องผู้ป่วยด้วยกัน
กู้ฉางฉิงได้ยินการเคลื่อนไหว ก็ตื่นขึ้นมาจากโซฟา เห็นพวกคุณนายเฟิงเดินเข้ามา ก็ทักทายทันที
"พ่อ แม่ คุณมู่ พวกคุณมาได้ยังไง?"
คุณนายเฟิงเห็นเธอก็ดุด่าทันที
"ฉันมาได้อย่างไรนะหรอ? คุณไม่อายที่จะพูด ถ้าไม่ใช่เพราะคุณทำให้จิ่งเหยาต้องเข้าโรงพยาบาล ฉันจะมาทำไม? ตระกูลเฟิงเราตั้งแต่คุณเข้ามาก็ไม่มีวันไหนที่จะสงบสุขเลย!"
กู้ฉางฉิงรู้สึกไม่สบายใจที่เธอถูกประณาม แต่ก็ไม่ได้โต้เถียง
เพราะเธอทำให้เฟิงจิ่งเหยาได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาลจริงๆ ดังนั้น เธอไม่โต้ตอบใดๆปล่อยให้คุณนายเฟิงด่า
มู่เฉาเกอมองกู้ฉางฉิงที่เชื่อฟัง แววตาเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ สีหน้าก็ไม่ชัดเจนเล็กน้อย
เธอรู้ดีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ฉะนั้นในวจก็นึกถึงตลอด เลยไม่ได้พักผ่อนทั้งคืน
เดิมทีคิดว่าเมื่อเช้านี้จะได้รับข่าวกู้ฉางซินผู้หญิงคนนี้ถูกกำจัดไปแล้ว แต่กลับได้รับข่าวว่าเฟิงจิ่งเหยาได้รับบาดเจ็บ
เวลานั้น เธอไม่สนใจกู้ฉางซินโดยสิ้นเชิง รีบไปโรงพยาบาล แต่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นกู้ฉางซินที่ครบสมบูรณ์ดี!
เป็นยังไงบ้าง? ผู้ชายคนนั้นทำไม่สำเร็จใช่ไหม?
เขาตอบรับกับตนเองชัดเจน!
เธอกำลังซักถามข้อสงสัยภายในใจ ไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ากู้ฉางฉิงเห็นการแสดงออกของตนเองทั้งหมดอยู่ในสายตา
กู้ฉางฉิงไม่เข้าใจว่าทำไมทู่เฉาเกอถึงใช้สายตาที่ประหลาดใจมองตนเอง อีกทั้งในสายตาของเธอยังประกอบไปด้วยอารมณ์ต่างๆในด้านลบ
นี่ทำให้เธออดที่ตะแปลกใจขึ้นมาไม่ได้
ทำไมเธอถึงมีปฏิกริยาแบบนี้?
หรือว่าเธอจะรู้อะไร?
ช่วงเวลาหนึ่ง ในใจกู้ฉางซินก็เต็มไปด้วยความสงสัย
แต่ก็ทำได้เพียงสงสัย
อีกทั้งทันทีเธอยังถูกคุณนายเฟิงกล่าวตำหนิ ก็แยกไม่ออกว่าคิดมากขนาดไหน
เฟิงจิ่งเหยาถูกเสียงเอะอะของพวกเขาทำให้ตื่น
เขาเห็นกู้ฉางฉิงเหมือนสาวใช้ที่ถูกโขกสับยืนอยู่ตรงหน้าแม่ของตนเอง ทันทีก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
"แม่ พวกคุณมาได้ยังไง?"
คุณนายเฟิงเห็นเขาตื่นแล้ว ก็ไม่สนใจที่จะสั่งสอนกู้ฉางฉิง รีบเดินมายังข้างเตียงแล้วกล่าวอย่างเป็นห่วงว่า: "จิ่งเหยา คุณตื่นแล้ว ร่างกายรู้สึกเป็นยังไงบ้าง? ต้องการเรียกหมอเข้ามาไหม"
มู่เฉาเกอเก็บอารมณ์บนใบหน้า เดินเข้าไปแล้วพูดคล้อยตามว่า "ใช่ จิ่งเหยา คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ได้ยินว่าคุณได้รับบาดเจ็บ ทำให้ฉันตกใจแทบแย่"
เวลานี้เฟิงจิ่งเหยาให้ความสนใจไปที่มู่เฉาเกอ แปลกใจเล็กน้อย
"เฉาเกอ คุณก็มาด้วยหรอ"
มู่เฉาเกอได้ยิน รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อไปเล็กน้อย
"ตุณได้รับบาดเจ็บ ฉันจะไม่มาได้ยังไง?"
คุณนายเฟิงก็ช่วยพูดว่า: "จิ่งเหยาทำไมพูดแบบนั้น เฉาเกอเป็นห่วงคนในคุณจึงมา ไม่เหมือนบางคน นอกจากพาเรื่องวุ่นวายมาให้คุณแล้ว ประโยชน์อะไรก็ไม่มีเลย"
เฟิงจิ่งเหยาขมวดคิ้ว เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่านี่แม่กำลังกล่าวถึงกู้ฉางฉิง
"แม่ เรื่องนี้คือเหตุสุดวิสัย ไม่เกี่ยวกับฉางซิน"
แต่คุณนายเฟิงไม่เชื่อคำพูดของเขา แต่เห็นสีหน้าทีไม่หลอกลวงของลูกชาย ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เธอก็มองกู้ฉางฉิงอย่างขัดตา อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิด
กู้ฉางฉิงอบอุ่นใจที่เฟิงจิ่งเหยาพูดช่วยเหลือตนเอง ส่วนสีหน้าของคุณนายเฟิง ก็ไม่ได้สนใจ
ปฏิกริยาที่เธอไม่ชอบตนเอง ก็ไม่ใช่วันสองวัน
แบบนี้ การไกล่เกลี่ยของเฟิงจิ่งเหยาเล็กน้อย บรรนากาศในห้องผู้ป่วยก็ยังนับว่าอ่อนโยน
กู้ฉางฉิงก็ไปซื้ออาหารเช้า ดูแลเฟิงจิ่งเหยารับประทานอาหารเช้าเสร็จ
คุณนายเฟิงเห็นเธอดูแลลูกชายตนเองอย่างดีที่สุด สีหน้าของเธอก็ดูดีขึ้นมาเล็กน้อย
มู่เฉาเกอรับไม่ได้กับภาพที่สนิทชิดเชื้อของกู้ฉางฉิงและเฟิงจิ่งเหยา หลังจากอยู่สักครู่หนึ่งก็ออกไป
เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้รั้งให้อยู่ นี่จึงทำให้ในใจเธอขมขื่นอย่างมาก
แต่เธอก็ยังจิตใจเข้มแข็งแล้วกล่าวลาทุกคน
"งั้นฉันไปล่ะ จิ่งเหยาคุณพักผ่อนเพื่อรักษาบาดแผลให้ดีๆ พรุ่งนี้ฉันจะมาเยี่ยมใหม่"
พูดจบ เธอก็หันสายตามองเฟิงจิ่งเหยาเล็กน้อยแล้วก็หันออกไป
กู้ฉางฉิงมองภาพด้านหลังเธอจากไป รู้สึกลึกล้ำไม่อาจคาดเดาได้
แน่นอน เรื่องเหล่านี้มู่เฉาเกอไม่ได้สังเกตถึง
หลังจากเธอออกจากโรงพยาบาล ก็กลับถึงรถแล้วติดต่อเย่าซืออย่างร้อนอกร้อนใจ
"ฮัลโหล?"
อย่างรวดเร็วในโทรศัพท์ก็มีเสียงที่เหนื่อยล้าของเย่าซือดังขึ้น
มู่เฉาเกอฟังไม่ออก กำมือถือแล้วถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดว่า: "ตกลงคุณเกิดอะไรขึ้น? ให้โอกาสที่ดีขนาดนี้กับคุณแล้ว ทำไมคนยังไม่เป็นอะไรอีก?"
เย่าซือถูกคนสงสัยเช่นนี้ ในสายตาก็ปรากฎความโมโหขึ้นมา แต่ก็ถูกเขาระงับไว้อย่างรวดเร็ว
ถึงอย่างไรขณะนี้ผู้หญิงคนนี้ก็ยังมาประโยชน์สำหรับเขา
"โอกาสคุณเสนอให้แล้ว แต่คุณไม่ได้บอกฉันว่าฝีมือของเฟิงจิ่งเหยาดีขนาดนั้น!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา