ขณะที่ชวี่ชิงหยุนพูด เธอก็พยายามค้นโต๊ะทำงานของกู้ฉางชิง
กู้ฉางชิงสีหน้าขรึม และพูดอย่างเคร่งเครียดว่า:“ฉันบอกว่าไม่ได้หยิบก็ไม่ได้หยิบสิ ดีไซเนอร์ชวี่ทำเกินไปแล้วนะ!”
ห้ามคนอื่นเคลื่อนย้ายของบนโต๊ะ
อย่างไรก็ตามชวี่ชิงหยุนไม่สนใจเธอ และค้นโต๊ะด้วยตัวเอง
ไม่นานก็เห็นมือของเธอหยุดอยู่ที่ซอกมุมหนึ่ง
“กู้ฉางซิน เธอบอกว่าเธอไม่ได้หยอบไปป แล้วนี่มันหมายความว่าไง?”
เธอยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วหยิบภาพวาดการออกแบบออกมาจากซอกต่อหย้ากู้ฉางชิง
กู้ฉางชิงมองไปที่ภาพวาดการออกแบบที่ลงนามชื่อของชวี่ชิงหยุน และสีหน้าของเธอก็เปลี่ยน
ชวี่ชิงหยุนไม่สนใจท่าทีของเธอ แล้วถามอีกครั้งว่า:“กู้ฉางซิน เธอแอบขโมยแบบแผนของคนอื่น คงไม่ใช่ต้องการเอาไปใช้หรอกนะ?”
เมื่อได้ยินเอย่างนั้นกู้ฉางชิงก็มองไปที่ภาพวาดการออกแบบบนโต๊ะพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ฉันไม่เคยแตะต้องภาพวาดการออกแบบของคุณเลย”
ชวี่ชิงหยุนไม่เชื่อและมองไปที่เธออยย่างถากถาง
“ไม่เคยแตะต้อง เป็นไปไม่ได้ที่แบบแผนจะวิ่งมาหาเธอเอง?”
กู้ฉางชิงแค้นที่ไม่มีทางโต้แย้ง
ในขณะนั้นลู่ซือยวี่ก็กลับมาจากข้างนอก
เธอมองไปที่กลุ่มคนแล้วถามว่า:“พวกเธอมารุมล้อมทำอะไรกัน?”
เมื่อคนอื่นๆได้ยินเช่นนั้นก็พากันพูดถึงเรื่องเมื่อตะกี้ออกมา
หลังจากนั้นชวี่ชิงหยุนก็พูดให้คนอื่นคล้อยตาม และมองกู้ฉางชิงด้วนความโกรธ
“ผู้จัดการฉันต้องการให้กู้ฉางซินขอโทษฉัน”
เมื่อลู่ซือยวี่ได้ยินก็ตบไหล่เป็นการปลอบขวัญเธอ
“ไม่ต้องกังวล ฉันจะตัดสินให้เธอเอง”
พูดจบเธอก็มองไปที่กู้ฉางชิง และพูดอย่างเย็นชาว่า:“กู้ฉางซิน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าภาพออกแบบบนเว็บบอร์ดของเธอเอามาจากไหน อาจเป็นไปได้ว่าใช้เงินซื้อมา แต่เรื่องนี้หลักฐานมันชี้ไปที่เธอ เป็นความผิดเธอโดยไม่ต้องสงสัย เธอขอโทษจะดีกว่า จะได้ไม่เป็นตราบาปภายหลัง เธอว่าดีไหม?”
กู้ฉางชิงได้ยินที่เธอพูดก็ยืนยังได้ว่าเธอเป็นคนทำ จนเกือบจะยิ้มออกมา
ถ้าเธอขอโทษก็เท่ากับยอมรับว่าเธอเป็นคนขโมยไป
วิธีการของลู่ซือยวี่ดีจริงๆ ขุดหลุมฝังเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
เธอมองอย่างถากถางกลับไปที่ลู่ซือยวี่ ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า:“ผู้จัดการลู่ อย่าพูดอย่างนี้ คุณมีหลักฐานอะไรที่พิสูจน์ได้ว่าฉันขโมยภาพวาดการออกแบบ?”
“หลายคนชี้ตัวไปที่คุณ เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขากล่าวหาคุณ?”
ลู่ซือยวี่โตแย้งโดยไม่คิด
กู้ฉางชิงได้ยินแล้วก็มองไปรอบๆด้วยสายตาเย็นชา และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า:“พวกคุณเห็นฉันขโมยด้วยตาตัวเองรึเปล่า?”
ทุกคนรู้สึกรำคาญเล็กน้อยกับคำถามของเธอ และทุกคนก็พึมพำเบาๆ
“แม้ว่าฉันจะไม่เห็นว่าคุณหยิบมันมา แต่ก็เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้ว่ามีภาพวาดอยู่บนโต๊ะทำงานของคุณ”
“ใช่ ถึงตอนนี้แล้วยังคิดจะเถียงข้างๆคูๆอยู่อีก”
“อีกทั้งอาจารย์ชวี่ก็บอกแล้วว่า ขอเพีนงให้เธอขอโทษ แล้วเรื่องนี้ก็จะปล่อยผ่านไป”
กู้ฉางชิงฟังการสนทนาของพวกเขาและยิ้มออกมา
“ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันไม่ได้หยิบภาพวาดการออกแบบมา ถ้าพวกคุณไม่เชื่อก็สามารถเรียกการตรวจสอบได้ และหากตรวจสอบไม่ได้ พวกเราก็ไปแจ้งตำรวจเพื่อดูว่าบนภาพวาดการออกแบบนี้ มีลายนิ้วมือของใครอยู่!”
เธอยืนตัวตรง น้ำเสียงหนักแน่น และมองทุกคนที่อยู่ตรงหน้า
ไม่ใช่สิ่งที่เธอทำและเธอจะไม่ยอมให้ตราบาปนี้ติดตัวเธอไป
ชวี่ชิงหยุนคิดไม่ถึงว่ามาถึงตอนนี้แล้วกู้ฉางชิงยังจะเล่นลิ้นอยู่อีก เขายิ้มอย่างเยือกเย็นและพูดว่า “ดี งั้นก็ไปแจ้งตำรวจ ฉันก็จะอยากจะดูว่าคุณจะลงเอยอย่างไร!”
ขณะที่เธอพูด เธอส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆโทรหาตำรวจ
เมื่อผู้ช่วยเห็นก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา