คุณนายเฟิงไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่ได้ตอบรับ
เฟิงจิ่งเหยาเห็นดังนั้นจึงพูดต่อว่า "เดี๋ยวผมจะให้ผู้ช่วยหาทีมงานออแกไนซ์มาช่วยวางแผนงานร่วมกัน รับประกันว่าจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่สมบูรณ์ให้กับซือหยี่ได้แน่"
เมื่อคุณนายเฟิงได้ยินดังนั้น ถึงได้พยักหน้าตกลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
ด้านลู่ซือหยี่นั้นดีใจยิ่งนักและรีบขอบคุณเขา "ขอบคุณมากค่ะพี่จิ่งเหยา"
เฟิงจิ่งเหยายิ้มให้อย่างขอไปที เมื่อเห็นว่าที่นี่ไม่น่าจะมีเรื่องอะไรแล้ว จึงขอตัวพากู้ฉางฉิงกลับก่อน
หลังจากกู้ฉางฉิงออกมาจากบ้านใหญ่ ใบหน้าของเธอก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดใดออกมา ถ้าคนช่างสังเกตก็จะเห็นว่าเธอดูไม่ค่อยมีความสุขนัก
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจบไปก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของคนในบ้านใหญ่ แต่สุดท้ายกลับให้สาวใช้มาเป็นแพะรับผิดไป
ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังที่แท้จริงนั้นกลับไม่ได้รับผลอะไรเลย นี่คือสิ่งที่เธอไม่พอใจ
เธอเงยหน้าขึ้นมองคนข้าง ๆ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจ
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร วิธีการจัดการปัญหาของเขาเมื่อสักครู่ก็ดูจะเข้าข้างไปทางฝั่งคุณนายเฟิงอยู่บ้าง
เธอยิ่งคิดก็ยิ่งไม่มีความสุข
แต่ถ้าคิดอีกแง่หนึ่ง เธอก็เข้าใจในสิ่งที่เฟิงจิ่งเหยาทำไป
เพราะอย่างไรก็ตามคุณนายเฟิงก็เป็นผู้เลี้ยงดูเขามาจะให้มาเทียบกับภรรยาที่เพิ่งแต่งเข้ามาได้ไม่ถึงเดือนอย่างเธอได้อย่างไร
กลับกันถ้าเป็นเธอ ก็คงจะเข้าข้างคนในครอบครัวเช่นเดียวกัน
ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงขอโทษของเฟิงจิ่งเหยาดังขึ้นข้างหูว่า
"เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ ช่างไม่ยุติธรรมกับเธอเลย"
เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่ากู้ฉางฉิงกำลังไม่พอใจ เพียงแต่ขอโทษไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น
ความจริงของเรื่องนี้เป็นมาอย่างไร แม้ว่าจะไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนกว่านี้ แต่พวกเขาต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ
เพียงเพราะฝ่ายหนึ่งเป็นพ่อแม่ อีกฝ่ายหนึ่งก็เป็นภรรยา ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงเลือกที่จะปกป้องรักษาหน้าพ่อแม่ตัวเองไว้ก่อน เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญู
เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็นิ่งไปเล็กน้อย
เธอมองไปที่เฟิงจิ่งเหยา
เฟิงจิ่งเหยาสังเกตเห็นเธอจ้องมองมาอย่างงุนงง จึงพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "เรื่องนี้ผมรู้ดีว่าไม่ใช่ความผิดของคุณ แต่ก็ได้แต่เพียงจัดการแบบนี้ไปก่อน ต่อไปผมจะสั่งไปว่าพยายามไม่ให้คนของบ้านใหญ่มาหาเรื่องคุณอีก"
แม้ว่าเขาจะดูเย็นชาขณะที่พูดคำนี้ออกมา แต่กู้ฉางฉิงก็ยังคงได้ยินความจริงใจจากคำพูดของเขา
เธอเม้มริมฝีปาก ไม่รู้เพราะเหตุใดความไม่พอใจเมื่อสักครู่ก็พลันมลายหายไปเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
ผู้ชายคนนี้......แม้จะดูเย็นชา แต่ก็เป็นเพียงแค่เปลือกนอก
อย่างน้อยใจของเขาก็ไม่ได้เย็นชาเช่นนั้น
โดยเฉพาะเมื่อเธอนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกกระทำหลายต่อหลายครั้ง ผู้ชายคนนี้แม้ดูเหมือนจะเข้าข้างพวกคุณนายเฟิง แต่แท้จริงแล้วเขากลับช่วยเธออยู่เสมอ
"ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องรบกวนคุณแล้วนะคะ"
เธอเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม เรื่องนี้ก็ถือว่าจบลงเช่นนี้
......
ทางด้านบ้านใหญ่ เมื่อเฟิงซู่เห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็ได้ตรงไปที่ห้องหนังสือ
คุณนายเฟิงยังคงมีอาการไม่สบอารมณ์อยู่
เรื่องในวันนี้ ถูกนังสารเลวกู้ฉางซินนั่นทำเธอเสียหน้า
ลู่ซือหยี่เห็นเข้าจึงได้รีบเข้าไปปลอบว่า "คุณป้าหมิงคะ ป้าอย่าโกรธไปเลยนะคะ ถ้าคุณป้าโกรธจนเป็นอะไรไป หนูจะต้องทุกข์ใจแน่ ๆ "
เธอใช้คำพูดและน้ำเสียงอ้อดอ้อนเฉาเลาะจนสักพักคุณนายเฟิงก็สามารถวางเรื่องในใจลงได้
"ซือหยี่ ถ้าหนูเป็นภรรยาของจิ่งเหยาจะดีแค่ไหนกัน มีเด็กดีอย่างหนูอยู่ข้างกายทำให้ป้ารู้สึกอายุยืนขึ้นอีกหลายปี ไม่เช่นนั้นไม่ช้าก็เร็วป้าต้องถูกยัยกู้ฉางซินยั่วโมโหจนตายแน่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา