ลู่ซือหยี่ก็อึ้งและเข้าใจเฟิงจิ่งเหยาผิดไปเช่นกัน
เธอนึกว่าเฟิงจิ่งเหยาเข้าข้างเธอ เธอจึงมีความสุขขึ้นมาทันที
เธอมองไปที่กู้ฉางฉิงด้วยท่าทีที่เตรียมพร้อมว่าจะมีอะไรสนุก ๆ ให้ดูแน่
เฟิงจิ่งเหยาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของพวกเขาแต่ก็ไม่ได้สนใจ
เขากวักมือเรียกให้พ่อบ้านยกคอมพิวเตอร์เข้ามา และเปิดไปที่คลิปที่ได้มาจากกล้องวงจรปิด
แม้จะได้ฟังมาจากพวกเขาแล้วว่าไม่พบอะไรผิดปกติจากกล้องวงจรปิด แต่สัญชาตญานก็บอกเขาว่า พวกเขาอาจจะพลาดอะไรบางอย่างไป
เขานั่งลงและตรวจสอบอย่างละเอียด
เมื่อเขาดูจบไปรอบหนึ่งแล้วก็ยังไม่มีวี่แววจะพบเบาะแสอะไร
แต่เขาก็อดทนและตรวจสอบอีกเป็นครั้งที่สอง
ชั่วขณะนั้น ก็เกิดความเงียบขึ้นในห้องรับแขก ทุกคนต่างจ้องมองมาที่เขา
กู้ฉางฉิงเองก็ยืนอยู่ที่ด้านหลังของเขา และมองไปที่ด้านหลังของเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสับสน
เธอบังคับตัวเองให้สงบลงและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรไปพร้อมกับเขา
ด้านลู่ซือหยี่ที่มองไปที่ทั้งสอง คนหนึ่งอยู่ข้างหน้า คนหนึ่งอยู่ข้างหลัง ก็รู้สึกอึดอัดใจมาก
"พี่จิ่งเหยาคะ คลิปนี้ฉันดูกับป้าหมิงหลายครั้งแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะเจอปัญหาอะไร ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรจริง ๆ หรอกค่ะ"
เธออยากให้เฟิงจิ่งเหยานั้นรีบจัดการนังสารเลวกู้ฉางฉิงนี้เสียที จึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า "พี่จิ่งเหยาไม่เชื่อฉัน และก็ยังไม่เชื่อป้าหมิงอีกเหรอคะ?"
เมื่อกู้ฉางฉิงได้ยินสิ่งนี้ ก็มองไปที่เฟิงจิ่งเหยาอย่างไม่สบายใจนัก
อย่างไรก็ตามเฟิงจิ่งเหยาก็ไม่ได้สนใจลู่ซือหยี่ เขาจับจ้องไปที่คลิปกล้องวงจรอย่างตั้งใจ
ทันใดนั้นไม่รู้ว่าเขาพบอะไร แววตาของเขาฉายประกาย และเขาก็กดปุ่มหยุดชั่วคราว
ภาพที่เห็นคือ สาวใช้ของบ้านใหญ่ที่รีบไปเข้าห้องน้ำและชนกับเหอหลินเข้าอย่างจัง
ถ้ามองดูอย่างผิวเผิน ก็จะเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ดูเหมือนเป็นเพียงความรีบเร่งและประมาท แต่เมื่อเฟิงจิ่งเหยาเร่งความเร็วภาพ เบาะแสก็ได้เผยออกมาให้เห็น
สายตาของเขาเพ่งมองไปที่ตรงเอวของเหอหลิน ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างที่สะท้อนแสงอยู่แถวนั้น
เนื่องจากภาพมีขนาดเล็กมาก เฟิงจิ่งเหยาก็ไม่หยุดที่จะปรับภาพ แคปรูป ขยายใหญ่ และทำให้ภาพคมชัดขึ้น ในที่สุดก็สามารถเห็นภาพนั้นได้อย่างชัดเจน แววตาโล่งใจ
และเห็นว่าสิ่งที่สะท้อนแสงวิบวับนั้นแท้จริงแล้วคือสร้อยข้อมือที่ถูกขโมยไปนั่นเอง
และเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เหอหลินที่เป็นคนขโมย แต่คือสาวใช้คนนั้นใช้ช่วงเวลาที่วิ่งชนกันนั้นแอบยัดลงไปในกระเป๋าของเหอหลิน
"เธอยังมีอะไรจะพูดอีกไหม?"
เขามองไปที่สาวใช้คนนั้นถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เย็นชา
เมื่อสาวใช้เห็นดังนั้นก็กลัวมาก ยืนตัวสั่นลนลานอยู่ตรงนั้น ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ลู่ซือหยี่เองก็มีสีหน้าที่ซีดลง
เธอคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่า พี่จิ่งเหยาจะหาเบาะแสจนเจอ
คุณนายเฟิงกับเฟิงซู่ต่างก็นิ่งอึ้งไป
คุณนายเฟิงมองไปที่ลู่ซือหยี่ เห็นว่าเธอมีสีหน้าอาการแปลก ๆ ไป ก็ดึงมือของเธอขึ้นมาตบเบา ๆ ราวกับปลอบใจ
ลู่ซือหยี่ยกมุมปากเผยยิ้มที่ดูน่าเกลียดกว่าร้องไห้ออกมา
ด้านกู้ฉางฉิงก็รู้สึกโล่งใจ
เธอมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาด้วยความรู้สึกผิด
เดิมทีเธอคิดว่าที่ผู้ชายคนนี้พยายามจะสอบสวนเพิ่มเติมก็เพื่อจะช่วยพวกลู่ซือหยี่ คิดไม่ถึงเลยว่าที่แท้เขาทำเพื่อตามหาความจริง
เธออดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก จากนั้นก็ชำเลืองมองไปที่ลู่ซือหยี่โดยไม่ได้พูดอะไร รอดูว่าพวกเขาจะจัดการอย่างไร"
เมื่อเฟิงจิ่งเหยาไม่ได้รับคำตอบจากสาวใช้คนนั้นสักที เขาจึงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาอีกครั้งว่า "ฉันจะถามอีกครั้ง เธอไปทำอะไรที่ห้องน้ำ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา