เมื่อนายท่านเห็นดังนั้น ก็พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า "แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันเกิดของซือหยี่ แต่เรื่องที่ไม่ควรจะให้เข้าใจผิดก็ควรจะหลีกเลี่ยง สมัยที่แกอยู่ต่างประเทศ เรื่องของแกกับฉางซินไม่มีใครรู้ก็ช่างมันเถอะ แต่ตอนนี้ในเมื่อกลับมาแล้ว ฐานะของฉางซินก็ควรจะเปิดเผยให้คนอื่นรู้เสียที"
เมื่อท่านพูดจบ ท่านก็หันไปมองลู่ซือหยี่ที่มีสีหน้าแข็งกระด้าง และพูดอย่างจริงจังว่า "ส่วนเธอก็เหมือนกัน เรื่องที่ฉางซินเป็นพี่สะใภ้ของเธอนั้นเป็นความจริงที่ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และในอนาคต ฉันหวังว่าเธอจะระมัดระวังคำพูดและการกระทำให้มากกว่านี้"
เมื่อลู่ซือหยี่ฟังจนจบ สีหน้าของเธอก็ดูผะอืดผะอม ช่างไม่น่าดู
ราวกับความคิดของเธอถูกทำลายลงภายใต้ดวงอาทิตย์
"คุณปู่เฟิง หนูทราบแล้วค่ะ ต่อไปหนูจะระมัดระวังมากกว่านี้"
เธอกัดฟันตอบกลับไป นัยย์ตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
ตาแก่เฒ่าฆ่าไม่ตายนี่ชอบก้าวก่ายเรื่องคนอื่นดีนัก แล้วก็เอาแต่เข้าข้างนังสารเลวกู้ฉางซิน
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเข้ามาแทรก ป่านนี้คนที่ได้แต่งงานกับเฟิงจิ่งเหยาก็ควรจะเป็นเธอ
เธอโกรธเคืองอยู่ในใจ แต่กลับไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าแต่อย่างใด
เฟิงเทียนหรูคิดว่าเธอคงเข้าใจสิ่งที่เขาพูดอย่างดีแล้ว จึงหันไปมองที่เฟิงจิ่งเหยา
เฟิงจิ่งเหยาส่งสายตาไปทางกู้ฉางซิน ตอบว่า "ต่อไปผมจะใส่ใจให้มากขึ้นครับ"
เฟิงเทียนหรูถึงได้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
"แบบนั้นแหละดี"
ในขณะที่พูด ท่านก็ได้จับมือของกู้ฉางฉิงส่งให้กับเฟิงจิ่งเหยา กำชับว่า "ฉางซิน คืนนี้ติดตามเขาให้ดีดี อย่าแยกจากกันล่ะ"
กู้ฉางฉิงมองดูด้วยอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ยังพยักหน้าตอบด้วยรอยยิ้ม "ได้ค่ะ"
พูดจบ เธอก็หันไปมองที่เฟิงจิ่งเหยา
น่าเสียดายที่เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางใด ๆ
ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกใจหายเบา ๆ
เฟิงเทียนหรูไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งนี้ เขามองไปที่สองมือที่ประสานกันนั้นจึงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า "เอาล่ะ พวกเธอไปดูแลแขกเหรื่อต่อเถอะ ฉันจะไปหาพวกเฟิงซู่สักหน่อย ซือหยี่ก็มาด้วยกันกับฉัน แนะนำพ่อแม่ของเธอให้ฉันรู้จักสักหน่อย"
เมื่อลู่ซือหยี่ได้ยินดังนั้น ก็ไม่รู้จะใช้ข้ออ้างอะไรในการปฏิเสธ ได้แต่ตามท่านไปอย่างไม่เต็มใจ
และแล้วก็เหลือเพียงแค่กู้ฉางฉิงกับเฟิงจิ่งเหยา
กู้ฉางฉิงมองไปที่เฟิงจิ่งเหยาซึ่งดูไม่อาจคาดเดาได้ เม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า "ถ้าอย่างนั้น ถ้าคุณมีธุระก็ไปจัดการเถอะค่ะ ไม่ต้องสนใจสิ่งที่คุณปู่ท่านพูดหรอกค่ะ"
เฟิงจิ่งเหยาจ้องมองเธอ
"โอ้ ฟังดูดีนะ แต่ลับหลังไม่รู้จะไปฟ้องคุณปู่ว่าอะไร"
กู้ฉางฉิงขมวดคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนี้
"คุณหมายความว่าอย่างไร? คุณคิดว่าฉันเป็นคนไปฟ้องคุณปู่ใช่ไหมล่ะ?"
เฟิงจิ่งเหยาไม่ได้ยอมรับแต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คุณควรจะเข้าใจว่าที่ผมต้องอยู่ที่นี่ เพราะเห็นแก่พ่อแม่ของลู่ซือหยี่"
กู้ฉางฉิงหัวเราะ ความโกรธค่อย ๆ พุ่งขึ้นในใจ
คนนอกเช่นเธอยังมองความคิดของพวกเขาออก เธอไม่เชื่อหรอกว่าผู้ชายคนนี้จะไม่รู้อะไรเลย
คำแก้ตัวที่ฟังดูสูงส่งเช่นนี้ เขาก็สามารถพูดมันออกมาจากปากได้
จากนั้นเธอก็ดึงมือกลับและพูดอย่างประชดประชันว่า "ต้องขออภัยจริง ๆ ดูแล้วการมีอยู่ของฉันจะรบกวนเรื่องดี ๆ ของพวกคุณ ถ้าเช่นน้้นคุณสามารถทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนได้เลย เชิญอยู่กับพวกเขาต่อเถอะ"
เมื่อพูดจบ เธอก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
เฟิงจิ่งเหยามองดูเธอจากไปด้วยความโกรธ เขาไม่คิดเลยว่าปฏิกิริยาของเธอจะมากขนาดนี้
ในขณะที่เขาจะตามเธอไปนั้น ก็ได้ยินเสียงซุบซิบจากรอบข้าง
"นี่ เมื่อกี้มันเรื่องอะไรกันน่ะ? คุณชายเฟิงกับคุณหนูลู่เขาคู่กันไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณชายเฟิงถึงอยู่กับผู้หญิงคนนั้นได้ ดูท่าจะทะเลาะกันจบไม่สวยด้วย"
"จะอะไรซะอีก ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่หวังสูง แต่มารู้เข้าว่าคุณชายเฟิงมีคุณหนูลู่อยู่แล้ว ก็เลยทะเลาะกันล่ะสิ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา