สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก นิยาย บท 679

เพียงชั่วพริบตาเดียว เยี่ยเจิ้นถิงก็ตัดสินอย่างแน่ชัดว่าคนคนนั้นคือเฟิงเชียนเสวี่ย...

แม้ว่าเธอจะหายตัวไปเป็นเวลาสองปี แต่รูปร่างหน้าตาของเธอก็ยังฝังลึกอยู่ในใจของเขาเสมอ ไม่ว่าเธอจะหน้าตาเป็นอย่างไร เขาก็จำเธอได้เสมอ!

"แต่เธอบอกว่านามสกุลของเธอคือเหลิ่งนะคะ" เหวินลี่พูดอย่างระมัดระวัง "เหลิ่งเชียนเสวี่ย!"

"เธอเหมือนไม่รู้จักผมกับเหวินลี่ และดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เสแสร้งด้วยนะครับ" ผู้บริหารเจี่ยงเอ่ยเตือนอย่างเคร่งขรึม "เรายังต้องระวังเรื่องนี้ เพราะยังไงซะเธอก็มาจากตระกูลเหลิ่ง!"

"เอาล่ะ พอแล้ว ฉันรู้ว่าควรทำอย่างไรน่า" เยี่ยเจิ้นถิงทำท่าทาง

บอดี้การ์ดเปิดประตูรถจากด้านนอก เหวินลี่และผู้บริหารเจี่ยงเดินลงจากรถไป

"ไปสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับภูมิหลังของหลิ่งเชียนเสวี่ยให้ที"

หัวใจของเยี่ยเจิ้นถิงกำลังปั่นป่วน แต่ภายนอกเขาดูพยายามอย่างมากที่จะสงบสติอารมณ์

“รับทราบครับ” เยี่ยฮุยตอบรับทันที

เยี่ยเจิ้นถิงมองดูวิดีโอที่เล่นอยู่ในแท็บเล็ต ความรู้สึกของเขาซับซ้อนจนบรรยายออกมาไม่ถูก

เป็นเธอจริงๆ เหรอ?

เธอกลับมาแล้ว!

ผ่านการแปลงโฉมและกลับมาพร้อมกับตัวตนอื่น

แค่ได้เริ่มลงมือเขาถูกโจมตีอย่างแรง!

ราวกับเธอจงใจประกาศสงครามกับเขา...

"คุณชายเยี่ยครับผมเจอแล้ว" เยี่ยฮุยวางสายแล้วรีบรายงาน "ข้อมูลระบุว่าคุณเหลิ่งเป็นน้องสาวของเหลิ่งตี้เฟิง เธอเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกามาก่อน และเธอเพิ่งกลับมาในปีนี้เพื่อช่วยเหลิ่งตี้เฟิงดูแลตระกูลเหลิ่ง

ว่ากันว่าเธอถือหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของเหลิ่งซื่อกรุ๊ปและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของเหลิ่งซื่อกรุ๊ปด้วยครับ เธอไม่เคยมีประวัติการแสดงตัวที่ไหนมาก่อนและวันนี้เป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรก! "

"หุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์..." เยี่ยเจิ้นถิงขมวดคิ้ว "เยี่ยเจิ้นอวิ๋นมีหุ้นเพียงสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนต้วนเทียนหยามีเพียงห้าเปอร์เซ็นต์ แม่และลูกชายรวมกันยังไม่ได้เยอะเท่าเหลิ่งเชียนเสวี่ยคนนั้นเลย!"

“ใช่ครับ” เยี่ยฮุยพูดอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่าคุณเหลิ่งจะมีภูมิหลังมากมายเลยครับ”

"ถ้าเป็นเหลิ่งตี้เฟิงที่ช่วยคุณเฟิงในตอนนั้น ทุกอย่างมันก็ดูเหมือนจะเข้าร่องเข้ารอย" สีหน้าของเยี่ยเจิ้นถิงดูเคร่งขรึม "ร่องรอยและหลักฐานหลายอย่างที่เกิดขึ้นที่เชียงใหม่ในวันนั้นถูกลบไปแล้ว หลังจากวันนั้นไม่ว่าจะตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบเฟิงเชียนเสวี่ยเลย ดูเหมือนว่าจะเป็นกลอุบายของตระกูลเหลิ่งนะครับ"