ที่ชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์ เฉิงเว่ยกำลังยืนรับโทรศัพท์อยู่ข้างรถ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เสียงของเพ้ยซานซานดังมาจากด้านหลังว่า "เฉิงเว่ย"
เขากระซิบกับปลายสายที่อยู่ในโทรศัพท์ว่า "แค่นี้ก่อนนะครับ"
เฉิงเว่ยเก็บโทรศัพท์แล้วหันหน้าไป เมื่อเขาเห็นหร่วนซิงหว่านสายตาของเขาก็หยุดชะงักเล็กน้อย
พอเพ้ยซานซานเห็นดังนั้น ก็เลิกคิ้วขึ้นมาครู่หนึ่ง ในที่สุดก็บรรลุผลลัพธ์ที่เธอต้องการแล้ว
หร่วนซิงหว่านยิ้มและกล่าวคำขอโทษต่อเขาว่า "ขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้คุณต้องรอนาน"
เมื่อได้ยินดังนั้น เฉิงเว่ยก็ฟื้นคืนสติกลับมา แล้วพูดว่า "ไม่ ไม่เป็นไรครับ......ผมก็มาถึงได้ไม่นานเท่าไหร่"
เพ้ยซานซานกลั้นยิ้มเอาไว้ แล้วพูดว่า "งั้นก็ไปกันเถอะ คอนเสิร์ตใกล้จะเริ่มแล้ว"
เฉิงเว่ยพยักหน้า "ขึ้นรถกันเถอะ"
ระหว่างทางไปคอนเสิร์ต เพ้ยซานซานพูดคุยกับเฉิงเว่ยด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาตลอดเวลา ส่วนหร่วนซิงหว่านก็ลดหน้าต่างรถลงเล็ก น้อย และรู้สึกถึงอากาศที่สดชื่นจากภายนอก
วันนี้อากาศไม่เลวเลย มีแสงแดดเจิดจ้า และอบอุ่นขึ้นมากเมื่อเทียบกับการลดต่ำลงของอุณหภูมิในช่วงหลายวันที่ผ่านมาแล้ว
เมื่อเห็นว่าจุดสนใจของหร่วนซิงหว่านอยู่ที่อื่น เพ้ยซานซานจึงพุ่งตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย แล้วพูดเบาๆว่า "เฉิงเว่ยฉันสามารถถามคำถามคุณสักคำถามหนึ่งจะได้ไหมคะ?"
เฉิงเว่ยพูดว่า "ได้ครับ ถามมาได้เลย"
เพ้ยซานซานถามว่า "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณเคยมีคนที่คบหาดูใจกันบ้างไหมคะ"
เฉิงเว่ยคงจะคิดไม่ถึงว่าเธอจะถามคำถามนี้ เขาจึงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วจึงตอบว่า "ไม่มีครับ"
"ทำไมล่ะคะ?"
เฉิงเว่ยมองไปยังหญิงสาวที่นอนคว่ำหน้าอยู่ข้างหน้าต่างผ่านกระจกมองหลัง แล้วยิ้มอย่างแผ่วเบาและพูดว่า "บางทีผมอาจจะยังไม่ได้เจอคนที่ใช่มั้งครับ"
เพ้ยซานซานถามอย่างมีเจตนาชี้นำอยู่ว่า "ยังไม่เจอคนที่ใช่ หรือว่าหัวใจเจ้าของแล้วกันแน่คะ"
คราวนี้ เฉิงเว่ยไม่ได้ตอบอะไร แล้วก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรเหมือนกัน
อันที่จริงเขาชอบหร่วนซิงหว่านมาตั้งแต่ตอนที่เรียนหนังสือแล้ว แต่ตอนนั้นทุกคนต่างก็พูดกันว่าเธอกับจี้หวยเจี้ยนถึงจะเป็นคู่กิ่งทองใบหยก และพวกเขาทั้งสองคนก็เหมาะสมกันจริงๆ ซึ่งเขาคิดมาโดยตลอดว่า เขาจะได้แต่งงาน
ดังนั้นแต่ไหนแต่ไรมาเขาจึงไม่มีความคิดอื่นใดอีกเลย แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ ต่อมาจี้หวยเจี้ยนกลับหมั้นหมายกับโจวอานอาน
แต่ในช่วงเวลานั้นก็ไม่มีข่าวคราวของหร่วนซิงหว่านเช่นกัน
และเหตุผลที่เขามาเข้าร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นก็เพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเอง ซึ่งเขาอยากจะพบเธอ
เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร เพ้ยซานซานก็รู้ว่าตัวเองเดาถูกอีกแล้ว จึงพูดปลุกเร้าใจว่า "ถ้าคุณมีคนที่ชอบ ก็ต้องคว้าโอกาสเอาไว้ แล้วบอกความรู้สึกดีๆออกไปให้เขารู้อย่างกล้าหาญให้ได้นะคะ"
เฉิงเว่ยลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดว่า "แต่ผมไม่รู้ว่าเธอคิดยังไงกับผม"
เขากลัวว่าถ้าหากเขาพูดออกไป แม้แต่ความเป็นเพื่อนเขาก็เป็นไม่ได้แล้ว
เพ้ยซานซานจึงพูดว่า "ยังไงก็ตามตอนนี้เธอก็ไม่มีแฟน หาโอกาสลองบอกเธอดูสักครั้งสิคะ"
เฉิงเว่ย "......"
เขาหันหน้าไปมองเพ้ยซานซานด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
ประมาณว่าเขาคงคิดไม่ถึงว่าเธอจะเดาออก
เพ้ยซานซานเชิดคางไปทางเขา แล้วชายตามองไปที่หร่วนซิงหว่านอย่างเงียบๆ และพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงที่สามารถได้ยินเพียงสองคนเท่านั้นว่า "คุณวางใจเถอะ ฉันจะช่วยคุณเอง"
เฉิงเว่ยคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพยักหน้า "โอเค"
บนถนนมีรถติดเล็กน้อย ตอนที่พวกเขาไปถึงด้านนอกของสถานที่จัดคอนเสิร์ตนั้นสีของท้องฟ้าก็มืดลงแล้ว
พอเพ้ยซานซานเห็นคนมาดูคอนเสิร์ตเยอะมาก เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจว่า "เฉิงเว่ย เพื่อนของคุณคงเก่งมากเลยใช่ไหมเนี่ย?"
เฉิงเว่ยยิ้มและพูดว่า "ถูกต้อง เขาเก่งมากเลยครับ ได้รับรางวัลดนตรีระดับนานาชาติมาตั้งหลายรางวัลแหละ "
ตอนที่รอเฉิงเว่ยเอารถไปจอดนั้น เพ้ยซานซานก็ได้ใช้ศอกกระแทกมาที่หร่วนซิงหว่าน แล้วพูดว่า "เฮ้ คำพูดที่ฉันพูดกับเฉิงเว่ยตอนที่อยู่บนรถน่ะ เธอได้ยินแล้วใช่ไหม?"
หร่วนซิงหว่านสับสนเล็กน้อย "ห๊ะ? เธอว่าอะไรนะ?"
ตอนที่อยู่บนรถ เธอเอาแต่เหม่อลอยอยู่ตลอดเวลา เธอก็เลยไม่ได้ยินว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่จริงๆ
เพ้ยซานซานแสดงรอยยิ้มที่ลึกลับออกมา แล้วพูดว่า "ไม่มีอะไร"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...