เฉิงเว่ยขมวดคิ้ว แล้วพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นจะไปตรวจที่โรงพยาบาลดูหน่อยไหมครับ"
"ไม่ต้องค่ะๆ ฉันมักจะป่วยแบบนี้อยู่บ่อยๆ อีกสักพักก็คงหายดีแล้วค่ะ"
ต่อให้เธอจะพูดเช่นนี้ เฉิงเว่ยก็ยังคงรู้สึกเป็นห่วงอยู่เล็กน้อย "ไม่เป็นไรจริงๆเหรอครับ?"
หร่วนซิงหว่านพยักหน้าอย่างหนักแน่น "จริงค่ะ"
เฉิงเว่ยเม้มริมฝีปาก แล้วพูดว่า "งั้นก็ได้ครับ ถ้าอีกสักพักยังไม่สบายอยู่ เราจะต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลตามที่ผมพูดนะครับ"
"ตกลงค่ะ"
โชคดีที่แสงสว่างในที่นั่งของผู้ชมมืดมาก และเฉิงเว่ยก็เลยไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
หลังจากที่รอจนกว่าเฉิงเว่ยถอนสายตากลับไปแล้ว หร่วนซิงหว่านก็หันหน้ามามองโจวฉือเซิน ขมวดคิ้วอย่างดุร้าย แล้วพูดด้วยการวาดรูปปากออกมาว่า "ปล่อยฉัน!"
โจวฉือเซินแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน และมองไปทางเวที
หร่วนซิงหว่านสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วยกเท้าขึ้นไปเหยียบเท้าของเขาอย่างไม่เกรงใจ
รองเท้าที่เธอใส่ในวันนี้คือรองเท้าส้นสูง เมื่อเธอเหยียบเท้านี้ลงไป มันจะทำให้เขาได้รับความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
เป็นไปตามที่คาดเอาไว้จริงๆ เสียงอู้อี้เบาๆของผู้ชายคนหนึ่งได้ดังขึ้นมาจากข้างๆ
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ปล่อยมือข้างนั้นที่กุมมือเธอเอาไว้อยู่ดี
และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่หร่วนซิงหว่านได้เห็นว่าเขาหน้าด้านไร้ยางอายขนาดนี้ เธอก็เลยรู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมาในทันที
และตอนที่เธอกำลังจะเหยียบเท้าที่สองลงไป โจวฉือเซินก็ได้ปล่อยมือของเธออย่างรวดเร็ว
หร่วนซิงหว่านหัวเราะเยาะและสมน้ำหน้าเขา
หลังจากที่เหตุการณ์ที่ไร้สาระนี้ผ่านพ้นไปแล้ว หร่วนซิงหว่านก็ไม่มีกะจิตกะใจดูคอนเสิร์ตแล้ว เธอจึงถือโอกาสตอนที่Danielลงเวทีมาเตรียมจะเปลี่ยนชุด หันหน้าไปพูดเบาๆว่า "เฉิงเว่ย ต้องขอโทษด้วยค่ะ ฉันมีธุระนิดหน่อย ต้องขอตัวไปก่อนนะคะ"
พอพูดจบ หร่วนซิงหว่านก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
เฉิงเว่ยเห็นดังนั้น จึงรีบตามไป แล้วพูดว่า "ให้ผมไปส่งคุณนะครับ"
แต่เมื่อเดินผ่านที่นั่ง เขากลับพบโดยไม่คาดคิด โจวฉือเซินจะนั่งอยู่ในตำแหน่งเดิมของเพ้ยซานซาน ทำให้สีหน้าของเขาจืดไปหมดจนดูไม่ออกเลยว่าเขามีความรู้สึกยังไง
ด้วยความมีมารยาท เฉิงเว่ย จึงพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อทักทายเขา
ในขณะที่มองพวกเขาเดินตามหลังกันออกไป โจวฉือเซินก็เลียริมฝีปากบางๆของตัวเอง และลู่สายตาลงมองฝ่ามือที่ราวกับว่ายังมีความอบอุ่นค้างอยู่ของตัวเอง แล้วก็ลุกขึ้นตามไปเช่นกัน
เพ้ยซานซานกำลังนั่งอยู่ในที่นั่ง มองไปที่ประตูทางออก และมองขึ้นไปบนเวทีอีก จนในที่สุดเธอก็ทำได้เพียงกระทืบเท้า แล้วเดินตามออกไป
บนระเบียงทางเดิน เฉิงเว่ยร้องเรียกหร่วนซิงหว่านเอาไว้ว่า "ซิงหว่าน คุณยังรู้สึกไม่สบายอยู่ใช่หรือเปล่า?"
หร่วนซิงหว่านหยุดฝีเท้าลง แล้วหันไปส่ายหน้าและพูดว่า "เปล่าค่ะ ฉันก็แค่มีธุระนิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ"
"งั้นคุณจะไปไหน ให้ผมไปส่งคุณนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นหรอกค่ะ ฉันไปเองได้ คุณรีบกลับเข้าไปข้างในเถอะ"
เฉิงเว่ยยิ้มแล้วพูดว่า "พอดีผมก็รู้สึกว่าข้างในมันอุดอู้อยู่บ้างเหมือนกัน ก็เลยอยากออกมาเดินสักหน่อย ให้ผมไปส่งคุณจนถึงหน้าประตูเถอะครับ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หร่วนซิงหว่านก็คิดว่าถ้าปฏิเสธเขาอีกครั้งคงไม่ดีแน่ ทั้งสองจึงเดินออกไปข้างนอกด้วยกัน
ผ่านไปสักพัก เฉิงเว่ยก็พูดว่า "ซิงหว่าน ตอนเย็นวันพรุ่งนี้ถ้าคุณมีเวลาว่าง ผมขอเลี้ยงข้าวได้ไหมครับ?"
หร่วนซิงหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้สึกผิดมากจริงๆที่ต้องจากไปแบบนี้ในวันนี้ "มีเวลาค่ะ แต่เปลี่ยนเป็นให้ฉันเลี้ยงเถอะค่ะ วันนี้ฉันต้องขอโทษคุณจริงๆนะคะ"
"ไม่เป็นไรครับ คุณไม่ต้องไปใส่ใจอะไรหรอกครับ"
หร่วนซิงหว่านยิ้มและพูดว่า "ได้ค่ะ อีกเดี๋ยวถ้ากลับไปถึงบ้านแล้วฉันจะบอกซานซานด้วยนะคะ พวกเราเจอกันพรุ่งนี้นะคะ"
"ซิงหว่าน" ทันใดนั้นเฉิงเว่ยก็พูดออกมา "ผมอยากให้พรุ่งนี้มีแค่พวกเราสองคน ไม่ต้องชวนซานซาน"
หร่วนซิงหว่านตกใจและตกตะลึงเล็กน้อย
เฉิงเว่ยเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาของเธอ และถามหยั่งเชิงไปว่า "ได้ไหมครับ?"
ในระหว่างที่หร่วนซิงหว่านไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดีนั้น ด้านหลังของพวกเขาก็มีเสียงที่เย็นชาของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมาว่า "ไม่ได้"
เฉิงเว่ยหันหน้ากลับไป แล้วพูดว่า "ประธานโจว?"
โจวฉือเซินเดินมายืนอยู่ข้างๆหร่วนซิงหว่าน แล้วมองไปทางเฉิงเว่ยและพูดว่า "พรุ่งนี้เธอมีธุระแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...