โจวฉือเซินที่มีท่าทางแยกงานออกจากเรื่องส่วนตัว เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า "คืนนี้มีปาร์ตี้เล่นไพ่คุณไปกับผม"
หร่วนซิงหว่านชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า "ได้"
"คราวนี้สามารถไปกินข้าวได้แล้ว?"
หร่วนซิงหว่านหัวเราะแห้งๆ พลางส่งเอกสารคืนให้เขา "ประธานโจวตามสบาย"
โจวฉือเซินพิงร่างเข้ากับเบาะนั่งทางด้านหลัง นัยน์ตาดำปรือลงเล็กน้อย
ผ่านไปไม่ถึงสองนาที เสียงโทรศัพท์มือถือของหร่วนซิงหว่านก็ดังขึ้น
เป็นเฉิงเว่ยที่โทรมา
หร่วนซิงหว่านหันหน้าไปมองชายหนุ่มที่ไม่รู้ว่าหลับจริงหรือแกล้งหลับครู่หนึ่ง หลังจากลังเลอยู่ไม่กี่วินาที ก็กดรับสาย
เฉิงเว่ยเอ่ย "ซิงหว่าน ผมได้ฟังเรื่องจากซานซานแล้ว ต้องการให้ผมช่วยไหม"
หร่วนซิงหว่านคิดจะเอ่ยว่าไม่ต้องตามจิตใต้สำนึก แต่เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปากแล้ว ก็เปลี่ยนเป็น "ค่ะ ขอบคุณนะคะ"
โจวฉือเซินที่อยู่ด้านข้างค่อยๆลืมตาขึ้นมา
หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว หร่วนซิงหว่านก็หันหน้ากลับมาสบเข้ากับนัยน์ตาสีนิลลุ่มลึกสงบนิ่งของชายหนุ่มเข้าพอดี
โจวฉือเซินเบนสายตาออกไป เอ่ยเรียบๆว่า "ถึงแล้ว ลงจากรถ"
เดิมหร่วนซิงหว่านคิดอยากจะยืนหยัดตามหลักการของตัวเองว่าอย่างไรก็จะไม่กิน แต่สำหรับคนที่ยังไม่ได้กินอาหารกลางวันคนหนึ่งนั้น การนั่งมองคนอื่นกินข้าวตรงหน้าเธอนั้นเป็นการทรมานอย่างหนึ่งจริงๆ
เธอสูดลมหายใจลึก ออกจากร้านอาหารไปซื้อของกิน
โจวฉือเซินมองแผ่นหลังของเธอ เอ่ยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกว่า "สมองของคุณบรรจุอะไรเอาไว้กัน"
หลินหนานที่ยืนอยู่ด้านข้างไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามนี้อย่างไร
ท่าทีในครั้งนี้ของคุณผู้หญิงชัดเจนมาก ขีดเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างทั้งสองคนอย่างชัดเจน
แม้ว่าประธานโจวจะสร้างโอกาสขึ้นมาอย่างไร ก็คาดว่ามีประโยชน์ไม่มากนัก
ส่วนสิ่งที่หร่วนซิงหว่านคิดนั้นง่ายดายมาก ในเมื่ออย่างไรก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพบหน้ากับผู้ชายเฮงซวยคนนั้นได้ ก็มิสู้เผชิญหน้าอย่างเยือกเย็นเสียเลย
โจวฉือเซินลุกขึ้นเดินตามออกไป
ด้านนอก หร่วนซิงหว่านเพิ่งจะถือกล่องข้าวออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ตอนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะหักตะเกียบเตรียมตัวกินนั้น กล่องข้าวตรงหน้าก็ถูกคนดึงไปกะทันหัน ถัดมา ตะเกียบที่อยู่ในมือก็หายไปด้วย
หร่วนซิงหว่านประหลาดใจและหงุดหงิดเล็กน้อย "ประธานโจวกำลังกินข้าวอยู่ไม่ใช่หรือ"
"ไม่อร่อย"
"ร้านอาหารราคาแพงขนาดนั้น จะไม่อร่อยได้อย่างไรกัน"
โจวฉือเซินเอ่ยเรียบๆ "อย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่กิน"
หร่วนซิงหว่าน "......."
โจวฉือเซินไม่สนใจเธออีก หยิบตะเกียบขึ้นมากินข้าวกล่องที่เธอเพิ่งจะซื้อมา
หร่วนซิงหว่านรู้สึกว่าตัวเองอยู่ห่างจากอาการโกรธแทบตายอยู่เล็กน้อย
เธอเม้มริมฝีปาก เดินเข้าไปซื้อข้าวในร้านสะดวกซื้อออกมาอีกกล่อง หลังจากออกมา ก็เปลี่ยนที่นั่ง
โจวฉือเซินวางตะเกียบ เอาลิ้นดุนแก้ม
หลังจากกินข้าวแล้ว หร่วนซิงหว่านก็รู้สึกว่าคอแห้ง ตอนที่กำลังคิดจะไปซื้อน้ำขวดหนึ่งในร้านสะดวกซื้อ น้ำอุ่นที่มีควันร้อนแก้วหนึ่งก็ถูกวางลงตรงหน้าเธอ
หร่วนซิงหว่านเงยหน้ามองไปทางชายหนุ่มที่อยู่อีกด้าน
ก่อนที่เธอจะหาเหตุผลมาปฏิเสธ โจวฉือเซินก็เอ่ยว่า "ถือว่าเป็นการจ่ายเงินค่าข้าวของคุณ ไม่ดื่มก็โยนทิ้งไป"
เอ่ยจบแล้ว เขาก็เดินตรงไปยังรถโรลส์-รอยซ์ที่จอดนิ่งอยู่ข้างถนน
หร่วนซิงหว่านมองเขาแล้วมองน้ำร้อนที่อยู่บนโต๊ะ
ผู้ชายเฮงซวยนั่นพูดมีเหตุผล นี่คือสิ่งที่เขาจ่ายคืนให้เธอ
เธอไม่จำเป็นต้องถือสาอะไรกับตัวเอง
หร่วนซิงหว่านหยิบน้ำแก้วนั้นขึ้นมา เงยหน้าดื่มลงไป
.......
มู่สื้อ
ต่อให้หร่วนซิงหว่านฝันก็คิดไม่ถึงว่าจะมีวันหนึ่งที่เธอจะเดินเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ด้วยกันกับโจวฉือเซินอีกครั้ง
แต่ก็ประหลาดมาก ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่มาที่นี่ เธอล้วนรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังและการดูหมิ่นเหยียดหยามของต้นกล้าที่งอกเงยหยั่งรากลึกขึ้นมา
แต่ในครั้งนี้กลับไม่มีความรู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย
น่าจะเป็นเพราะการหวนคำนึงถึงอดีตที่ผ่านไปแล้วและไม่มีทางหวนคืนมา ทำให้เศร้าจนยากจะทานทนไหว ล้วนค่อยๆเลือนหายไปตามการตายของหร่วนจุน
ตอนที่หร่วนซิงหว่านเก็บงำความรู้สึกคืนมา กลับพบว่าโจวฉือเซินมองไปยังมุมหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่อย่างอ่านอารมณ์ไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...