หร่วนซิงหว่านมาถึงชั้นล่างของโรงแรมแล้ว พนักงานของบริษัทเทคโนโลยีดาวสว่างก็ลงมาแล้วเช่นกัน
จะมีเพียงเฉิงเว่ยเท่านั้นที่ยังไม่โผล่มา
ผ่านไปสักพัก เขาก็ยังไม่ปรากฏตัว
พนักงานบริษัทเทคโนโลยีดาวสว่างต่างยืนมองซ้ายมองขวา ซุบซิบกันประปราย
พอผู้ช่วยเตรียมที่จะขึ้นไปชั้นบนเพื่อเรียกเฉิงเว่ย เขาก็เดินออกมาจากโรงแรมพอดี ก่อนจะขอโทษแล้วยิ้มๆ " ผมทำให้ทุกคนรอนานเกินไปแล้ว เราออกเดินทางเถอะ "
เดินทางไปร้านอาหารแห่งนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น เคียงแป๊บเดียวก็ถึงที่หมาย
เมื่อรอให้ทุกคนทยอยออกไปแล้ว เฉิงเว่ยก็เดินไปยืนข้างๆ หร่วนซิงหว่าน: " ซิงหว่าน เราก็ไปกันเถอะ "
หร่วนซิงหว่านกำลังจะพยักหน้ารับ ตาของเธอก็เหลือบไปเห็นแผลที่มุมปากข้างหนึ่งของเฉิงเว่ยแตก และมีรอยเลือดไหลออกมา
เธอตกใจจนพูดว่า: " คุณเป็นอะไรคะ? "
เฉิงเว่ยเอียงหัวไปด้านข้าง แล้วจะยกมือขึ้นมาเช็ด: " ไม่มีอะไรหรอก พอดีไม่ระวังเลยเดินไปชนอะไรเข้าน่ะ "
หร่วนซิงหว่านดึงมือของเขาออก: " คุณอย่าขยับสิ "
จากนั้นเธอก็รีบหยิบแผ่นแอลกอฮอล์จากในกระเป๋า แล้วฉีกมันส่งให้เขา : " อย่าใช้มือโดนค่ะ ฆ่าเชื้อก่อนเถอะ "
เฉิงเว่ยไม่ได้รับไว้: " ผมมองไม่เห็นน่ะ ซิงหว่าน คุณช่วยผมหน่อยได้ไหม? "
หร่วนซิงหว่านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า
เธอใช้แผ่นแอลกอฮอล์เช็ดลงบนแผลของเขาเบาๆ ท่าทีดูตั้งใจและละเอียดลออสุดๆ
ไม่ไกลนะ โจวฉือเซินที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าโรงแรม ไม่เห็นฉากนั้น สายตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที และมีกลิ่นอายเย็นยะเยือกแผ่ออกมา
หลินหนานที่อยู่ด้านหลังเขาถอยไปหนึ่งเก้าโดยไม่ส่งเสียง และเริ่มเอาตัวห่างออกไปจากเขา
แต่หร่วนซิงหว่านที่เช็ดแผลให้เฉิงเว่ยได้เพียงครึ่งเดียว เมื่อสบตาเข้ากับสายตาที่ดูลึกซึ้งของเขา เธอก็หยุดชะงักและแข่งทื่อ ก่อนจะค่อยๆ เก็บตากลับ: " พอ... พอได้แล้วค่ะ "
เฉิงเว่ยยิ้ม: " ขอบคุณครับ "
หร่วนซิงหว่านเหมือนทำตัวไม่ถูก ก่อนจะเอามือรูปพอแล้วมองไปทางอื่น
เฉิงเว่ยพูดต่อ" พวกเขาที่เดินอยู่ข้างหน้าคงใกล้จะถึงกันแล้ว พวกเรารีบตามไปกันเถอะครับ "
" ค่ะ "
ระหว่างทางที่เดินไปร้านอาหาร หร่วนซิงหว่านรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ไม่สบายใจเลย
เฉิงเว่ยก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งสองก็เงียบใส่กันแล้วเดินไปเรื่อยๆ
ในที่สุดหร่วนซิงหว่านกับเฉิงเว่ยก็มาถึงร้านอาหาร คนอื่นก็นั่งกันจนครบแล้ว
ที่นั่งของเธอกับเฉิงเว่ยจึงอยู่ด้วยกัน และอยู่ในตำแหน่งสำหรับผู้บริหารของบริษัทเทคโนโลยีดาวสว่าง
ผู้บริหารพรุ่งนี้โดยปกติแล้วอายุก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ ก็จะอยู่กันที่ประมาณยี่สิบถึงสามสิบปี โดยปกติพวกเขาก็มีปฏิสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับเฉิงเว่ย เมื่อพวกเขานั่งลงแล้วก็มีคนพูดหยอกขึ้นมาว่า: " ถ้าก่อนหน้านี้รู้ว่าเอาแฟนมาด้วยได้นะ ผมคงไม่ต้องมานั่งอิจฉาประธานเฉิงกับแฟนแบบนี้ตอนกลางวันแสกๆ หรอก "
" ใช่ไหมล่ะ ประธานเฉิง คุณเอาแฟนมาด้วย ไม่บอกให้พวกเรารู้จักคำ เรื่องนี้ไม่ค่อยยุติธรรมเลยนะเนี่ย "
เฉิงเว่ยหัวเราะและพูดตอบ: " พวกคุณก็ว่าไป ก่อนหน้านี้ผมก็บอกไปแล้วว่าเอาคนเดียวครอบครัวมาได้ "
ทั้งกลุ่มก็พากันโวยวาย แล้วก็มีคนพูดขึ้นมาอีกว่า " ประธานเฉิง แนะนำแฟนให้พวกเรารู้จักหน่อยสิ ไม่งั้นคนนั่งตรงแถวนั้นคงอึดอัดตาย "
เฉิงเว่ยพูด: " อย่าเอะอะไป ยังไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย "
หร่วนซิงหว่านยิ้มน้อยๆ แล้วพยักหน้า ก่อนจะแนะนำตัว: " สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อหร่วนซิงหว่านค่ะ "
ดูจากสถานการณ์ตอนนั้น คนบนโต๊ะก็เริ่มมองหน้ากันไปมา
จากสภาพแล้ว ประธานเฉิงคงยังไม่ได้ครอบครองเธอคนนี้สินะ
จริงๆ แล้วกลุ่มนี้เรียกได้ว่ากลุ่มคนอัจฉริยะ ดีเลิศกว่าใครๆ เลยไม่ได้พูดคุยอะไรต่อ ทักทายเสร็จแล้ว ก็เลยเริ่มเปลี่ยนประเด็นไปคุยเรื่องอื่นแทน
พอผ่านไปสักพัก ก็มีคนถามขึ้นมา: " คุณหร่วน ทำไมผมรู้สึกคุณหน้าคุณ เราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ? "
อีกคนหนึ่งก็พูดหยอกขึ้นมาว่า: " พอทีเถอะ แมวก็คุ้นหน้ากับผู้หญิงสวยๆ ทุกคนนั่นแหละ "
" ไม่ใช่ ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นี่นา รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน..... "
เฉิงเว่ยเลยอธิบายว่า: " ก่อนหน้านี้ซิงหว่านเป็นนักออกแบบของเครื่องประดับเซิ่งกวางกรุ๊ป เคยเข้าร่วมงานแถลงข่าวของแบรนด์น่ะ ก็เลยมักจะเห็นเธอบ่อยๆ "
คนที่อยู่ข้างๆ ก็พูดต่อ: " มิน่าล่ะ เมื่อกี้ผมก็ไม่กล้าทักออกมา จริงๆ แล้วผมก็รู้สึกคุ้นหน้าคุณหร่วนเหมือนกัน ฮ่าๆๆ "
หลังจากทุกคนหัวเราะกันยกใหญ่ หัวข้อสนทนานี้ก็ผ่านไป
จะมีเพียงแค่ผู้บริหารที่พูดขึ้นมาว่าคุ้นหน้าหร่วนซิงหว่านคนนั้น กลับขมวดคิ้ว
เหมือนจะรู้สึกว่าเคยเห็นเธอก่อนหน้านั้นอีก
หลังจากอาหารกลางวันแล้ว ก็ให้ทุกคนทำกิจกรรมตามอัธยาศัย บางคนก็ไปแช่น้ำร้อน และบางคนก็ไปตีกอล์ฟ หรืออาจจะไปยิงธนูก็ได้
รีสอร์ตแห่งนี้ใหญ่มาก กิจกรรมที่ครอบคลุมก็มีมากเช่นกัน
ดังนั้นบริษัทใหญ่ที่มีความเป็นวัยรุ่นอย่าง รีสอร์ตแห่งนี้จึงเป็นที่ที่พวกเขาเลือกเป็นอันดับแรก
ตอนนี้หร่วนซิงหว่านคงไม่ต้องคำนวณถึงสถิติที่จะได้เจอโจวฉือเซินหรอก แต่พูดได้เลยว่าผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนี้มันเก่งเกินใคร
เพราะทุกคนทุกแห่งจะต้องมีกิจการของโจวซื่อกรุ๊ปอยู่เสมอ
เมื่อทั้งสองออกมาเดินเล่น ก็มักจะคุยกันเสมอ
เมื่อพวกเขาเดินไปถึงสนามกอล์ฟแล้ว ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามา: " ประธานเฉิงคะ ดีใจจังที่เจอคุณ ฉันตีกอล์ฟไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ คุณช่วยสอนฉันหน่อยได้ไหมคะ? "
เฉิงเว่ยนิ่งไปพักหนึ่ง: " ผม..... "
หญิงสาวคนนั้นก็หันไปมองหร่วนซิงหว่าน จากนั้นก็กะพริบตาโตคู่นั้นปริบๆ โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร: " พี่สาวคงจะไม่รังเกียจฉันหรอกใช่ไหมคะ ฉันแค่ต้องการให้ประธานเฉิงสอนฉันตีกอล์ฟก็เท่านั้น แป๊บเดียวเดี๋ยวฉันจะคืนเขาให้พี่ทันทีเลยค่ะ "
หร่วนซิงหว่านฉีกยิ้มแต่ก็ไม่พูดอะไร
ทำไมเธอจะฟังไม่ออกว่าอีกฝ่ายจงใจ แต่ยังไงเธอก็ไม่ใช่แฟนของเฉิงเว่ยสักหน่อย เลยไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธอยู่แล้ว
ยิ่งฟังก็ยังพูดต่อ: " ประธานเฉิง ขอร้องเถอะนะคะ พวกเขาตรงโน้นมองอยู่อ่ะค่ะ "
เฉิงเว่ยก็เป็นคนที่ปฏิเสธไม่เป็นกับเรื่องอะไรพวกนี้อยู่แล้ว ก็เลยถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้: " ก็ได้ครับ "
" ดีจังเลยค่ะ ขอบคุณนะคะประธานเฉิง " พูดจบ ผู้หญิงคนนั้นก็มองไปยังหร่วนซิงหว่าน " ขอบคุณพี่สาวด้วยเหมือนกันนะคะ "
รอยยิ้มของหร่วนซิงหว่านเริ่มจะดูขอไปทีมากกว่าเดิม
ผู้หญิงคนนี้ดูยังไงก็ปล่อยรังสีความอ่อยไปหมดทั้งตัวแล้ว
เฉิงเว่ยพูดกับหร่วนซิงหว่านว่า: " ซิงหว่าน พวกเราไปตรงโน้นเถอะ "
หร่วนซิงหว่านพยักหน้าเบาๆ : " ค่ะ "
หญิงสาวลากเฉิงเว่ยไป พร้อมกระโดดรถเต้นแล้วเดินต่อไปข้างหน้า
แต่หร่วนซิงหว่านกลับต้องเดินช้าๆ ตามจากข้างหลัง
เห็นพวกเขาเดินไปแล้ว จู่ๆ ในหัวของหร่วนซิงหว่านก็ผุดความคิดบางอย่างขึ้นมา
ถ้าเป็นผู้ชายนิสัยไม่ดีอย่างโจวฉือเซินมาเจอสถานการณ์แบบนี้ เขาคงจะตอบอยู่สองแบบ " ทำไม่ได้แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม " หรืออาจจะเป็น " เรื่องง่ายแค่นี้ยังทำไม่ได้ เธอผ่านการสัมภาษณ์มาได้ไง? "
คำพูดของผู้ชายนิสัยไม่ดีมักจะเป็นพิษและเหน็บแนมอยู่เสมอนั่นแหละ
พอคิดถึงตรงนี้แล้ว หร่วนซิงหว่านก็อดไม่ได้ที่จะขำมา
กำลังจะเธอขำออกมาแล้ว เธอก็ระงับอารมณ์เอาไว้
นี่เธอบ้าไปแล้วเหรอ คิดอะไรอยู่กันเนี่ย
หร่วนซิงหว่านใช้มือตบหน้าตัวเอง เพื่อหวังที่จะให้ตัวเองตื่นจากภวังค์สักที
ช่วงนี้ถึงผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนั้นจะไม่มาก่อกวนเธอแล้ว แต่ทำไมนับวันเธอยิ่งสติหลุดลอยแบบนี้นะ
อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากที่หญิงสาวพาเฉิงเว่ยไปแล้ว ก็หันไปยิ้มและเชิดหน้าชูตาคอใส่เพื่อนร่วมงานอย่างน่าภูมิใจ แล้วก็หันหน้ามาทางเฉิงเว่ย จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงออเซาะ: " ประธานเฉิง เห็นเขาบอกว่าควรจะจับไม้กอล์ฟแบบนี้ คุณว่ามันถูกไหมคะ? "
เฉิงเว่ยที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ ก็พยายามรักษาระยะห่างจากเธอให้เหมาะสม แล้วช่วยจัดท่าทางให้เธอ: " ไม่ใช่ครับ ต้องทำแบบนี้ "
" แบบนี้ใช่ไหมคะ? "
หญิงสาวจงใจแกล้งจับไม้ผิดอยู่หลายครั้ง
เฉิงเว่ยถอนหายใจ แล้วจะไปที่ข้อมือของเธออย่างสุภาพ: " ตรงนี้ "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว