หลังจากเฉิงเว่ยพาหร่วนซิงหว่านไปส่งที่ห้องแล้ว ก็ยื่นคีย์การ์ดห้องพักให้เธอ "ซิงหว่าน ผมพักอยู่ห้องตรงข้าม อีกครู่หนึ่งตอนที่ถึงเวลาลงไปที่ชั้นล่าง ผมจะมาเรียกคุณ"
หร่วนซิงหว่านยิ้มน้อยๆ และพยักหน้า "ค่ะ"
เมื่อเข้าไปในห้อง หร่วนซิงหว่านก็วางสัมภาระลงแล้วไปล้างหน้าที่ห้องอาบน้ำ ก่อนจะเดินไปที่ระเบียงและพิงตัวเข้ากับรั้วเพื่อให้ลมพัดผ่าน
ห้องนี้ของเธออยู่ตรงข้ามกับทะเลสาบที่ถูกขุดขึ้นพอดี เมื่อมองจากที่ไกลๆ ผิวน้ำทะเลสาบนั้นสวยกว่าแต่ก่อนมาก เหมือนกับประดับไปด้วยอัญมณีขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วน ทอแสงประกายระยิบระยับ
หร่วนซิงหว่านโคลงศีรษะครู่หนึ่ง ความคิดสับสนวุ่นวายเหล่านั้นก็ล้วนปลิวออกไปจากสมอง
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่อง เธอบิดขี้เกียจอย่างรู้สึกสบายตัว เมื่อหันกลับไปกลับพบว่าระเบียงห้องข้างๆมีคนคนหนึ่งยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
หร่วนซิงหว่าน "......."
ท่าทางบิดขี้เกียจของเธอค้างอยู่กลางอากาศ ทั่วทั้งร่างแข็งทื่อไปหมด
ส่วนโจวฉือเซินกลับทำราวกับไม่เห็นการคงอยู่ของเธอ เพียงแต่มองไปด้านหน้านิ่งๆ เครื่องหน้าทั้งห้าเคร่งขรึมเสียจนมองไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึก
หร่วนซิงหว่านค่อยๆเก็บมือกลับมา ริมฝีปากขยับเล็กน้อย คล้ายกับลังเลว่าจะเอ่ยปากดีหรือไม่
เรื่องที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นหนึ่งในหมื่นเช่นนี้ไม่สามารถใช้คำว่าบังเอิญมาอธิบายได้หรอกนะ
นี่มันดูจะจงใจมากเกินไปแล้ว
ผู้ชายเฮงซวยคนนี้คิดจะทำอะไรอีก?
ไม่จบไม่สิ้นจริงๆ
หร่วนซิงหว่านก้าวขึ้นไปด้านหน้าก้าวหนึ่ง "โจว...."
"ประธานโจว นี่คือรายงานบัญชีของรีสอร์ทตลอดทั้งปีนี้ รวมไปถึงแผนการพัฒนาในปีหน้าครับ พวกเราเตรียมซ่อมแซมสวนน้ำ และเพิ่มเติมเครื่องเล่นข้างริมทะเลสาบที่ถูกขุดด้วยครับ"
หร่วนซิงหว่านตะลึงมองภาพเบื้องหน้า ด้วยท่าทางมึนงง
ตอนนี้เองที่ชายหนุ่มคล้ายกับว่าเห็นเธอ จึงหันหน้ามา และเอ่ยอย่างมีมารยาทว่า "คุณสุภาพสตรี ผมคือผู้จัดการโรงแรมแห่งนี้ มีอะไรต้องการให้ช่วยเหลือไหมครับ"
"ขอ...ขอโทษค่ะ"
หร่วนซิงหว่านรีบวิ่งกลับไปในห้อง รู้สึกกระอักกระอ่วนจนแทบจะไม่ไหว
สิ่งที่โชคดีเพียงหนึ่งเดียวของเธอในตอนนี้ก็คือยังไม่ได้เอ่ยออกไป
ไม่อย่างนั้นก็ไม่แน่ว่าผู้ชายเฮงซวยคนนั้นจะเยาะเย้ยเธอว่าคิดไปเองอย่างไรอีก
ริมระเบียง
โจวฉือเซินพลิกรายงานบัญชีตรงหน้า หลังจากนั้นก็ยื่นเอกสารคืนไป
ผู้จัดการเอ่ยว่า "โครงการสวนน้ำนั้น ประธานโจวคิดว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ"
"ทำรายละเอียดโครงการอย่างละเอียดให้ผม" ระหว่างที่เอ่ย โจวฉือเซินก็เหลือบตามองไปยังริมระเบียงที่ไร้ผู้คนข้างๆ หลังจากนั้นก็มองไปยังทะเลสาบที่อยู่ไกลๆ น้ำเสียงสงบนิ่ง "เพิ่มพื้นที่สำหรับเด็กๆเข้าไปอีกหนึ่ง"
ผู้จัดการน่าจะคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้ หลังจากประหลาดใจไปครู่หนึ่ง ก็มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว ตอบว่า "ได้ครับ ผมจะรีบให้พวกเขาเขียนร่างแผนการออกมาอย่างเร็วที่สุด"
โจวฉือเซินจัดแขนเสื้อ หมุนกายเดินกลับไปในห้อง
รอจนผู้จัดการจากไปแล้ว ผ่านไปไม่นาน หลินหนานก็เคาะประตูแล้วเข้ามา "ประธานโจว แผนงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทเทคโนโลยีดาวสว่างตรวจสอบชัดเจนแล้วครับ" โจวฉือเซินนั่งอยู่บนโซฟา นิ้วเรียวยาวเคาะไปบนหัวเข่า "พูด"
"ตอนกลางวันพวกเขาจะกินข้าวกันที่ร้านอาหารบนทะเลสาบ ตอนบ่ายมีกิจกรรมล่องเรือเที่ยวและพักผ่อนอื่นๆ สามารถเลือกเข้าร่วมเองได้ ตอนกลางคืนทุ่มหนึ่งจะเริ่มงานเลี้ยงในห้องจัดเลี้ยงอย่างตรงเวลา พรุ่งนี้เช้าก็จะเป็นกิจกรรมปีนเขา หลังจากกินอาหารกลางวันแล้วก็จะกลับเมืองหนานเฉิงครับ"
โจวฉือเซินเอ่ย "จัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม"
หลินหนานพยักหน้า "ประธานโจววางใจได้ครับ ล้วนสั่งการลงไปล่วงหน้าแล้ว"
โจวฉือเซินเลิกคิ้วเล็กน้อย หันหน้าไปมองนอกหน้าต่างอย่างไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
.......
หร่วนซิงหว่านล้างหน้าด้วยน้ำเย็นไปสองนาทีเต็มๆกว่าจะทำให้ความกระอักกระอ่วนที่ล้อมรอบตัวเองอยู่หายไปได้บ้าง เธอก็ไม่รู้ว่ามีสาเหตุจากตัวเอง หรือว่าจากห้องนี้กันแน่ที่มักจะทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก
เธอเดินออกไป เตรียมจะลงไปเดินเล่นที่ชั้นล่าง สูดอากาศบริสุทธิ์
แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะพบกับผู้จัดการโรงแรมที่รายงานเรื่องงานให้กับโจวฉือเซินเมื่อครู่นี้ในลิฟต์โดยสารพอดี
ฝ่ายตรงข้ามจำเธอได้ จึงพยักหน้าให้เธอเล็กน้อย
หร่วนซิงหว่านยิ้มบางๆ พิงร่างเข้ากับผนังลิฟต์โดยสาร มองเลขที่ชั้นที่ค่อยๆขยับลงไปด้านล่างอย่างช้าๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆเธอก็เอ่ยถามว่า "โรงแรมของพวกคุณ อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของโจวซื่อกรุ๊ปหรือคะ"
ผู้จัดการได้ยินแล้วก็หันหน้ามาตอบ "ใช่ครับ"
เมื่อเอ่ยจบ เขาถึงนึกภาพเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ขึ้นมาได้ จึงถามอย่างไม่มั่นใจว่า "คุณสุภาพสตรี คุณรู้จักประธานโจวของพวกเราหรือครับ"
หร่วนซิงหว่านหัวเราะแห้งๆ "เคยเจอกันก่อนหน้านี้น่ะค่ะ"
ผู้จัดการคิดว่าเธอน่าจะมาเข้าร่วมงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทเทคโนโลยีดาวสว่าง รู้จักประธานโจวก็ไม่แปลก จึงไม่ได้เอ่ยถามต่อ แต่หาหัวข้อสนทนาอื่นแทน "นอกจากโรงแรมแล้ว ทั้งรีสอร์ทล้วนอยู่ภายใต้การจัดการดูแลของโจวซื่อกรุ๊ป ครั้งนี้ประธานโจวมาก็เป็นการสังเกตการทำงานปลายปีประจำรอบครับ"
หร่วนซิงหว่านพยักหน้า ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามว่า "ถ้าอย่างนั้นเขา...มาเมื่อไรหรือคะ"
"เมื่อวานตอนกลางคืนครับ"
ทว่าสิ่งที่ผู้จัดการไม่ได้พูดก็คือ แต่ก่อนการรายงานปลายปี ประธานโจวไม่เคยมาด้วยตัวเองมาก่อน
เมื่อคืนวานกลางดึก ตอนที่ประธานโจวมาถึง ก็ทำให้ทั้งในและนอกรีสอร์ทตกใจจนแทบรับไม่ไหว นึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ทว่าดูจากเหตุการณ์ในเช้าวันนี้ ทุกอย่างล้วนปกติมาก ประธานโจวเพียงแค่ให้พวกเขารายงานการทำงานเท่านั้นเอง
เมื่อได้ยินว่าโจวฉือเซินมาเมื่อคืนวาน ความสงสัยสุดท้ายในใจของหร่วนซิงหว่านก็หายไปหมดสิ้น
เพียงแต่ความน่าจะเป็นอย่างหนึ่งในหมื่นที่ทำให้เธอสามารถพบได้นั้นโชคร้ายเกินไปแล้วจริงๆ
ผู้จัดการแนะนำทัศนียภาพใกล้ๆนี้และสถานที่ที่สามารถไปได้บางแห่งให้กับหร่วนซิงหว่าน
ลิฟต์โดยสารถึงชั้นหนึ่ง หร่วนซิงหว่านก็เอ่ยขอบคุณ เดินออกไปจากห้องโถงโรงแรม
ทว่าเธอไม่ได้ไปสถานที่ที่ผู้จัดการพูดถึงพวกนั้น แต่เดินไปตามทางอย่างไร้จุดหมาย
และเดินไปถึงริมทะเลสาบที่ถูกขุดนั้นโดยไม่รู้ตัว
เธอยืนอยู่บนสะพานให้ลมพัดนิ่งๆ ปล่อยอารมณ์ของตัวเองให้ว่างเปล่า
แต่เป็นเพราะองค์ประกอบของสภาพแวดล้อม นับตั้งแต่ที่ตัวเองมาถึงสถานที่นี้ เธอก็มักจะอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่อยู่ที่ถนนอานเฉียว
เธออยากรู้ว่าถนนสายนั้นเปลี่ยนไปหรือไม่ เหล่าเพื่อนบ้านที่อยู่บนถนนล้วนย้ายออกไปแล้วหรือไม่
ยังมีน้าฉิน น้าสวี่....
พวกเธอล้วนสบายดีไหม
หร่วนซิงหว่านรู้สึกว่า ชั่วชีวิตนี้ของเธอน่าจะหาสถานที่เก่าแก่และสงบเงียบเช่นนี้พบอีกได้ยาก และไม่มีช่วงเวลาว่างๆสบายๆแบบนั้นอีก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน โทรศัพท์มือถือของหร่วนซิงหว่านดังขึ้น
เป็นเฉิงเว่ยที่โทรศัพท์มา
"ซิงหว่าน คุณไม่อยู่ที่ห้องหรือ"
"ขอโทษนะคะ ฉันอยู่นอกโรงแรม ลืมบอกคุณไปเลย ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้ค่ะ"
เฉิงเว่ยเอ่ย "ไม่เป็นไร อย่างนั้นผมจะรอคุณที่ชั้นล่างของโรงแรม"
เมื่อวางสายโทรศัพท์ เฉิงเว่ยก็เดินจากหน้าประตูห้องของหร่วนซิงหว่านไปกดลิฟต์
และในตอนนี้เองที่เงาร่างของโจวฉือเซินปรากฏตัวขึ้น ยืนนิ่งอยู่ด้านข้างเขา
เฉิงเว่ยเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน "การที่ประธานโจวมาปรากฏตัวขึ้นที่นี่น่าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญสินะ คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่า เพื่อสร้างโอกาสในการพบหน้ากับซิงหว่าน ประธานโจวจะเปลืองแรงสร้างสถานการณ์ยิ่งใหญ่ขนาดนี้"
โจวฉือเซินโต้กลับเรียบๆว่า "ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่า ประธานเฉิงจะไม่มีแม้กระทั่งความหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเองแม้แต่น้อย หรือจะพูดว่า เมื่อคืนวานประธานเฉิงยังเห็นไม่ชัดเจนมากพอ"
เฉิงเว่ยกำหมัดแน่น หันหน้าไปมองเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยการอดกลั้นต่อโทสะ
โจวฉือเซินสบตาเขา ริมฝีปากบางแย้มรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว