เป็นเพราะหิมะตกในตอนกลางคืน เลยทำให้รีสอร์ตเต็มไปด้วยหมอกครึ้ม ทำให้สภาพอากาศไม่ค่อยดีนัก
ตอนหร่วนซิงหว่านถูกเฉิงเว่ยประคองขึ้นรถ เธอก็หันกลับไปมองด้านหลัง
และก็ยังคงเห็นคฤหาสน์หลังนั้นอยู่ไกลๆ
เฉิงเว่ยก็มองไปตามสายตาของเธอ เขาเม้มปาก :" ซิงหว่าน เราไปกันเถอะ "
หร่วนซิงหว่านเรื่องสายตากลับมา เธอพยักหน้าเบาๆ แล้วก้มตัวเพื่อเข้าไปในรถ
เมื่อพวกเขาออกไปแล้ว หลินหนานจึงขอประตูห้องของโจวฉือเซิน พร้อมรายงานว่า: " ประธานโจว ตอนนี้ประธานเฉิงได้พาคุณผู้หญิงไปแล้วครับ "
โจวฉือเซินตอบอืมด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ และลุกขึ้นยืน: " ไปเถอะ "
หลินหนานที่เดินตามเขาจากข้างหลัง ก็พูดขึ้นมาอีกว่า: " ประธานโจว เมื่อกี้ผมได้รับข่าวมาใหม่ บ้านตระกูลโจงกำลังจัดเตรียมให้คุณหนูไปเมืองนอกครับ น่าจะเป็นเรื่องของสองวันที่แล้ว น่าจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฝั่งตระกูลหลิน ตอนนี้ยังไม่กำหนดเส้นทางที่ชัดเจนครับ "
ปากบางโจวฉือเซินยิ้มอย่างเย็นชา : " ดูเหมือนละครที่พวกเขาแสดง จะเป็นภาคต่อแล้วล่ะ "
" ประธานโจวจะบอกว่า.... "
" ตอนนี้คนที่คอยสนับสนุน เป็นหลักก็คือบ้านตระกูลโจง นายคิดว่าเธอจะยอมแตกหักกับพวกเขาเพราะโจวอานอานคนเดียวอย่างนั้นเหรอ? "
ก่อนหน้านี้ที่ออกจากบ้านใหญ่ตระกูลโจวไป ก็ยังแสดงละครให้เขาเห็นอีก
ครั้งนี้โจวอานอานยอมออกไปตามขั้นตอนที่ตระกูุลหลินได้จัดการเอาไว้ ซึ่งโจงเสียนก็เป็นสะพานที่คอยเชื่อมทั้งสองฝ่าย
หลินหนานตอบว่าพอจะเข้าใจแล้ว: " ผมได้กำชับแล้ว หากว่า: " ตอนนี้ผมได้กำชับลงไปแล้ว ถ้าคุณหนูอานอานออกจากบ้านบ้านตระกูลโจง เราจะสะกดรอยตามไปทันที "
ผ่านไปสักพัก โจวฉือเซินก็พูดขึ้นว่า: " นายก็ไปสืบข่าวของหลินจื้อหย่วนด้วย ช่วงนี้พอมีข่าวคราวอะไรบ้างไหม "
" พักนี้ประธานหลินทำตัวแปลกๆ ครับ เขาสืบหา.... พ่อของคุณผู้หญิงตลอดเลย "
ฝีเท้าของโจวฉือเซินได้หยุดชะงักลง คิวคิ้วขมวดเล็กน้อย: " หร่วนจุน? "
" ใช่ครับ " หลินหนานพูดอีกว่า " จริงสิ ประธานโจว ยังมีอีกเรื่องครับ ผมสืบถึงหลินจื้อหย่วนเพิ่งจะรู้ว่า พักนี้ลูกน้องของเขาให้เงินกับนักสืบเชลยศักดิ์ก้อนใหญ่ ผมว่านี่จะต้องเป็นผู้ว่าจ้างนักสืบเชลยศักดิ์แน่นอน จะต้องเป็นน้องชายของคุณผู้หญิงแน่ แต่น้องชายของคุณผู้หญิงก่อนหน้านี้ได้ไปที่สำนักพิมพ์หลายที่ แล้วตีพิมพ์รูปภาพเก่าของผู้สูญหายคนหนึ่งออกมา
" รูปล่ะ "
หลินจื้อหย่วนรีบหยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ยืนให้โจวฉือเซิน
โจวฉือเซินรับโทรศัพท์มา ก็เห็นว่าตรงกลางให้ในรูปมีแค่เด็กผู้หญิงอายุสองถึงสามขวบ นิ้วเรียวยาวนั้นก็ขยับเล็กน้อย เพื่อขยายรูปให้ใหญ่กว่าเดิม
เด็กหญิงตัวน้อยในรูป เรียกได้ว่าเป็นหร่วนซิงหว่านในเวอร์ชันย่อส่วนเลยทีเดียว
ส่วนผู้หญิงที่กำลังอุ้มเด็กน้อยอยู่ หน้าตาและเค้าโครงก็ดูคล้ายหร่วนซิงหว่านอยู่บ้าง
แต่ผู้ชายที่อยู่ด้านข้างกลับทุกเบลอหน้าไว้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่หร่วนจุน
โจวฉือเซินหรี่ตาลง : " หลินจื้อหย่วนลองไปสำรวจดูหร่วนจุน จะก่อนหร่วนเฉินตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ตามหาคนหาย หรือว่าตีพิมพ์ทีหลัง? "
หลินหนานตอบ: " หลังจากนั้นครับ "
ผ่านไปไม่กี่วินาที โจวฉือเซินก็คืนโทรศัพท์ให้กับหลินหนาน จากนั้นก็สาวเท้าเดินไปข้างหน้า: " หลินจื้อหย่วน สืบต่อไป ต้องดูว่าเขาจะทำอะไรกันแน่ "
" ครับ "
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง โจวฉือเซินก็พูดขึ้นมาอีกว่า: " หร่วนซิงหว่านไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของหร่วนจุน ไปสืบมาว่าอีกสองคนในรูปนั้นเป็นใคร "
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินหนานก็ตกใจจนอ้าปากค้าง นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำตอบเช่นนี้
เมื่อยืนอยู่หน้าลิฟต์ โจวฉือเซินก็เอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ สายตาก็เหลือบมองไปทางเขา: " ตกใจมากเลยล่ะสิ "
" เปล่าครับ ผมแค่..... "
" แค่ดูจากเรื่องพวกนั้นที่หร่วนจุนทำแล้ว หร่วนซิงหว่านไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเขาหรอก ถึงจะสมเหตุสมผล "
หลินหนานพยักหน้าน้อยๆ : "ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ผมจะรีบให้คนไปสืบเลยครับ "
..........
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามีเก่า...มาขอแต่งงานอีกแล้ว
เอาอีกแล้ว รวบรัดตัดจบในสามบทสุดท้าย ตัดทิ้งดื้อๆ ไม่เล่าว่าพี่กับพ่อพระเอกเป็นยังไง และตระกูลของหนิงหนิงเป็นไงกัน น้าชั่วของหนิงหนิงตายจริงไหม...